รวบแล้ว! ทาสยาอาละวาดปาหิน รถเสียหายเพียบ ตามจับเจอปีนต้นมะม่วงหนี

กรณีมีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความเตือนภัย หลังโดนแก๊งปาหินปาใส่รถที่สุพรรณบุรี  โดยผู้โพสต์ระบุว่า  “เมื่อคืนตอนจะถึงบ้านที่สุพรรณ โชคดีที่ไม่โดนกระจกรถ ได้ข่าวว่าคนโดนกันเยอะไม่คิดว่าตัวเองจะโดน อันตรายมาก เส้นทางหนองกุฏิ เส้นทางนี้คนแถวนี้ร่ำลือ พอแล้วไม่ผ่านทางนี้แล้ว อ้อมเอาสบายใจกว่า ฟาดเคราะห์ไป รถเป็นไรชั่งมัน คนไม่เป็นไรก็ดีแล้ว โชคดีที่เด็กๆหลับ ในเคสของพี่สาวเราตำรวจบอกให้ยอมความ เราไม่รู้ว่าใช่คนเดียวกะเคสพี่สาวเรามั้ย แต่ถ้าอีกสองคนที่เรารู้จักคือคนทำคนเดียวกันแน่นอนที่เดียวกัน”

ผู้โพสต์ยังบอกอีกว่า "วันติดกันเวลาใกล้เคียงกัน โดนจุดเดียวกัน ทั้งโดนปาหิน โดนไม้เขวี้ยง เฉพาะคนรู้จักโดนนี้สี่คนละค่า เฉพาะคืนวันที่ 2กันยาคนรู้จักโดนกัน 2 คนเป็นไม้ลอยมาเลยค่ะ ส่วนทางนี้โดนเมื่อคืนคืนวันที่ 3 ค่ะ เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ค่ะ ทางเราไม่ได้แจ้งความเพราะกลัวเป็นแบบกรณีพี่สาวที่รู้ตัวคนทำแต่ให้ยอมความกลัวเสียเวลาค่ะ แต่อยากมาเตือนภัยสำหรับผู้คนที่ใช้รถใช้ถนนทางเส้นนี้เวลามืดๆ"  ซึ่งโพสต์นี้มีคนเข้าไปคอมเมนต์เกือบ 300 คอมเมนต์และแชร์ต่ออีกเกือบ 400 ครั้ง

สำหรับความคืบหน้าคดีดังกล่าว วันที่ 5 ก.ย.65 เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ตำรวจ สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งจาก สายตรวจพลับพลาไชย ว่าได้ร่วมกับชาวบ้านผู้เสียหายช่วยกันควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุ จึงสั่งการคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.อู่ทอง 

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน จอดอยู่ ที่หน้ารถมีกระสอบสีเหลือง ภายในมีเศษขวดเบียร์แตก มีเคียว 1 อัน เมื่อยกกระสอบขึ้นพบเศษลวดหนามถูกตัดเป็นท่อนวางในตะกร้าหน้ารถ ซึ่งตรงกับรถต้องสงสัย ซึ่งมีนายศรัญพัฒน์ บุญช่วย หรือ ท็อป เป็นผู้ใช้รถคันนี้ แต่ตรวจสอบในบ้านไม่พบตัวนายท็อป

เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจตราไปที่หลังบ้าน ส่องไฟขึ้นไปดูบนต้นมะม่วง พบนายท็อป หนีไปซ่อนตัวบนกิ่งมะม่วง จึงเกลี้ยกล่อมให้ลงมา แต่นายท็อปไม่ยอมลง แล้วยังตะโกนด่าทอว่าตนโดนรังแก รถใหญ่ขับเปิดไฟสูงใส่ และมีผีคอยตามมาแกล้ง ตนจึงมาเอาคืน พร้อมกับปารองเท้าใส่คนที่พยายามจะเข้าจับกุม ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมตัวได้ ตรวจปัสสาวะปรากฏฉี่สีม่วง  จึงควบคุมตัวส่งควบคุมตัวไว้ที่ สภ.อู่ทอง

เบื้องต้นจะได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติด และ ทำให้เสียทรัพย์ ก่อน อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนจะได้นัดผู้เสียหายซึ่งมีหลายรายมาสอบปากคำไว้ในสำนวนเพื่อเป็นหลักฐานในดำเนินคดี

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ประสานกับคุณเก่ง ผู้เสียหายรายหนึ่ง ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า  ตนเป็นเจ้าของธุรกิจร้านทำผม อยู่ที่ลาดพร้าว วังหิน ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถเก๋งพาครอบครัว มีภรรยาและลูก 2 คนกลับมาเยี่ยมพ่อแม่ ที่บ้านเกิด ที่ตำบลพลับพลาไชย โดยขับมาตามถนนสายดังกล่าวซึ่งเป็นเส้นทางที่เคยวิ่งประจำ  ที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น

กระทั่งคืนวันที่ 3 ก.ย.ช่วงประมาณ 5 ทุ่มขณะที่ตนขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุกำลังเข้าทางโค้ง ได้มีรถจักรยานยนต์ขับสวนทางมาจู่ๆมีเสียงดังตุ๊บที่หน้ารถก่อน จากนั้นตนเห็นก้อนหินขนาดใหญ่เด้งขึ้นมา ครั้งแรกคิดว่ารถคงชนหมาข้ามถนน แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะใช่ เพราะไฟรถก็ส่องสว่างพื้นถนนก็ไม่มีสิ่งกีดขวาง

จึงกลับบ้านก็ตรวจดูรถพบว่า บริเวณกระจังหน้าใต้ไฟด้านขวามีรอยถูกก้อนหินแตกเป็นรูเท่ากำปั้น  ตนนึกขึ้นได้ว่าเคยมีคนถูกปาหินบริเวณนี้ จึงนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปโพสต์เฟส หลังจากที่โพสต์ได้ไม่นานก็มีคนเข้ามาคอมเม้นว่ามีคนโดนปาหินกันหลายราย ตนรู้สึกตกใจ นับว่าตนโชคดีที่ก้อนหินไม่โดนกระจกบริเวณคนขับมิฉะนั้นทั้งตนและลูกเมียตนอาจได้รับอันตรายได้  

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/puGlKH_vwnI