ข่าวโซเชียล

เจ้าของบ้านสุดทน เจอลูกบ้านสุดแสบ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย นาน 4 ปี สุดท้ายพบบ้านรกเป็นกองขยะ

โดย kanyapak_w

16 เม.ย. 2565

342 views

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Chommanard Lebkhurt” ได้โพสต์รูปสภาพภายในบ้านเช่าหลังหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยขยะ พร้อมระบุข้อความว่า “ฝากถึงคนมีบ้านให้เช่านะคะ เวลาจะให้ใครเช่าบ้านต้องเช็คประวัติให้ดี สัญญาเช่าต้องมี ขอสำเนาเอกสารให้ครบ...เจอมากับตัวเอง ตอนแรกๆ ก็จ่ายค่าเช่า ต่อมาก็ขอผลัดค่าเช่าไปเรื่อยๆ สุดท้ายคือไม่จ่าย ค่าไฟฟ้าไม่จ่ายโดนตัดไฟ...แจ้งศูนย์ดำรงธรรมเพื่อนัดไกล่เกลี่ยไม่ยอมมา...นัดขึ้นศาลไม่ยอมไป ศาลตัดสินให้ย้ายออกจากบ้านเช่าไม่ยอมออก...กรมบังคับคดีต้องมาถึงบ้านเช่า นำเอกสารมาให้เซ็นต์รับทราบถึงยอมออก... กว่าเรื่องจะจบใช้เวลามากกว่า 2 ปี จ่ายเงินดำเนินการเยอะ...แล้วนี่คือสภาพบ้านเพียงส่วนหนึ่ง ไม่รู้อยู่ได้อย่างไง เคยเห็นแต่ในข่าวไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเอง...#ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย #คนแย่ๆ ที่ไม่อยากให้อยู่ในโพธาราม #เดี๋ยวก็คงไปทำแบบนี้กับที่บ้านเช่าที่ใหม่ #ได้ข่าวว่าตอนนี้ย้ายไปอยู่บ้านเช่าอีกฝั่งของแม่น้ำ #จากบ้านที่น่าอยู่ กลายเป็นกองขยะ”




วันที่ 16 เม.ย.65 ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าพบกับ น.ส.ชมนาด เล็บครุฑ ซึ่งเป็นผู้เฟสบุ๊คดังกล่าว ที่บ้านเช่าที่เกิดเหตุ โดยตั้งอยู่ใจกลางเมืองโพธาราม จ.ราชบุรี ก่อนจะพาผู้สื่อข่าวเข้าสำรวจภายในบ้าน พบว่าเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ซึ่งชั้นล่างพบว่ามีกองขยะทิ้งไว้เต็มพื้น ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วห้อง มีการนำกระดาษห่อของขวัญมาติดผนังเป็นวอลเปเปอร์ เมื่อเดินไปด้านหลังก็ยังคงพบกองขยะวางอยู่ ในห้องน้ำก๊อกน้ำถูกถอดอก พื้นเป็นคราบสกปรก ที่ชักโครกมีสิ่งปฏิกูลทิ้งคาไว้ไม่ทำความสะอาด เมื่อผู้สื่อข่าวจะผลักไปด้านหลังห้องเช่า ก็ปรากฏว่าไม่สามารถเปิดออกได้ จึงพยายามแง้มดู ก็ต้องตะลึงกับกองขยะขนาดใหญ่ท่วมหัว และแน่นจนไหลมาขวางประตู จากนั้น น.ส.ชมนาด ได้พาเดินไปดูชั้น 2 ของตัวบ้าน ก็ยังคงพบกองขยะจำนวนมาก อาทิ เศษผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ใช้แล้ว ขวดน้ำที่ภายในเป็นปัสสาวะ นอกจากนั้นยังพบว่า มุ้งลาดหน้าต่างถูกทำลาย หลอดไฟ พัดลมเพดาน และอ่างล้างหน้าหายไป





น.ส.ชมนาด เปิดเผยว่า หลังจากที่คุณป้าได้เสียชีวิตลง ตนได้มอบบ้านเช่าหลังดังกล่าวให้เป็นมรดก ที่ผ่านมาผู้เช่าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักศึกษาพยาบาล กระทั่งเมื่อ 7 ปีก่อนหน้านี้ นายเอ (นามสมมติ) พร้อมกับภรรยา ซึ่งมีอาชีพรับจ้างส่งของ มาติดต่อขอเช่าบ้านในราคาเดือนละ 2,000 บาท ในช่วง 3 ปีแรก ก็ไม่มีปัญหาอะไร จนถึงประมาณปี 2562 นายเอเริ่มขอผัดผ่อน และค้างค่าเช่า ตนเห็นว่านายเอค้างเช่าเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว จึงได้เข้ามาสอบถาม เพื่อขอให้ทยอยชำระหนี้ หรือย้ายออก แต่นายเอก็ถือคติ “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย”



ตนจึงต้องเข้าแจ้งความที่ สภ.โพธาราม และศูนย์ดำรงธรรม อ.โพธาราม เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยไกล่เกลี่ย ทว่าก็ไม่เป็นผล นายเอยังคงใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเช่าอย่างเป็นปกติสุข บางวันก็ชักปืนออกมาถือ จนเพื่อนบ้านไม่มีใครกล้ายุ่งเกี่ยวด้วย ท้ายที่สุดตนต้องขอพึ่งอำนาจศาล โดยนายเอและครอบครัวได้ย้ายออกไปเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา



หลังจากที่นายเอย้ายออก ตนได้เข้ามาดูบ้าน ภาพแรกที่เปิดประตูบ้านเข้าไป ก็ต้องตกใจ กับภาพกองขยะที่กระจุยกระจาย จากบ้านที่คุณป้าเฝ้าทะนุถนอมดูแลอย่างดี กลายสภาพเป็นเหมือนบ้านที่ถูกทิ้งร้าง ไฟฟ้าถูกตัด ประตูถูกงัดแงะ มีกลิ่นเหม็นอับผสมกับกลิ่มปฏิกูล รวมมูลค่าความเสียหายทั้งในส่วนของค่าเช่า และค่าซ่อมแซมบ้าน ไม่น่าจะต่ำกว่า 2 แสนบาท



โดยวันนี้ ตนได้ว่าจ้างให้คนเข้ามาทำความสะอาด ก่อนที่จะจ้างช่างให้เข้ามาทำการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน หลังจากนี้ตนคงไม่เปิดบ้านให้ใครเช่าอีกแล้ว




ด้านเพื่อนบ้านคนหนึ่งเล่าว่า ตนได้เริ่มให้ความช่วยเหลือตั้งแต่พาภรรยานายเอไปคลอดลูกสาวที่โรงพยาบายเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งในขณะนั้นบ้านถูกตัดไฟ จึงให้พ่วงใช้ไฟฟ้าจากที่บ้าน พร้อมกับช่วยเหลือค่ากินอยู่ ค่านม และผ้าอ้อมสำเร็จรูปของเด็ก เป็นบางครั้งเท่าที่ตนมีเพราะสงสาร เคยมีเพื่อนบ้านบางคนแจ้งว่านายเอได้ก่อเหตุงัดแงะบ้านของตนเพื่อเข้าไปขโมยทรัพย์สินมีค่า แต่ตนไม่ได้เห็นด้วยตาและไม่มีหลักฐาน จนสุดท้ายมาทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นและเห็นสภาพบ้านเช่าแล้วก็ถึงกับตกใจกับสิ่งที่ครอบครัวนี้กระทำกับตนและเจ้าของบ้านเช่า

คุณอาจสนใจ

Related News