หลายพื้นที่ในภาคอีสาน ชาวนารอน้ำลด เพื่อเตรียมฟื้นผืนนาใหม่ แต่ยังขาดทุนเมล็ดพันธุ์ข้าว

น้ำท่วมในลุ่มน้ำชี ที่อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น เริ่มคลี่คลาย ทำให้ผู้คนเริ่มสำรวจความเสียหายและทำความสะอาดบ้านเรือนแล้ว ขณะที่ชาวนาต่างรอเวลาน้ำลดเพื่อเตรียมฟื้นผืนนาใหม่ ยังต้องดิ้นรนหาเงินซื้อเมล็ดข้าวเพื่อทำนาปรัง หวังชดเชยความเสียหายนาปีที่ถูกน้ำทว่มทั้งหมด

ที่บ้านท่านางเลื่อน อยู่สภาพเหมือนแอ่งกะทะ ด้านทิศเหนือติดคันถนนสูงเกือบ 3 เมตร สายบ้านไผ่-มัญจาคีรี ด้านทิศใต้ ตะวันออก และตะวันตก ถูกน้ำจากแม่น้ำชี และคลองกุดโง้ง ประกบข้าง ทำให้น้ำหลากเข้าหลายทิศทางแต่ระบายออกได้ทางเดียว จนกัดเซาะถนนลึกเกือบ 4 เมตร

ความแรงของน้ำ ทำให้แผ่นกำแพงปูนกำแพงของวัดล้มราบลงกับพื้น ส่วนประตูเหล็กทางเข้าวัด ก็ถูกน้ำซัดจนขวางหน้าบ้าน ซึ่งไม่ง่ายที่จะเริ่มต้นฟื้นฟู

คืนนื้ (24 ต.ค.) จะเป็นคืนที่ 3 ที่ชาวบ้านหลายคน จะได้กลับมานอนบ้าน หลังจากน้ำลดลง แต่งานหนักของคนถูกน้ำท่วมที่หนักไม่แพ้ช่วงขนย้ายทรัพย์สินก็คือการฟื้นฟู เพราะเครื่องใช้ส่วนใหญ่ กลายเป็นเศษขยะ และต้องเสียเงินเพื่อหาซื้อของที่จำเป็นมาทดแทนอีก

ถัดจากตัวหมู่บ้านท่านางเลื่อนไปไม่ไกล คือทุ่งข้าวเหนียวของชาวบ้านในตำบลชนบท และชลบทวิบูลย์ นาข้าวที่ลงทุนค่าไถ หว่าน เมล็ดพันธุ์ กลายเป็นข้าวเน่าจมน้ำทั้งทุ่ง ข้าวกำลังงามสูงท่วมหัว เงินค่าไถ หว่าน กลบ ค่าเมล็ดพันธุ์และปุ๋ย ไม่ต่างจากเอามาแช่น้ำทิ้ง

การเป็นชาวนาที่ต้องซื้อข้าวคนอื่นกิน เป็นความขมขื่นอย่างหนึ่งของชาวชีวิตชาวนา นี่จึงอาจเป็นเหตุผลว่า ชาวบ้านท่านางเลื่อนเฝ้ารอเวลาน้ำลด เพื่อจะกลับไปพลิกฟื้นผืนนาอีกครั้ง ด้วยความหวังว่านาปรังที่กำลังจะมาถึง อาจจะให้ผลผลิตชดเชยข้าวที่นาปีที่เสียหายทั้งทุ่งนี้ได้