จากกรณีเกิดเพลิงไหม้โกดังเก็บน้ำมันเครื่องของบริษัท ประภากรออยล์ ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม และไฟลุกลามไปยังบ้านเรือนประชาขนใกล้เคียง รวมมูลค่าความเสียหาย 40 ล้านบาท ซึ่งในวันที่เกิดเหตุ ยังไม่มีใครรู้วาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ และเป็นครั้งที่ 2 ของโรงงานแห่งนี้

เมื่อวานนี้ (1 ธ.ค.64) ปรากฎว่าช่วงเย็นเกิดกระแสข่าวว่า ตร.พบหลักฐานว่า มีพนักงานคนหนึ่งในโรงงานนี้เป็นผู้วางเพลิง ทีมข่าวสอบถาม พล.ต.ต ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนครปฐม ยืนยันตำรวจ พบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในโกดัง ซึ่งแม้โกดังจะถูกไฟไหม้แบบ100% แต่เซิฟเวอร์ของกล้องวงจรปิด สามารถกู้ไฟล์ได้

และพบหลักฐานว่า พนักงานหญิงคนหนึ่งอายุ 38 ปี เป็นคนวางเพลิง โดยมีลักษณะการนำกองกระดาษเข้าไปยังถังน้ำมันเครื่อง บริเวณกลางโกดัง จากนั้นก็เกิดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว โดยที่พนักงานคนนี้ก็กระโดดออกมาและได้รับบาดเจ็บ

ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุนั้น พนักงานคนนี้ยังให้การสับสน อ้างว่าที่ทำไปเพราะโดนเจ้านายดุด่า หรือมีความกดดันในการทำงาน แต่ยังไม่แน่ชัดว่าสาเหตุใด เป็นเพียงคำกล่าวอ้าง ซึ่งตร.จะสอบปากคำ เจ้าของโรงงานและพนักงานคนอื่นๆ ประกอบสำนวน ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 จะแถลงรายละเอียดทั้งหมด เวลา10.00 น. ที่สภ.โพธิแก้ว จ.นครปฐม

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายวิธี ว่องประเสริฐ ชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากเหตุไฟไหม้ และเป็นคนเห็นเหตุการณ์ช่วงที่พนักงานก่อเหตุ

โดยคุณวิธีบอกว่า ก่อนเกิดไฟไหม้ ขับรถ จยย.จากปากซอยจะเข้าบ้าน ซึ่งต่อมาสนโกดังนี้ ทุกคนั้งจะมองที่โกดังตลอด เพราะกังวลว่าจะเกิดอันตรายกับบ้านตนเพราะเก็บวัตถุอันตรายอยู่ใกล้กับชุมชน

ปรากฏว่า ช่วงนั้นสังเกตเห็นพนักงานไม่รู้ว่าหญิงหรือชาย มองจากไกลๆ พนักงานคนนี้ ถือกองกระดาษ และเดินไปตรงถังน้ำมันเครื่อง จากนั้นไม่รู้เกิดอะไรขึ้น แล้วก็เกิดไฟลุกขึ้นโดยไฟลุกจากด้านบน ไม่ได้ลุกจากพื้นด้านล่างและพนักงานคนนี้ ก็กระโดดออกมา จึงเชื่อว่านี่คือการวางเพลิง และขอให้ทางโรงงานและตำรวจไปสอบปากคำพนักงานคนที่ได้รับบาดเจ็บ

โดยการให้ข้อมูลกับทีมข่าวนั้น คุณวิธี บอกตั้งแต่วันเกิดเหตุ แต่ยังไม่มีใครสงสัยประเด็นพนักงานจะวางเพลิงเอง

ทางด้านคุณนพรุจ อึ้งประภากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทประภากรออยล์จำกัด เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตอนนี้รู้สึกช็อกและเสียใจ ที่พนักงานเป็นผู้ก่อเหตุ โดยพนักงานคนนี้ ทำงานกับบริษัทมา 9 ปี ไม่เคยมีปัญหามาก่อน และตนก็ไม่เคยไปดุด่าหรือกดดันพนักงานคนนี้ บริษัทของตนดูแลพนักงานเหมือนพี่น้อง จึงไม่รู้เหตุผลว่า ทำไมพนักงานคนนี่ต้องเผาโกดังด้วย หรือไม่พอใจอะไร

ซึ่งในโกดัง มีกล้องวงจรปิด ติดไว้นับ 10 ตัวทั้งในโกดังและรอบนอก โดยหลังเพลิงสงบ ตนรู้ว่าเซิฟเวอร์อยู่จุดไหนก็เป็นคนเข้าไปนำเซิฟเวอร์นี้ให้กับตำรวจเอง เพราะขณะเกิดเหตุเป็นช่วงพนักงานพักกลางวัน ไม่มีใครอยู่ในโกดัง ซึ่งตนก็สงสัยว่าเหตุที่เกิดเพลิงไหม้รอบ 2 มาจากอะไรกันแน่ จนกระทั่งมารู้ความจริงเมื่อวานนี้ ยอมรับว่าทำใจลำบาก และยังไม่ได้คุยส่วนตัวกับพนักงานที่ก่อเหตุ

ส่วนกรณีหลายคนสงสัยว่า ตนอาจจะให้พนักงานที่ก่อเหตุลอบวางเพลิงเพื่อเอาประกัน ตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง มูลค่าความเสียหาย 40 ล้านบาท แต่ทุนประกันต่ำกว่าความเสียหาย เป็นไปไม่ได้ที่จะทำ

กรณีนี้ พนักงานเป็นผู้วางเพลิง ก็ยังไม่แน่ชัดว่าประกันจะจ่ายหรือไม่ ซึ่งต้องรอรายละะอียดจากตำรวจอีกครั้ง ซึ่งหากประกันไม่จ่ายตนกับครอบครัวก็จะต้องปรึกษากันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ในมุมของประกันภัย แน่นอนว่าหากเป็นการวางเพลิง ประกันจะชดใช้หรือไม่ เรื่องนี้ทาง แหล่งข่าวจาก คปภ.ระบุว่า การทำประกันของโรงงานทำประกันภัยไว้ กรณีที่เกิดอุบัติในการเกิดเพลิงไหม้ เช่นไฟฟ้าลัดวงจร ไฟช๊อต แบบนี้ประกันจ่าย

แต่กรณีนี้การวางเพลิง ต้องรอดูจากรายละเอียดจากตำรวจ เป็นหลัก แต่ในรูปการแล้วเป็นลักษณะของการวางเพลิง ซึ่งประกันไม่จ่าย และจะต้องไปตรวจสอบว่าการวางเพลิงนี้มีใครอยู่เบื้องหลัง เกี่ยวข้องอะไรกับบริษัทหรือไม่

หากประกันไม่จ่าย คนที่ต้องชดใช้คือ ก็คนวางเพลิง ซึ่งมูลค่าเสียหายขนาดนี้ หากคนก่อเหตุ ไม่มีเงินมาชดใช้ ก็ต้องรับโทษจำคุกตามกฎหมาย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/iYE_9pY54Ic