เปิดวงจรปิดก่อนพบ ด.ช.วัย 7 ขวบ เป็นศพ ด้านผู้ต้องสงสัยยังปากแข็ง แม่วอนสั่งประหารชีวิต

อาชญากรรม

เปิดวงจรปิดก่อนพบ ด.ช.วัย 7 ขวบ เป็นศพ ด้านผู้ต้องสงสัยยังปากแข็ง แม่วอนสั่งประหารชีวิต

โดย weerawit_c

28 พ.ย. 2564

3.5K views

จากกรณีเจ้าหน้าที่ ทสปช. ออกลาดตระเวนและรับแจ้งมีเด็กชายคนหนึ่งได้หายออกจากห้องพักแฟลตหรรษา ช่วงเวลา 14.00 น. ก่อนออกตามหาตามห้องพักต่างๆ จนกระทั่งเวลา 21.26 น. พบศพเด็กชายนอนเปลือยเปล่าไม่ใส่เสื้อผ้าเสียชีวิตในสภาพนอนคว่ำหน้า มีเลือดไหลออกทางปาก


ที่ไหปลาร้าซ้ายมีร่องรอยบาดแผลลึกจากการถูกเล็บข่วนลึกเห็นเนื้อขาว 3 รอย ส่วนบริเวณลำคอพบมีรอยบีบจนเขียวช้ำขาดอากาศภายในห้องน้ำห้องพักเลขที่ 37 ชั้น 3 ตึก 1 แฟลตหรรษา ถนนสุทธิหรรษา ตำบลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้ 1 คน เหตุเกิดห้องพัก 37 ชั้น 3 ตึก 1 แฟลตหรรษา


ต่อมาเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสงขลา เข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลหาดใหญ่ ภายในห้องที่เกิดเหตุ จากนั้นได้เข้าตรวจสอบที่ห้องพักของผู้ต้องสงสัยเลขที่ 3 ชั้น 2 ตึก 1 แฟลตหรรษา เพื่อหาหลักฐานความเชื่อมโยงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมเด็กชายวัย 7 ขวบ หรือไม่ เบื้องต้นทราบชื่อ เด็กชายอัคนัส ทองรักษ์ หรือ ฟิตรี อายุ 7 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.1 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้พบกับคราบกองเลือดกลางห้องพักแต่ไม่พบเสื้อผ้าที่เด็กใส่


จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านสะดวกซื้อซึ่งตั้งอยู่ใต้แฟลตหรรษาพบว่าก่อนที่น้องฟิตรีจะเสียชีวิตได้เดินเข้าไปเลือกขนมในร้านโดยสวมเสื้อลายสีแดง หรือ เสื้อ PVP ใส่กางเกงขาสั้น ก่อนจะเดินออกจากร้านไปหาน้องภูวาดลที่ห้องพักและพบศพในสภาพไม่สวมเสื้อผ้านอนเปลือยกายคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำ ห้องพักเลขที่ 37 ชั้น 3 ในเวลาต่อมา


ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่แฟลตหรรษาอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากร้านขายของ (มินิมาร์ท) ใต้แฟลตหรรษาก่อนที่น้องฟิตรีจะถูกคนร้ายลักพาตัวก่อนถูกฆ่าเป็นศพ โดยภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกช่วงเวลาประมาณ 11.14 น. จะเห็นน้องฟิตรี ถือร่มเดินมาจากห้องพักและเข้าร้านสะดวกซื้อ โดยน้องได้วิ่งเลือกขนมด้วยความไร้เดียงสา ก่อนที่จะวิ่งไปเอื้ยมหยิบซองมาม่า 2 ซอง เพื่อนำกลับไปกินที่ห้อง โดยออกจากร้านไปเวลา 11.15 น.


ต่อมาเวลาประมาณ 11.17 น. พ่อของน้องได้ออกไปทำงานและลงมาซื้อข้าว จะเห็นว่าน้องฟิตรี ได้วิ่งตามไปหาพ่อและยืนเกาะร่มแม่ค้าอยู่สักพักและวิ่งตามพ่อกลับไปที่ห้อง


ต่อมา 14.50 น. พ่อของน้องฟิตรีทำงานเสร็จและได้กลับมาที่ร้านค้า และซื้อข้าวและน้ำแข็งกลับไปที่ห้อง ซึ่งเวลานั้นยังไม่รู้ว่าลูกชายได้หายตัวไป และเป็นช่วงเวลาที่ตำรวจคาดว่า คนร้ายได้เริ่มลงมือลักพาตัวน้องฟิตรีไปทำร้ายและนำไปซ่อนแล้ว


จนกระทั่งเวลา 17.56 น. ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพ นายกันตพงศ์ ผู้ต้องสงสัยเดินลงมาจากห้องพักและเข้ามาซื้อครีมทาหน้าขาว ภายในร้านค้า โดยได้ยืนเลือกอยู่สักพัก ก่อนก้มดูเงินในมือและจ่ายเงินเดินออกจากร้านไป โดยนายกันตพงศ์ แต่งกายเสื้อยืดบอลสีม่วง นุ่งกางเกงขาสั้น ผ้าผูกเอวสีเขียว ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว


