สถานการณ์โควิด-19 ที่ต่างประเทศ เชื้อ 'โอไมครอน' ระบาดแล้ว 20 ประเทศทั่วโลก

สังคม

สถานการณ์โควิด-19 ที่ต่างประเทศ เชื้อ 'โอไมครอน' ระบาดแล้ว 20 ประเทศทั่วโลก

โดย pattraporn_a

1 ธ.ค. 2564

16 views

การเฝ้าระวังเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่ โอไมครอนของหลายประเทศทั่วโลก โดยหลายประเทศเริ่มใช้มาตรการห้ามผู้เดินทางจากแอฟริกาเข้าประเทศ หลังพบโอไมครอนระบาดแล้วใน 20 ประเทศทั่วโลก


สำนักงานเฝ้าระวังสุขภาพแห่งชาติบราซิล ยืนยันพบชาวบราซิล 2 คนแรกที่ติดเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์โอไมครอนแล้ว โดยหนึ่งในนั้นเป็นผู้โดยสารที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ผ่านทางสนามบินนครเซาเปาโล เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งผลการตรวจเชื้อเป็นลบ แต่ทั้งสองคนเกิดมีอาการป่วยเล็กน้อย จึงเข้ารับการตรวจซ้ำอีกครั้ง เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ปรากฎว่าพบการติดเชื้อสายพันธุ์ "โอไมครอน" ทั้งคู่


ส่วนอิสราเอล ตรวจพบแพทย์ 2 คน ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ "โอไมครอน" โดย 1 ใน 2 คน เพิ่งเดินทางกลับจากการประชุมที่ลอนดอน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่คาดว่าน่าจะติดเชื้อมาจากเพื่อนร่วมงาน รายงานระบุว่า แพทย์ที่ติดเชื้อทั้ง 2 คน ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด -19 แล้ว 3 เข็ม ทำให้ขณะนี้มีอาการป่วยที่ไม่รุนแรง ขณะเดียวกัน หน่วยงานด้านสาธารณสุขของอิสราเอล ยังรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์นี้อีก 2 คน โดยหนึ่งคนเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศมาลาวี ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาแล้ว ทั้งนี้ อิสราเอลประกาศพรมแดน งดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน


ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ก็ได้รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ "โอไมครอน" รายแรกของประเทศ เป็นชายสัญชาติซาอุฯ เดินทางมาจากประเทศในแถบแอฟริกาตอนเหนือ


ล่าสุดกระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นได้ ออกมาร้องขอสายการบินระหว่างประเทศ หยุดการจองตั๋วที่จะเข้ามาในญี่ปุ่นทุกเที่ยวบิน ไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้


เช่นเดียวกับกระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย ที่ได้ประกาศห้ามผู้ที่เดินทางจากประเทศที่มีการรายงานผู้ติดเชื้อโควิด นายน์ทีนสายพันธุ์ "โอไมครอน" และประเทศที่มีความเสี่ยงสูงเข้าประเทศ โดยนอกจาก 8 ประเทศในทวีปแอฟริกาทางตอนใต้ที่พบการแพร่ระบาดของ "โอไมครอน" แล้ว มาเลเซียยังอาจจะมีการขยายมาตรการนี้กับประเทศอื่น เช่น อังกฤษ และเนเธอร์แลนด์ และชะลอโครงการการท่องเที่ยว "Vaccinated Travel Lanes (VTL)" กับประเทศต่าง ๆ อีกด้วย


องค์การอนามัยโลก WHO ได้ออกคำแนะนำการเดินทางใหม่ สำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ , มะเร็ง รวมทั้ง เบาหวาน ที่ยังฉีดวัคซีนไม่ครบโดส ควรเลื่อนแผนการเดินทางไปต่างประเทศ ที่พบการแพร่ระบาดของโควิด19 เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และอาการป่วยรุนแรง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ "โอไมครอน" ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก


อย่างไรก็ตาม บริษัท เมอร์ค แอนด์ โค ระบุว่ายาเม็ดต้านไวรัส "โมลนูพิราเวียร์" ที่บริษัทพัฒนาขึ้น อาจมีประสิทธิภาพต้านโควิด 19 "โอไมครอน" ตามกลไกของการรักษา และข้อมูลพันธุกรรมของเซลล์ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน


ซึ่งเบื้องต้นข้อมูลนี้ยังไม่ได้มีการวิจัยเพื่อศึกษาแบบเฉพาะเจาะจง ถึงประสิทธิภาพของยาต้านไวรัส สายพันธุ์ "โอไมครอน" แต่ที่ผ่านมา ยาดังกล่าวสามารถที่จะรับมือกับ เชื้อกลายพันธุ์ แกมม่า (gamma), เดลต้า (Delta) และ มิว (MU)


ทั้งนี้ เมอร์ค ได้ยื่นเรื่องของอนุมัติใช้ยาเม็ดต้านไวรัสนี้ ต่อ องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ เอฟดีเอ ไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางคณะกรรมาธิการเอฟดีเอได้ลงมติ 13 ต่อ 10 เห็นชอบ ให้ใช้ยาเม็ดในการรักษาโควิด นายน์ทีนในสหรัฐฯแล้ว เช่นเดียวกับ อังกฤษ ที่อนุมัติใช้ยาเม็ดนี้ไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

คุณอาจสนใจ

Related News