บริษัท ไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเท็ค ยืนยันการฉีดวัคซีน 3 โดส สามารถต้านทานโอมิครอนได้

ขณะที่นักวิจัยในแอฟริกาใต้พบภูมิต้านทานจากไฟเซอร์ ในการต่อสู้กับเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนหลังฉีดครบ 2 เข็มนั้น ลดลงไปกว่า 40 เท่า

เมื่อวานนี้ บริษัท ไฟเซอร์ ของสหรัฐฯ กับบริษัท ไบโอเอ็นเทค ของเยอรมนี ออกแถลงการณ์ร่วมระบุว่า การทดสอบในห้องทดลองชี้ การฉีดวัคซีนต้านโควิดที่ทั้ง 2 บริษัทพัฒนาร่วมกันพัฒนาเป็นจำนวน 3 เข็ม สามารถต่อต้านโอมิครอน ได้ และหากจำเป็นพวกเขาอาจสามารถส่งมอบวัคซีนที่พัฒนาสูตรเฉพาะสำหรับรับมือกับโอมิครอนโดยเฉพาะได้ในเดือนมีนาคม 2565

แถลงการณ์ดังกล่าวถือเป็นท่าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ที่ระบุว่า วัคซีนต้านโควิดของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคว่า สามารถต้านโอมิครอนได้ โดยไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ยอมรับว่า ภูมิคุ้มกันจะลดลงอย่างมากหากฉีดเพียง 2 เข็ม แต่ถ้าฉีด 3 เข็มมันจะสร้างภูมิคุ้มกันได้มากขึ้นถึง 25 เท่าทีเดียว

ทั้งนี้ แถลงการณ์ของไฟเซอร์มีขึ้น หลังจากที่ ทีมนักวิจัยแอฟริกาใต้เปิดเผยผลการวิจัยพบว่า  ภูมิต้านทานจากวัคซีนไฟเซอร์ ในการต่อสู้กับโอมิครอนหลังฉีดครบ 2 เข็มนั้น ลดลงไปกว่า 40 เท่า เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นก่อนหน้า

โดย ทีมนักวิจัยที่สถาบันวิจัยสุขภาพแอฟริกัน (เอเอชอาร์ไอ) ได้เก็บตัวอย่างเลือดจากบุคคล 12 คน ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ครบ 2 เข็ม และในจำนวนนี้ยังไม่มีใครได้รับวัคซีนเข็ม 3 หรือเข็มกระตุ้น เพื่อนำตัวอย่างเลือดมาตรวจหาแอนติบอดี ที่สามารถป้องกันการติดใหม่โอมิครอน

และพบว่า แอนติบอดีในร่างกายที่เกิดจากการได้รับวัคซีนต้านโควิดของไฟเซอร์ มีประสิทธิภาพลดลงถึง 41.4 เท่าในการต่อสู้กับโอมิครอน เมื่อเทียบกับการสู้กับเชื้อสายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้า

ทั้งนี้ สายพันธุ์โอมิครอนมีการกลายพันธุ์มากถึง 50 ตำแหน่ง ซึ่งรวมถึงการกลายพันธุ์ที่โปรตีนหนาม หรือสไปค์โปรตีน 32 ตำแหน่ง ทำให้เชื้อโควิดโอมิครอนดูเหมือนสามารถหลบเลี่ยงภูมิต้านทาน แอนติบอดีได้มากกว่าเดิม