สังคม

อยุธยาอ่วม น้ำเจ้าพระยาสูง เข้าท่วมสุสานเกาะใหญ่ - คุณยายทรหดแห่งบางบาล วอนชลประทาน เอาน้ำไปแบ่งที่อื่นบ้าง

โดย weerawit_c

2 ต.ค. 2565

232 views

ขณะนี้ต้องยอมรับว่าชาวตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล ดูแล้วจะได้รับความเดือดร้อนหนักแบบสาหัสสากรรจ์จริงๆ พบว่าเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา บ้านเรือนของชาวบ้านที่ปลูกยกสูงหนีน้ำมาตั้งแต่ ปู่ย่าตายาย บางหลังดีดยกสูงหนีน้ำขึ้นมาแล้ว น้ำก็ยังตามมาท่วมทุกปี



ระดับน้ำในหมู่บ้านทั้ง 8 หมู่ของตำบลบ้านกุ่ม ที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาถูกน้ำท่วมสูง 2- 3 เมตร แล้วในขณะนี้ สภาพชาวบ้านต้องจับเจ่าอยุ่กันแต่ในบ้านไปไหนไม่ได้ หากจะไปต้องใช้เรือพายออกไปอย่างเดียว แต่หลายคนก็ไม่คิดจะเสี่ยงพายเรือออกไป เนื่องจากกระแสน้ำในปัจจุบันไม่เป็นไปตามธรรมชาติเหมือนอดีต กระแสน้ำจะไหลบ่าแรงมากหากเรือพายผิดขวางทางน้ำก็จะทำให้เรือพลิกคว่ำได้รับอันตรายได้



ล่าสุดน้ำเจ้าพระยายังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ล้นทะลักเข้าท่วมถนนคันกั้นน้ำ มีด้วยกันทั้งหมด 4 จุดเสี่ยงที่จะขาดพังทลายลงไปยังทุ่งบ้านกุ่ม ทุ่งบางแพ่ง ของอำเภอบางปะหัน ทั้งชลประทาน กำนันผู้ใหญ่บ้าน ต้องระดมเครื่องจักรรถแบลคโฮ ขนดินมาปั้นเป็นคันกั้นน้ำ เสริมทับด้วยกระสอบทรายเพื่อความมั่นคง หากคันกั้นน้ำพังทลายลงก็จะสร้างความเดือดร้อนให้กับบ้านเรือนประชาชนนอกคันกั้นน้ำที่ตั้งอยู่ติดกับจุดเสี่ยงจะถูกแรงน้ำกัดเซาะพังตามลงไปด้วย นอกจากนี้จะทำให้ถนนเส้นทางหลักเข้าออกหมู่บ้านตัดขาดยิ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นทวีคูณขึ้นไปอีก



ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก 'ข่าวอโยธยา' โพสต์ภาพและข้อความ "เดือดร้อนยันหลุมฝังศพ น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูง เข้าท่วมสุสานเกาะใหญ่ อ.บางไทร จ.อยุธยาฯ สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ของผู้นับถือศาสนาคริสต์



ขณะที่วัดบางคล้า ริมแม่น้ำน้อย อ.บางไทร พระสงฆ์ต้องก่อพนังกั้นน้ำด้วยตัวเอง ท่ามกลางน้ำที่กำลังขึ้นทะลุมิติ แบบไม่หยุดยัง"



โดยมีภาพน้ำท่วมสูง บริเวณหลุมฝังศพ ของผู้นับถือศาสนาคริสต์ ชาวบ้านต้องใช้วิธีพายเรือเข้าไปยังพื้นที่



วานนี้ (1 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ไปติดตามชีวิต 2 คุณยาย คือ นางพะเยาว์ สร้อยหงษ์ และคุณยายมาลี สร้อยหงษ์ โดยปีที่ผ่านมาบ้านถูกน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร ที่ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล โดยปีนี้บ้านก็ยังคงถูกน้ำท่วมเหมือนปีที่ผ่านมา พบว่าเหลืออีกประมาณ 20 เซ็นติเมตร ก็จะเท่าปีที่แล้ว และใกล้เคียงเทียบเท่าน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ตัวบ้านยายชั้น 2 ถูกน้ำท่วมไปเรียบร้อยแล้ว ระดับน้ำตอนนี้สูงกว่า 3 เมตรแล้วด้วย แต่คุณยายยังยิ้มสู้ ทรหดจริงๆ



