'เอ็มบัปเป' ยิงเบิ้ล พาตราไก่ดับโปแลนด์ - อังกฤษฟอร์มหรู อัดเซเนกัล 3-0 ทะลุตัดเชือกฟุตบอลโลก

โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กับ คีเลียน เอ็มบัปเป ยิงทำสถิติในเวิลด์คัพ ช่วยฝรั่งเศสสยบโปแลนด์ 3 ประตู ต่อ 1 เข้ารอบ 8 ทีม ฟุตบอลโลก 2022 ส่วนอีกคู่ สิงโตคำราม อังกฤษ ฟอร์มหรู ซัด 3 ลูก ดับ เซเนกัล ทะลุตัดเชือกฝรั่งเศส ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่สนามอัล ธูมามา สเตเดียม กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เป็นการลงสนามในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฝรั่งเศส พบ โปแลนด์ สำหรับ ฝรั่งเศส เข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่มดี ทำไป 6 คะแนน ส่วน โปแลนด์ เข้ารอบมาในฐานะอันดับ 2 กลุ่มซี ทำไป 4 คะแนน

เริ่มเกมเป็นฝรั่งเศส ที่ครองบอลบุกได้มากกว่า และสร้างโอกาสลุ้นประตูหลายครั้ง ขณะที่โปแลนด์ อาศัยเกมรับและสวนกลับ นาที 38 พิโอเตอร์ เซียลินสกี ได้ซัดในกรอบ 2 ครั้งติด แต่ อูโก โยริส ยังปัดเอาไว้ได้ แม้จังหวะที่สามบอลจะไปเข้าทาง ยาคุบ คามินสกี ได้ซ้ำอีกรอบแต่ ราฟาเอล วาราน ก็ยังช่วยบล็อกจากเส้นช่วยให้ฝรั่งเศสรอดพ้นการเสียประตู

หลังจากนั้น ฝรั่งเศส ยังคงกลับมาบุกอย่างต่อเนื่อง กระทั่งนาที 44 คีลิยัน เอ็มบัปเป จ่ายให้ โอลิวิเยต์ ชิรูด์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงสวนตัว วอยเช็ก เชสนี เป็นประตูให้ฝรั่งเศส ขึ้นนำ 1-0 ในครึ่งแรก

ครึ่งหลัง ฝรั่งเศส ยังคงเน้นการครองบอลและหาโอกาสเข้าทำ แต่หลังจากนาที 60 ก็เริ่มเปลี่ยนแผนลงไปคุมโซนตั้งรับ ปล่อยให้ โปแลนด์ ได้ทำเกมบุก จน นาที 74 ฝรั่งเศส ตัดบอลได้ก่อนซัดตูมเดียวยาวมากลางสนาม โอลิวิเยต์ ชิรูด์ เก็บบอลได้ แล้วส่งให้ อุสมาน เดมเบเล ลากจี้มาหน้ากรอบเรียกตัวประกบ ก่อนจ่ายให้ เอ็มบัปเป ที่ยืนโล่งๆ ซัดเข้าไปอย่างเฉียบขาด ให้ ฝรั่งเศส หนีเป็น 2-0

หลังนำห่าง ฝรั่งเศส ดึงเกมช้า เน้นความชัวร์ ก่อนนาที 90+1 จะเป็น เอ็มบัปเป คนเดิมที่รับบอลในกรอบแล้วปั่นสุดสวยให้ ฝรั่งเศส นำ 3-0 และจากประตูนี้ ทำให้เวลานี้ เอ็มบัปเป ยิงไปแล้ว 5 ประตู นำเป็นดาวซัลโว ในฟุตบอลโลก ขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหมดเวลา ช่วงนาที 90+5 โปแลนด์ มาได้จุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอล ก่อนเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ที่สังหารลูกแรกยิงไม่เข้า แต่กรรมการให้ยิงใหม่ เพราะประตูเคลื่อนไหวก่อน ยิงลูกโทษอีกครั้งเข้าไป ตีตื้นเป็น 1-3 จบเกม ฝรั่งเศส เอาชนะ โปแลนด์ 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 เข้าไปรอพบกับ อังกฤษ ที่ชนะ เซเนกัล 3 ต่อ 0

---------------------------------------

ส่วนผลอีกคู่ อังกฤษ พบ เซเนกัล โดยอังกฤษเข้ารอบ ในฐานะอันดับ 1 ของกลุ่มบี เก็บได้ 7 คะแนน ส่วน เซเนกัล เข้ารอบในฐานะอันดับ 2 กลุ่มเอ มี 6 คะแนน

เริ่มเกมทั้งสองทีมยังดูอึดอัด สร้างโอกาสได้ไม่มากนัก โดยช่วง 30 นาทีแรก เป็นเซเนกัล ที่หาจังหวะเข้าทำได้อันตรายกว่า แต่ไม่เฉียบขาดพอ กระทั่งนาที 38 แฮร์รี เคน ที่ลงมาล้วงบอล จ่ายทะลุให้ จูด เบลลิงแฮม หลุดไปทางกราบซ้าย ก่อนปาดมาหน้าประตูให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยิงเข้าไปให้ อังกฤษ ออกนำ 1-0

หลังเสียประตู เซเนกัล เหมือนเสียสมาธิไปด้วย โดนอังกฤษตัดบอลบุกขึ้นมาสวยๆหลายครั้ง จนนาที 45+3 จูด เบลลิงแฮม พาบอลสวนกลับหลบผู้เล่นเซเนกัล ขึ้นมากลางสนามก่อนจ่ายให้ ฟิล โฟเดน เบิลต่อจังหวะเดียวให้ แฮร์รี เคน ได้หลุดเข้าไปยิงเน้นๆ ให้อังกฤษ หนีห่างเป็น 2-0 ในครึ่งแรก

ครึ่งหลัง เซเนกัล แก้เกมเปลี่ยนทีเดียว 3 คน แต่ด้วยความที่ต้องบุกทำประตู ทำให้อังกฤษ มีช่องเล่นงาน ได้สวนขึ้นมาสร้างโอกาสใส่สกอร์เพิ่มหลายครั้ง นาที 57 เป็น ฟิล โฟเดน ที่พาบอลหลุดมาทางกราบซ้าย ก่อนจ่ายให้ บูกาโย ซากา วิ่งมาแปเล่นทาง ให้อังกฤษ นำห่าง 3-0

ช่วงเวลาที่เหลือ อังกฤษ เล่นถ่ายบอลกันไปมา เน้นความแน่นอน ประคองเกมให้นกหวีดดัง ก่อนจบ 90 นาที อังกฤษ ถล่ม เซเนกัล 3-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบฝรั่งเศส