ทางด้านพนักงานของร้านสะดวกซื้อให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ น้องได้วิ่งมาซื้อมาม่า 2 ซอง โดยเธอเป็นคนหยิบให้น้องเพราะน้องหยิบไม่ถึง หลังจากนั้นทราบข่าวรู้สึกตกใจมากที่น้องถูกฆ่าเสียชีวิต ส่วนผู้ต้องสงสัยก็มักจะมาซื้อของที่ร้านเป็นประจำ ซึ่งในวันเกิดเหตุผู้ต้องสงสัยยังมาซื้อครีมทาหน้าขาวทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเวลานั้นทุกคนเริ่มหาน้องฟิตรีกันแล้ว


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ขึ้นไปที่ห้องพักของนายกันตพงศ์ ผู้ต้องสงสัย ซึ่งอยู่แฟลตหรรษา 1 ชั้น 2 ห้องหมายเลข 3 แต่เมื่อผู้สื่อข่าวสังเกตุเห็นมีสติ๊กเกอร์ปิดทับตัวเลขอยู่เมื่อแกะสติ๊กเกอร์ออกพบว่าเป็นเลข 1 โดยห้องดังกล่าวเป็นห้องหมายเลข 13


บริเวณหน้าห้องของนายกันตพงศ์ เหนือประตู พบแม่กุญแจขนาดใหญ่ ถูกพันด้วยผ้าสอดอยู่ ประตูห้องล็อค เอากล้องส่องไปในด้านจะเห็นกองผ้าจำนวนมากอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำซึ่งชาวบ้านให้ข้อมูลว่า นายกันตพงศ์มีอาการทางจิต สติไม่ค่อยดี มักจะเหม่อลอยยืนคุยคนเดียว บ้างก็นั่งเฝ้าบันไดทั้งวัน โดยห้องของนายกันตพงศ์ อยู่ห่างจากห้อง น้องภูมิ เพื่อนสนิทของน้องฟิตรี ถัดไปเพียง 5 ห้อง


จากการสอบถาม เพื่อนข้างห้องผู้ต้องสงสัยซึ่งอยู่ติดกัน ได้เล่าว่า ตนทำงานกลางคืนและได้กลับมาที่ห้องพักก่อนจะหลับไปตอนเวลา 08.00 น. จนถึงเวลา 17.00 น. ซึ่งในวันเกิดเหตุตนกำลังจะไปทำงานพอดีก็ได้เห็นนายกันตพงศ์ ผู้ต้องสงสัย ได้เดินถือถุงขยะใบใหญ่เหมือนกำลังเก็บกวาดห้องแล้วนำพวกขวดพวกขยะไปทิ้งข้างล่าง โดยพฤติกรรมของนายกันตพงศ์ผู้ต้องสงสัยจะไม่ค่อยสุงสิงกับใครและไม่มีใครอยากสุงสิง ซึ่งนายกันตพงศ์ผู้ต้องสงสัยจะอยู่แบบเงียบๆ ซึ่งได้อยู่ที่นี่มาประมาณ 6-7 เดือนได้


เพื่อนข้างห้องที่อยู่ชั้น 3 ติดกับห้องหมายเลข 37 ที่คนร้ายนำศพน้องฟิตรีไปทิ้งไว้ภายในห้องน้ำบอกว่า ห้องดังกล่าวไม่มีคนอยู่ และเปิดทิ้งไว้ไม่มีกุญแจล็อค ส่วนผู้ต้องสงสัย มักจะมานั่งเหม่อลอยอยู่ที่บันไดทางขึ้น สายตาดูทุกห้องตลอด วันเกิดเหตุ ตัวเองไม่ได้ยินเสียงร้องอะไรของเด็กคาดว่าคนร้ายน่าจะฆ่าน้องจากที่อื่นและเอามาทิ้งไว้ก่อนล็อคกุญแจปิดตาย


ส่วนบรรยากาศหน้าห้องเก็บศพของโรงพยาบาลหาดใหญ่ มีพ่อแม่และญาติๆ แม้กระทั่งเพื่อนของน้องฟิตรีมารอรับศพน้องฟริตรี หลังเจ้าหน้าที่นำร่างส่งชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อสรุปผลชันสูตรการเสียชีวิตของน้องฟิตรีอย่างละเอียด ก่อนจะมอบร่างน้องฟิตรีให้ทางญาติไปประกอบพิธีตามหลักศาสนาที่กุโบว์ผดุงมาศ หมู่ที่ 4 ตำบลผดุงมาตร อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส


ทางด้าน นางอัสมัส ทองรักษ์ แม่ของน้องฟิตรี เปิดเผยว่า ตอนนี้ให้รอผลชันสูตรว่าน้องเสียชีวิตอย่างไร หลังจากนั้นก็จะดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมายและถามว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไรกับการกระทำที่โหดร้าย ถ้าตนเลือกขอให้เลือกประหารชีวิต


อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างนำตัวนายกันตพงศ์เค้นสอบเครียดซึ่งล่าสุด ยังไม่รับสารภาพว่าเป็นคนทำและพยายามยืนยันว่า ตัวเองไม่เกี่ยวข้องที่สำคัญตนเองป่วยทางจิต ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องหาพยานหลักฐานให้ชัดเจน เพื่อมัดตัวคนร้ายให้ได้


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/sac5vglg6fI

คุณอาจสนใจ

Related News