ยายมาลี พี่สาวไม่อยู่บ้าน เดินทางรักษาฟันหลายวันแล้ว เหลือแต่คุณยายพะเยาว์ คนเดียวที่ยังคงสู้ชีวิตอยู่กับน้ำที่ขึ้นสูงท่วมบ้านเรื่อยๆ ซึ่งคุณยายพะเยาว์ ปีนี้ยังคงแข็งแรงยิ้มสู้น้ำได้เสมอ แต่ก็ยังส่งสารและเป็นห่วงชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม ถึงกับเอ่ยปากปากไร้อารมณ์กับชลประทาน ปล่อยน้ำมาท่วมชาวบ้านทำไมเขาเดือดร้อนกันทั้งหมู่บ้าน ให้แบ่งน้ำเจ้าพระยาไปที่อื่นบ้าง



คุณยายพะเยาว์ บอกว่า ตลอดคืนที่ผ่านมาต้องลอยคอ ใช้มือคลำนำเศษไม้ที่กองจมน้ำบนพื้นบ้านขึ้นมาหนุนของหนีน้ำ ทนทำแบบนี้กันมาหลายคืนแล้วไม่ง้อให้ใครมาช่วย คอยทำช่วยเหลือตัวเองสู้กับน้ำทุกวันทุกคืน ไม่เช่นนั้นทรัพย์สินสิ่งของจมน้ำเสียหาย ส่วนอาหารการกินครัวหลังเดิมที่ใช้อยู่ประจำจมน้ำหมดแล้ว ได้หนุนบ้านไว้อีกหลังสำหรับทำครัว ยกปลั๊กไฟฟ้าหนีพ้นน้ำไว้สำหรับหุงข้าวในชีวิตประจำวัน และเป็นที่หลับนอน



ตลอดวันคุณยายพะเยาว์ ก็จะเดินลุยน้ำระดับสูงถึงเอว เข้าออกคอยดูทรัพย์สินจะจมน้ำเสียหายและคอยหนุนพื้นบ้านหนีน้ำไปเรื่อยๆ จะไม่ยอมให้สิ่งของจมน้ำเสียหาย เสื้อผ้าก็จะนำขึ้นไปแขวนบนราวไว้ใต้หลังคาเหนือน้ำ หากยายมาลี กลับมาก็จะมาช่วยอีกแรง คุณยายบอกหากขอได้ตอนนี้ขอให้ชลประทานเอาน้ำเจ้าพระยาแบ่งไปที่อื่นบ้างช่วยคนบางบาลเดือดร้อนทุกปี



จ.สิงห์บุรี ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่า คันดินกั้นน้ำชั่วคราว ที่หมู่ที่ 5 ตำบลพระงาม อำเภอพรหมบบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ต้านทานกระแสน้ำไม่ไหว เกิดพังลงมาส่งผลให้มวลน้ำไหลทะลักเข้าพื้นที่ หมู่ที่ 5 ตำบลพระงามอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านต่างช่วยกันขนย้ายทรัพย์สิน ข้าวของออกมาจากบ้าน นำมากองไว้ที่ริมถนนสายสิงห์บุรี – อ่างทอง บางส่วนก็ขนย้ายไปไว้บนชั้นสองของบ้าน



โดยมวลน้ำที่ไหลเข้ามาเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนหน้านี้กำลังทำการก่อสร้างผนังกั้นน้ำ แต่เนื่องจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นสูงมาก การก่อสร้างจึงต้องยุติและได้นำดินมากั้นเป็นคันกั้นน้ำชั่วคราว รอเมื่อถึงฤดูกาลที่น้ำลด จึงจะได้ทำการก่อสร้างต่อ แต่ก็มาเกิดเหตุคันกั้นน้ำพังลงมา มวลน้ำที่ไหลเข้าพื้นที่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ท่วมเต็มพื้นที่ ข้าวของเครื่องใช้ที่ขนย้ายไม่ทัน ได้รับความเสียหาย



จ.นครสวรรค์ วานนี้ (1 ต.ค.) เวลาประมาณ 17.10 น. มีคลิปวงจรปิดจับภาพ ขณะหลังคาศาลาวัดหนองยอสามัคคี ต.โพธิ์ประสาท อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ พังลงมาบริเวณหน้าพระประธาน โดยสาเหตุคาดว่าเป็นเพราะฝนที่ตกต่อเนื่องกันมาทุกวันเกือบ 1 อาทิตย์ ประกอ[กับอาจมีการผุกร่อนของปูนหรือกระเบื้อง จึงทำให้รับน้ำหนักไม่ไหวตกใส่แผ่นกระเบื้องของศาลาวัดแล้วทะลุลงไปด้านล่างที่มีความสูงเกือบ 10 เมตร เคราะห์ดีที่วัดนี้ไม่ได้นั่งสวดมนต์กับญาติโยม ไม่เช่นนั้นคงได้รับบาดเจ็บกันแน่นอน โดยจากนี้จะรอให้เช้าก่อนถึงจะให้ชาวบ้านขึ้นไปตรวจสอบสาเหตุ และเตรียมซ่อมแซมต่อไป



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/coj4FKLXW8s

คุณอาจสนใจ

Related News