สามีหญิงตายทิพย์ หลอกเงิน ขอโทษคนบริจาค ยันไม่รู้เรื่องเงิน

จากกรณีที่นางโสภา หงส์ทอง ได้ใช้เฟซบุ๊กของลูกชายที่ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรม โพสต์ข้อความระบุว่า ผมน้องเขื่อนครับ ผมจะมาแจ้งให้ทราบว่าแม่เสียแล้ว แม่หายไปตั้งแต่คืนวันเสาร์ ติดต่อไม่ได้ พึ่งหาเจอวันนี้ตอนสาย ไปเจอแม่ที่ป่ายูคา แม่เอาน้องไปด้วย แม่เอาน้องเปาผูกเชือกที่ขาจ้องเปาแม่คงกลัวว่าน้องจะเดินไปทั่วเลยผูกเชือกกับขาแม่ไว้ แล้วแม่ก็กินยา ไปเจอน้องเปา ก็หมดแรงแล้ว แต่ช่วยน้องเปาเอาไว้ได้ทัน กว่าจะไปเจอแม่ก็สายเกินไปแล้ว ผมฝากอโหสิกรรมให้แม่ด้วยนะครับ ตัวผมไม่รู้ว่าแม่ทำอะไรไปบ้างแต่ไม่ทำร้ายตัวเองมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้แม่ได้ไปแล้วจริงๆผมฝากขอโทษแทนแม่ด้วยนะครับ ต่อจากนี้จะทำอย่างไงต่อผมไม่รู้เลยฝากอโหสิกรรมให้แม่ผมด้วย

ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้คนในโซเชียลต่างแห่โอนเงินบริจาคให้นับแสนบาทด้วยความสงสาร แต่หลังจากมีประชาชนสอบถามมายังผู้ใหญ่บ้านเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทางผู้ใหญ่บ้านจึงได้ตอบกลับไปว่า เรื่องจริงแล้วคนในโพสต์ดังกล่าวก็คือ นางโสภา ซึ่งยังไม่ได้ตายแต่อย่างใด เป็นเพียงเรื่องราวที่แต่งขึ้นเพื่อที่จะเรียกเอาเงินบริจาค

ล่าสุดวันนี้ (21 เม.ย.65) พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผู้กำกับการ สภ.ปักธงชัย ได้ประสานกำนันในพื้นที่ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปนำตัว นายสุริยา ทศกิ่ง อายุ 38 ปี สามีของนางโสภา ให้เดินทางมาที่ สภ.ปักธงชัย เพื่อสอบสวนข้อที่เท็จของเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งจากการสอบถาม นายสุริยาอ้างว่า สิ่งที่ภรรยาของตนเองทำ ตนเองไม่รู้เห็นแต่อย่างใด เพราะตนเองทำแต่งาน วันหยุดก็ออกไปหว่านแหหาปลา และดูแลลูกคนเล็กที่ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรม เพราะต้องคอยอาบน้ำเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ สิ่งของส่วนตัวทั้งโทรศัพท์มือถือตนเองก็ไม่เคยหยิบของภรรยาเลย หรือแม้กระทั่งสมุดบัญชีธนาคาร ตนเองก็ไม่เคยรู้เลยว่ามีการเปิดบัญชีชื่อของลูกเอาไว้ ซึ่งตอนนี้ภรรยาของตนเองนั้นได้ออกจากบ้านไปแล้ว โดยนำน้องอังเปาลูกคนเล็กไปด้วยตั้งแต่วันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา โทรศัพท์มือถือก็ไม่สามารถติดต่อได้ สำหรับอาการป่วยของภรรยาของตนนั้น ป่วยจริง โดยมีโรคประจำตัว คือ โรคไต โรคซึมเศร้า และเคยคิดกินยาฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่ง

นายสุริยา กล่าวต่อไปว่า ตนเองอยากจะขอโทษทุกคนที่โอนเงินมาให้ เพราะตัวผมเองนั้นก็ไม่รู้ไม่เห็นยอดเงินบริจาคเลย ซึ่งหากตัวเองเห็นก็จะขอคืนให้กับคนที่บริจาคมา อยากฝากถึงภรรยาว่า อยากให้ออกมาขอโทษทุกคนที่เค้าโอนเงินมาให้ ซึ่งทุกคนก็จะได้ให้อภัยในสิ่งที่ทำ

นายนพพล ภัคพลวลีย์ อายุ 55 ปี กำนันตำบลสะแกราช กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วรู้จักกับครอบครัวนี้แต่ก็ไม่ได้สนิทอะไรมาก แต่ว่าทางนางโสภาได้เคยมีพฤติกรรมในลักษณะนี้มาก่อน โดยนำเอาลูกชายที่ป่วยดาวน์ซินโดรมมาโพสในเฟซบุ๊กเพื่อขอความเห็นใจและความช่วยเหลือจากคนในเฟสบุ๊กซึ่งพอคนเห็นโพสก็เกิดความสงสารและโอนเงินให้ซึ่งทำในลักษณะนี้หลายรอบซึ่งตนก็เคยได้มีการกล่าวตักเตือนไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งตอนนี้ได้พูดคุยกับนายสุริยา สามี ให้ตามตัวภรรยากลับมาเพื่อมาขอโทษคนที่เค้าโอนเงินมาให้ ส่วนในเรื่องของคดีความก็แล้วแต่ทางผู้เสียหาย ซึ่งขณะนี้ทางผู้เสียหายในพื้นที่ยังไม่ได้มีการเข้ามาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด จึงยังไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับนางโสภาได้แต่อย่างใด