อีกราย! ครูยโสธร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นสรรพากร หลอกดูดเอาเงินออกจากบัญชี 7 นาที 2 ล้านบาท

จากกรณีที่ น.ส.นิดา ชาว จ.ตรัง หอบเอกสารเข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว หลังถูกมิจฉาชีพโทรศัพท์เข้ามาอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร แจ้งเรื่องค้างภาษี แต่เมื่อกดเข้าไปแล้ว โทรศัพท์ค้างขึ้นหน้าจอเป็นสีฟ้า มีโลโก้กรมสรรพากร หลังจากนั้นเงินก็ถูกดูดออกไปเกลี้ยงเลยเกือบ 1.5 ล้านบาท

วานนี้ (วันที่ 16 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. นายฉลอง อายุ 43 ปี ชาว จ.ยโสธร สามีของนางรัชดา ผู้เสียหาย และเป็นข้าราชการครู ได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนและฝากแจ้งเตือนภัยเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้สำหรับคนทั่วไป

 หลังจากที่นางรัชดา ภรรยาของตนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพและต้องสูญเงินในบัญชีไปจำนวนกว่า 2 ล้านบาท ภายในเวลา 7 นาที ที่มิจฉาชีพหลอกให้เข้าแอปพิเคชันที่มิจฉาชีพหลอกให้ตนเข้าไป โดยมีการใช้แอปดังกล่าวดูดเอาเงินออกจากบัญชีธนาคาร

นายฉลอง เล่าว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา ได้มีคนโทรศัพท์เข้ามาที่เบอร์มือถือของนางรัชดา ภรรยา เบอร์ที่โทรเข้ามาคือหมายเลข 09-4468-1524 ปลายสายเป็นเสียงผู้ชาย และอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากร สอบถามภรรยาของตนว่า ชื่อนี้ไหม และเคยเปิดร้านค้าและเข้าร่วมโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ โดยได้เปิดแอปถุงเงินเพื่อรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือไม่

ซึ่งภรรยาก็แจ้งว่าเคยเปิดเมื่อปีที่แล้ว และขณะนี้ได้ปิดไปแล้ว แต่ปลายสายแจ้งว่าถึงแม้ว่าจะปิดไปแล้วก็ตามแต่ในระบบของกรมสรรพากรยังไม่ถูกปิดตามระบบ ซึ่งถ้าจะให้ปิดตามระบบจะต้องเข้าไปในแอปฯของกรมสรรพากร พร้อมกับได้ส่งลิงก์มาให้และแจ้งให้กดเข้าไปตามลิงก์

  ซึ่งภรรยาก็กดเข้าไปตามที่แจ้ง และมีการยืนยันยอมรับเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งในระหว่างที่มีการยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชั่นปลายสายก็บอกห้ามวางสายและห้ามพักหน้าจอให้คุยไปเรื่อยๆ แต่ในระหว่างที่กำลังพูดคุยอยู่ ปรากฏว่ามีข้อความจากแอปของธนาคารเด้งขึ้นมาแจ้งว่า มีเงินในบัญชีธนาคารของภรรยาถูกโอนออกไปถึง 3 ครั้งติดต่อกัน ในระยะเวลาเพียง 7 นาที

ครั้งแรกมีเงินออก จำนวน 22,210 บาท ซึ่งเป็นบัญชีเงินเดือนของภรรยา ครั้งที่ 2 เงินออก จำนวน 477,790 บาท // ครั้งที่ 3 เงินออก จำนวน 1,534,900 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน จำนวน 2,034,900 บาท ทั้ง 2 บัญชีเป็นธนาคารกรุงไทยที่มีการผูกกับแอปพลิเคชั่นของกรุงไทยเน็กซ์  จากนั้นจึงรู้ตัวว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกดูดเงินในบัญชีธนาคารอย่างแน่นอน จึงโทรศัพท์ไปแจ้งอายัดบัญชีไว้กับธนาคารกรุงไทย

โดยธนาคารแนะนำให้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจเอาไว้ก่อน ตนจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.คำผักกูด อ.กุดชุม จ.ยโสธร ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน  โดยธนาคารกรุงไทยได้ตรวจสอบเส้นทางการโอนเงินไปจึงพบว่ามีการโอนไปชื่อบัญชีคนอื่นของอีกทนาคารหนึ่ง  จากนั้นตนกับตำรวจได้โทรศัพท์ไปยังธนาคารดังกล่าว  เพื่อให้ช่วยประสานแจ้งอายัดบัญชีที่ถ่ายโอนเงินไป  แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือ โดยอ้างว่าเป็นระบบขั้นตอนของธนาคาร จะต้องให้ตำรวจทำหนังสือแจ้งอายัดไปเท่านั้น และต้องเป็นหนังสือเอกสารตัวจริงเท่านั้นถึงจะสามารถดำเนินการอายัดตามที่ร้องขอได้

 ขณะนี้ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการขอหลักฐานต่างๆ กับธนาคารเพื่อจะได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ในการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องต่อไป

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/TgUQgSfIkMQ