กอนช.เตือนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา-ท่าจีน จากฝนตกต่อเนื่อง

สังคม

กอนช.เตือนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา-ท่าจีน จากฝนตกต่อเนื่อง

โดย pattraporn_a

18 ต.ค. 2564

81 views

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เตือนประชาชนภาคกลาง เฝ้าระวังพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำท่าจีน ขณะที่ภาคอีสาน จับตา จ.ชัยภูมิ พบน้ำเกินความจุเกือบทุกเขื่อน


กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ออกประกาศ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำท่าจีน เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา ลุ่มน้ำปิง ลุ่มน้ำสะแกกรัง รวมไปถึงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือ การระบายน้ำที่เพิ่มขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคม


ประกอบด้วย พื้นที่อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ พื้นที่หลายตำบลในเขตอำเภอเมืองอุทัยธานี อำเถอเมืองชัยนาท อำเภอวัดสิงห์ อำเภอมโนรมย์ และอำเภอสรรพยา นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เฝ้าระวัง ในจังหวัดสิงห์บุรี คือที่อำเภออินทร์บุรี และอำเภอพรหมบุรี ที่อำเภอไชโย และอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง มีพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร


ที่ปทุมธานี และนนทบุรี นอกจากพื้นที่สองฝั่งเจ้าพระยา จะได้รับผลกระทบแล้ว ยังมีพื้นที่ใกล้คลองสาขา ตามหมู่บ้านจัดสรร ต่างได้รับผลกระทบหลายหมู่บ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่บางบัวทอง ลักษณะการท่วมเป็นน้อที่ต่อเนื่องจากเจ้าพระยา สู่คลองสาขา แล้วเอ่อเข้าระบบระบายน้ำ จนท่วมขังอยู่ 3-4 วันแล้ว ชาวบ้านอย่างน้อย 4 หมู่บ้าน รวมหลายพันหลังคาเรือน ได้ร้องมาที่ช่อง 3 และร้องไปที่ผู้ว่าฯนนทบุรี ให้ประสานเทศบาล ให้เข้าไปติดตั้งเครื่องสูบน้ำให้เพียงพอต่อการระบาย


ทั้งที่หมู่บ้านหงส์ประยูร ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ มีซอยแยกกว่า 30 ซอย มีบ้านกว่าพันหลังคาเรือน นอกจากนี้ยังมีท่วมที่หมู่บ้านภัทรินทร์ , หมู่บ้านรัตนาวดี และ หมู่บ้านสินเพชร ในย่านเดียวกัน ชาวบ้านร้องมาว่า หลายวันแล้ว ไม่มีหน่วยงานเข้าไปดูแล วันนี้ ผู้ว่าฯนนทบุรี ได้ลงพื้นที่ไปดูตามคำร้องเรียน และสั่งการให้เทศบาล นำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งเพิ่มเติม แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเพิ่มเติม


พื้นที่ด้านบนของท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ที่จังหวัดชัยนาท น้ำได้เข้าท่วมบางพื้นที่ เป็นรอบที่สองแล้ว มวลน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยหนองโรง ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เนินขาม และ อ.หันคา จ.ชัยนาท หลังปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยหนองโรงเกินความจุของอ่าง เนื่องจากฝนตกตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา จากอิทธิพลของพายุ "คมปาซุ" ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมชุมชนที่อยู่อาศัยของประชาชน รวมไปถึงพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย


สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ อ.เนินขาม และ อ.หันคา จ.ชัยนาท ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังเกิดอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุ "เตี้ยนหมู่" เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา


วันนี้ GISTDA ใช้ดาวเทียม Cosmo Skymed-1 ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในเขตภาคกลาง จากภาพจะเห็นได้ว่าพระนครศรีอยุธยามีหลายอำเภอยังคงท่วมขัง อาทิ อ.ผักไห่ อ.บางบาล อ.บางซ้าย และ อ.เสนา รวมแล้วกว่า 2 แสนไร่ ในขณะที่สุพรรณบุรี ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ อ.บางปลาม้า รวมแล้วกว่า 1 แสนไร่


ส่วนพื้นที่อื่นๆ เช่น ลพบุรี ปราจีนบุรี ชัยนาท สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ นครปฐม ฉะเชิงเทรา เพชรบูรณ์ และนครนายก พบพื้นที่น้ำท่วมกระจายอยู่เป็นวงกว้าง โดยภาพรวม 14 จังหวัด มีพื้นที่น้ำท่วมขังทั้งสิ้น 494,174 ไร่ ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำสายหลัก และที่อยู่อาศัยบางส่วน


ส่วนที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะที่ชัยภูมิ ซึ่งน้ำได้ท่วมรอบสองแล้ว โดยวันนี้ โครงการชลประทานชัยภูมิ ได้รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำในชัยภูมิ 7 แห่ง ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำบ้านเพชร มีน้ำเกินความจุ 113 เปอร์เซ็นต์, เขื่อนลำปะทาวบน เกินความจุ 108 เปอร์เซ็นต์, เขื่อนลำปะทาวล่าง 114 เปอร์เซ็นต์, อ่างเก็บน้ำลำคันฉู 108 เปอร์เซ็นต์, แก้มลิงบึงละหาน 265 เปอร์เซ็นต์, อ่างเก็บน้ำช่อระกา 123 เปอร์เซ็นต์ และโครงการน้ำพรม 149 เปอร์เซ็นต์ สถานการณ์น้ำเกินความจุนี้เอง ในช่วงสัปดาห์นี้ ชัยภูมิ อยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่


น้ำจากชัยภูมิ จะมีทั้งที่ไหลจากลำชี เข้าท่วมขอนแก่น ตามพื้นที่เดิมที่เคยท่วมเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา และน้ำจากชัยภูมิอีกสายหนึ่ง จะไหลเข้าอำเภอชุมแพ ของขอนแก่น ก่อนไหลลงอ่างเก็บน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ ทำให้มีน้ำไหลเข้ามากกว่าที่คาดการณ์ไว้


วันนี้ คณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดขอนแก่น จึงได้มีมติ จากเดิมที่ให้ระบายน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ไม่เกินวันละ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร ปรับเพิ่มเป็น 15-25 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยให้ค่อยๆเพิ่มเป็นแบบขั้นบันได เพื่อป้องกันผลกระทบกับพื้นที่ท้ายเขื่อน และเพื่อนที่ลุ่มน้ำพอง

คุณอาจสนใจ

Related News