สังคม

พม.รุดตรวจสอบ 5 แม่ลูกอาศัยตึกร้างซุกหัวนอน เตรียมใช้กฎหมายเข้าช่วย หลังแม่เด็กปฏิเสธย้ายออก

โดย petchpawee_k

26 พ.ย. 2565

11 views

หน่วยงานรุดตรวจสอบ 5 แม่ลูกอาศัยตึกร้างซุกหัวนอน พบก่อนหน้านี้เคยเข้าไปช่วยเหลือแล้วแต่แม่ลูกอ่อนไม่ปฏิบัติตาม เตรียมใช้กฎหมายนำครอบครัวไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็ก


จากกรณี พบแม่ อายุ 28 ปี อาศัยอยู่กับลูกสาว 4 คน อายุ 2 ปี, 5 ปี 8 ปี และอายุ 1 เดือนในตึกร้างที่บริเวณริมถนนสายสายบายพาส-ปราณบุรี ฝั่งขอล่องใต้ หมู่ 4 ต.สามพระยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี  ซึ่งตึกร้างดังกล่าวไฟฟ้าและนำประปาไม่มีใช้  แม่วัย 28 ปี ต้องอาศัยน้ำขังในบ่อข้างถนนใช้ต้มดื่มกิน หุงข้าว และอาบน้ำ และใช้ป่ารกข้างหลังอาคารตึกร้างเป็นที่ขับถ่าย และต้องหาผักและปลามาทำกับข้าวกินเพื่อประทังชีวิต รวมถึงต้องคลอดบุตรเองเนื่องจากไม่มีเงินไปหาหมอ


โดยทางผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลสามพระยา บอกว่า รายนี้เคยช่วยเหลือไปแล้วแต่เจ้าตัวไม่เห็นด้วย เขาไม่ให้ความร่วมมือ เคยตามไปถึงในหมู่บ้าน แต่เขาไม่ให้ความร่วมมือ


ต่อมาเวลา 13.00 น.วันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ได้มีหน่วยงานต่างๆประกอบด้วยเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี เจ้าหน้าที่สำนักงาน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบุรี เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรี สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกุ่มสะแก จังหวัดเพชรบุรี ฝ่ายปกครองอำเภอชะอำ อบต.สามพระยา กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อให้การช่วยเหลือ


แม่วัย 28 ปีเล่าว่า หลังถูกนายจ้าง ไร่อ้อยในพื้นที่ชะอำ ไล่ออกจากงานตนและลูกทั้ง 4 คนได้มาอาศัยอาคารร้างแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งตึกแห่งนี้ไม่มีน้ำและไฟฟ้าใช้ ตนต้องอาศัยใช้น้ำขังในขังบ่อข้างถนนมาต้มเพื่อใช้ดื่มกิน หุงข้าว อาบน้ำ และใช้ป่ารกหลังอาคารเป็นที่ขับถ่าย


ต่อมาสามีได้ออกไปทำงานรับจ้างรีดน้ำวัวในหมู่บ้านอยู่ไม่ไกลจากอาคารร้าง ซึ่งเงินค่าจ้างที่ได้มาก็ไม่พอใช้จ่าย ตนต้องออกไปหาผัก หาปลา และหอยเชอรี่ในคูคลองมาทำกับข้าวรับประทานเพื่อประทังความหิว ส่วนขนมของลูกก็ไม่มีเหมือนเด็กทั่วไป ต้องหาลูกพุทรา มะขามเทศ และผลไม้อื่นๆที่มีอยู่ในป่ารกชัฏมาให้กิน และเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมาตนได้คลอดลูกสาวเองโดยมีสามีคอยช่วยเหลือนำกรรไกรมาตัดรกโดยไม่ได้ไปหาหมอแต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีเงินและรถที่จะไปโรงพยาบาล


ด้านนายสุรินทร์ อาคมเวช หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า เมื่อปี 2564 ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับ อบต.สามพระยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้น ทั้งมอบถุงยังชีพ มอบเงินส่งเคราะห์เด็กยากจน และประสานเจ้าหน้าที่มาทำการคุมกำเนิดให้ พร้อมประสานเจ้าของพื้นที่ซึ่งเป็นนายจ้างของสามีสาวคนดังกล่าวให้เข้าไปปลูกบ้าน แต่ไม่ยอมปฏิบัติตาม กลับมาอาศัยอยู่ในตึกร้างตามเดิม


ที่ผ่านมานอกจากหน่วยงานภาครัฐให้ความช่วยเหลือแล้วยังมีประชาชนบริจาคเงินและสิ่งของอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุแม่วัย 28 ปีรายนี้ ไม่เข้าไปพักอาศัยในสถานที่ที่จัดให้ หรือปฏิบัติตามที่หน่วยงานแจ้งความประสงค์จะช่วยเหลือ


ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยและสุขภาวะของเด็ก วันนี้ทางบ้านพักเด็กจำเป็นจะต้องบังคับใช้กฎหมายเพื่อนำครอบครัวดังกล่าวไปอยู่ในความดูแลต่อไป


คุณอาจสนใจ

Related News