เจ้ายุโรป 14 สมัย! ‘เรอัล มาดริด’ ย้ำแค้น ‘ลิเวอร์พูล’ ผงาดคว้าแชมป์ UCL

จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมป์เปียนส์ลีก ฤดูกาล 2021 - 22  เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ในรอบชิงชนะเลิศ ที่สนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล รองแชมป์พรีเมียร์ลีกจากประเทศอังกฤษ และ "ราชันชุดขาว " เรอัล มาดริด แชมป์ลาลีกา จากประเทศสเปน หลังทั้งคู่โคจรมาพบกันอีกครั้ง



โดย "เรอัล มาดริด" สามารถย้ำแค้นเอาชนะ "ลิเวอร์พูล" ในรอบชิงชนะเลิศได้อีกครั้ง จากจังหวะที่ "เฟเดริโก บัลเบร์เด" กึ่งยิงกึ่งผ่านมาให้ "วินิซิอุส จูเนียร์" ตุงตาข่าย ในนาทีที่ 59  หลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูได้ ส่งผลให้ "เรอัล มาดริด" เอาชนะ “ลิเวอร์พูล” ไปได้ 1-0 ประตู คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปียนส์ลีก สมัยที่ 14 ได้สำเร็จ โดยเกมนี้ "ตีโบ กูร์ตัว" ผู้รักษาประตู เรอัล มาดริด โชว์ฟอร์มเก่ง คว้าแมนออฟเดอะแมตช์ ไปครอง



ซึ่ง "เจอร์เกน คล็อปป์" กุนซือลิเวอร์พูล ได้ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมยอมรับความพ่ายแพ้ และชื่นชมนักเตะที่พยายามทำประตูมากขึ้นหลังโดนตามหลัง



"ในห้องแต่งตัวไม่มีใครรู้สึกว่าเป็นซีซั่นที่ยิ่งใหญ่เลยในตอนนี้ บางทีเราน่าจะต้องการเวลาอีก 2-3 ชั่วโมง มันเป็นจังหวะแค่ 2 หน ที่ตัดสินเกมของเรา เราเล่นกันได้ดีแม้ว่าจะไม่สมบูรณ์แบบ เรามีโอกาสยิงประตูมากแต่ว่ามันไม่ใกล้เคียง นักเตะพยายามกันเต็มที่หลังสกอร์ตามหลัง ไม่ใช่เรื่องแย่ที่ได้เข้าชิง นัดชิงซีซั่นหน้าเล่นกันที่ไหน ตุรกีใช่ไหม จองโรงแรมเลย" กุนซือลิเวอร์พูล กล่าวทิ้งท้าย



ขณะที่ด้านนอกสนามเกิดเหตุความวุ่นวาย โดยพบแฟนบอลบางส่วนพยายามปีนรั้วกั้นเพื่อเข้าชมเกม บางรายใช้ตั๋วปลอมในการเข้าชม ทำให้ต้องประกาศเลื่อนการแข่งขันไปถึง 36 นาที