ผบ.ตร.สั่งทุกสถานีตำรวจ รับแจ้งความคดีฉ้อโกงทางโซเชียลฯ

สังคม

ผบ.ตร.สั่งทุกสถานีตำรวจ รับแจ้งความคดีฉ้อโกงทางโซเชียลฯ

โดย pattraporn_a

18 ต.ค. 2564

110 views

ผบ.ตร.ประกาศ 4 มาตรการเร่งด่วย เพื่อปราบปรามขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์ หลังพบประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก แต่การตามจับคนร้ายทำได้ยาก




คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมีผู้เสียหายอยู่ทั่วประเทศ และมีเสียงสะท้อนจากผู้เสียหายว่า ตำรวจในหลายท้องที่บ่ายเบี่ยงให้ไปแจ้งความที่อื่น วันนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาตรการเร่งด่วนให้ทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ ต้องรับแจ้งความใน คดีหลอกลวงทางออนไลน์ทุกกรณี ไม่ว่ามูลค่าความเสียหายจะมากหรือน้อย


ขณะที่ทีมข่าว 3 มิติได้ลงไปดูการปฏิบัติงานของโรงพักย่านจังหวัดนนทบุรี พบว่ามีสถิติคดีหลอกลวงทางออนไลน์สูงเกือบ 100 คดี โดยแต่ละวันจะพบว่าผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางออนไลน์เข้ามาแจ้งความมากเป็นอันดับต้นๆ


เมื่อเหยื่อเพิ่มขึ้น แต่ละโรงพักมีเสียงสะท้อนทั้งในมุมของเหยื่อว่า เจ้าหน้าที่ไม่อยากรับคดี ขณะเดียวกันมุมของตำรวจก็บอกว่าโรงพักมีคดีสารพัดรูปแบบและเรื่องหลอกทางออนไลน์ เป็นคดีที่ต้องมีความชำนาญเฉพาะทาง แต่คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีนับวันจะสูงขึ้น


วันนี้ พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ออกข้อปฏิบัติ 4 ข้อ ไปยังโรงพักทั่วประเทศให้รับมือกับคดี ที่สำคัญห้ามปฏิเสธรับแจ้งความ ห้ามแนะนำให้ผู้เสียหายไปที่อื่น และต้องรายงานคดีให้ผู้บังคับบัญชาทราบภายใน 24 ชม


เพื่อขับเคลื่อนการทำงานให้ประชาชนที่เดือดร้อนอย่างมากในขณะนี้ โดยทุกกองบังคับการ ต้องจัดตั้งทีมสืบสวนคดี และอีกไม่นานนี้ ตร.ได้พัฒนาเครื่องมือและโปรแกรมให้เป็นศูนย์กลาง ผู้เสียหายจะแจ้งความที่ไหนก็ได้ เมื่อข้อมูลอยู่ถังดียวกัน


ขณะที่ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ซึ่ง พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นนทบุรี รักษาการผู้กำกับการ สภ.ไทรน้อย ได้ทำความเข้าใจกับตำรวจชุดสืบสวน และพนักงานสอบสวน ให้รับแจ้งความทุกคดีไม่ว่าเหยื่อสูญเงินมากหรือน้อย ยอมรับว่ามีเหยื่อมาแจ้งความทั้งกู้เงินและถูกหลอกออนไลน์จนคดีล้น ตอนนี้รับไว้ 93 คดี


เมื่อรับคดีแล้ว ให้รีบสอบสวนออกหนังสืออายัดบัญชี ขอเอกสารเพิ่มเติม เพื่อทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดและทุกคดีที่รับแจ้งความต้อง นำมาบันทึกเข้าระบบ ซึ่งทั้งหมด 93 คดีที่รับแจ้งความได้บันทึกผู้กระทำผิดไว้แล้ว และขณะนี้ออกหมายจับได้ 4คดี เนื่องจากคดีหลอกทางออนไลน์ต้องใช้เวลา




ส่วนความคืบหน้ากลุ่มคนไทยที่ไปทำงานหลอกคนไทย เป็นแอดมินแอปเงินกู้และเว็บพนันออนไลน์และเว็บเกมส์ ซึ่งถูกลอยแพอยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา ขณะนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างประสานงาน และติดตามตัวผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการ

คุณอาจสนใจ

Related News