ข่าวโซเชียล

หนุ่มคลั่งทุบรถกลางแยกไฟแดง หิ้วกระเช้ายกมือไหว้คู่กรณี อ้างป่วยไบโพลาร์

โดย sujira_s

20 ก.พ. 2565

253 views

อุดรธานี - ไหว้สวย หนุ่มคลั่งอาละวาดทุบรถแยกไฟแดงหิ้วกระเช้าขึ้นโรงพักขอโทษคู่กรณี อ้างป่วยไบโพลาร์


จากกรณีเหตุการณ์หนุ่มคลั่งใช้เหล็กสไลด์ทุบรถเก๋งกลาง 3 แยกไฟแดง ทางเข้าท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยมีพลเมืองดีถ่ายคลิปวิดีโอขณะก่อเหตุไว้ได้ และมีการโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย จนมีการแชร์คลิปและวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และทราบตัวเจ้าของรถกระบะฟอร์ด 4 ประตู สีดำ คู่กรณี จนนำไปสู่การติดต่อขอเจรจาไกล่เกลี่ย และชดใช้ค่าเสียหายต่อกัน



ความคืบหน้าเมื่อวานนี้ (19 ก.พ.) ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้เชิญตัว นายแพน (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ อาชีพเปิดอู่ซ่อมรถในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ผู้ก่อเหตุใช้เหล็กสไลด์ทุบรถเก๋งยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กฉ 896 อุทัยธานี ที่มี นายเกียรติศักดิ์ คำทวี อายุ 24 ปี ผู้เสียหายเป็นคนขับและมีเจ้าของรถเก๋งนั่งมาด้วย เข้าเจรจาไกล่เกลี่ยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายแพนฯ เดินทางมาพร้อมน้องชายและพ่อ ส่วนนายเกียรติศักดิ์ฯ เดินทางมาพร้อมกับพ่อ ส่วนเพื่อนที่เป็นเจ้าของรถเก๋ง ติดธุระเร่งด่วนอยู่ที่ จ.หนองบัวลำภู



หลังจากนั้นคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ได้ไปลงบันทึกตกลงยอมความกันบนโรงพัก ต่อหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี โดยนายแพนฯหนุ่มคลั่ง ได้นำใบรับรองแพทย์ ที่ตัวเองป่วยโรคไบโพลาร์ มาแสดงให้คู่กรณีและพนักงานสอบสวนรับทราบและเป็นหลักฐาน ถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุในครั้งนี้ พร้อมกับนำกระเช้ามามอบให้นายเกียรติศักดิ์ คู่กรณี พร้อมกับยกมือไหว้เพื่อขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับมอบเงินค่าทำขวัญให้ นายเกียรติศักดิ์ฯ หรือกบ ผู้เสียหายเป็นเงินจำนวน 1 หมื่นบาท และสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก เพราะก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าตนลืมกินยารักษาอาการไบโพลาร์ และมีลูกค้ามาติดต่อที่อู่ซ่อมรถ จึงเกิดอาการเครียดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว และเกิดเหตุการณ์ตามที่ปรากฏในคลิป



นายเกียรติศักดิ์ คำทวี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รถคันที่ถูกทุบเป็นรถของเพื่อน วันที่เกิดเหตุตนเป็นคนขับ แต่วันนี้เพื่อนที่เป็นเจ้าของรถติดงานด่วนและไม่สะดวกมา จึงให้ตนมาคนเดียว เพื่อมาเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีต่อหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี จนทราบว่าเขามีอาการป่วยเป็นไบโพลาร์ ระงับสติอารมณ์ไม่ได้ และเขาขอชดใช้ค่าเสียหายในการซ่อมรถ และมอบเงินค่าทำขวัญเป็นเงิน 1 หมื่นบาท โดยตนก็ได้ยอมความไม่ดำเนินคดี หลังเกิดเหตุก็นำรถกลับไปที่บ้านก่อน ตอนนี้กำลังนำไปประเมินราคาค่าซ่อม เพราะไม่ใช่เสียหายแค่กระจกเท่านั้น ตัวถังหลังคาประตูรถก็เสียหายด้วย



อยากฝากถึงครอบครัวที่มีผู้ป่วยประเภทนี้ว่า ให้ญาติดูแลอย่างใกล้ชิด หากไม่ใช่ตนที่ตัวใหญ่ป้องกันตัวเองได้ ถ้าเป็นเด็กหรือผู้หญิงมันจะเสียหายมากกว่านี้ อาจจะมีการสูญเสีย หากอาวุธที่ใช้ก่อเหตุไม่ใช่เหล็กเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตน ถ้าเป็นอาวุธมีดหรืออาวุธปืนจะร้ายแรงหรืออันตรายมากกว่านี้ เพราะว่าโรคนี้มันน่ากลัว และสังคมก็น่าจะเคยเห็นในข่าวที่ออกมาอยู่เป็นประจำ เนื่องจากโรคนี้เวลามีอารมณ์มันก็ระงับ หรือควบคุมตัวเองไม่ได้ ต้องฝากญาติหรือครอบครัวที่มีผู้ป่วยประเภทนี้ให้ดูแลอย่างใกล้ชิด”



ด้าน ร.ต.อ.เปรม เตรียมตัว รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า คู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งเป็นสิทธิของผู้เสียหายที่จะยอมความ และถอนแจ้งความไม่ดำเนินคดี และผู้ก่อเหตุนำหลักฐานใบรับรองแพทย์ ระบุป่วยเป็นไบโพลาร์ เวลากำเริบจะระงับอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ซึ่งถือว่าเป็นคนป่วย อย่างไรก็ตามทางตำรวจก็จะลงบันทึกยอมความกันในชั้นพนักงานสอบสวน และจะเรียกทั้งสองฝ่ายมาลงชื่อในบันทึกอีกครั้ง หลังจากผู้เสียหายได้รับการชดใช้ตามที่ได้ตกลงกัน

คุณอาจสนใจ