แม่ลูกสุดช้ำ เข้าบ้านไม่ได้ โดนแก๊งทวงหนี้หยอดกาวใส่กุญแจ หลังติดโควิด ต้องหยุดขายของ ไม่มีเงินจ่ายดอก

เหิมเกริม! แม่ลูกโร่แจ้งความแก๊งเงินกู้นอกระบบ ทวงดอกเบี้ยร้อยละ 60 ต่อเดือน เอากาวร้อนหยอดรูแม่กุญแจบ้าน ซ้ำเอาแม่กุญแจมาล็อคอีกชั้น เขียนป้ายประจาน เข้าบ้านไม่ได้นั่งตากยุง 3 ชั่วโมง เผย เพิ่งหายจากโควิด หยุดขายของ 10 วัน ทำให้ค้างจ่ายค่าดอก

วานนี้ (29 ก.ค.) ทีมงานสายไหมต้องรอด พานางโอ (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความที่ สน.สายไหม โดยผู้เสียหายรายนี้เป็นแม่ค้าตลาดนัด ติดโควิด 10 วัน หยุดขายของไม่มีเงินส่งดอกหนี้นอกระบบ พยายามเจรจาผัดผ่อนแต่เจ้าหนี้ไม่ยอม สุดท้ายถูกเอากาวร้อนหยอดรูแม่กุญแจ ห้ามเข้าบ้านจนกว่าจะมีเงินมาจ่ายค่าดอก ต้องนั่งรอหน้าบ้านกว่า 3 ชั่วโมงก่อนตัดสินใจร้องเพจสายไหมต้องรอด ขอความช่วยเหลือ

ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองทำอาชีพขายอาหารตามสั่งที่ตลาด ก่อนหน้านี้ตนเองมีภาระค่าใช้จ่ายต้องรับผิดชอบหลายอย่าง เพราะว่าอาศัยกันอยู่กับลูกสาว อายุ 8 ขวบ โดยต้องทำงานหาเงินดูแลลูกเพียงคนเดียว มีค่าใช้จ่ายทั้งค่าเช่าบ้านรายเดือน เดือนละ 5,000 บาท ค่าน้ำค่าไฟ ส่งลูกเรียนหนังสือ รวมค่าใช้จ่ายเดือนละประมาณกว่า 2 หมื่นบาท

จนเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พี่สาวตนล้มป่วย โดยตนได้เซ็นค้ำประกันไว้ จึงต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของพี่สาวแทนทั้งหมด ทำให้เงินไม่พอที่จะไปทำทุน เลยมีความจำเป็นต้องกู้เงิน ซึ่งตนไม่ได้อยากจะกู้เงินนอกระบบ เพราะฟังข่าวมาเยอะ แต่ได้พยายามไปขอกู้เงินในระบบแล้ว แต่ก็กู้ไม่ผ่านเลย จนรู้สึกถึงทางตัน เลยต้องกู้เงินนอกระบบ

ซึ่งที่ผ่านมา ตนก็พยายามจ่ายหนี้อยู่ตลอด แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนติดโควิด ทำให้ต้องหยุดขายของไป 10 วันและไม่มีเงินพอที่จะจ่ายหนี้ ซึ่งต้องจ่ายรายวัน มียอดหนี้ค้างรวมประมาณ 3 หมื่นบาท ปรากฎว่าคืนวันที่ 29 ก.ค. หลังขายของที่ตลาดเสร็จ กลับมาถึงบ้านประมาณตี 1 พบว่าไม่สามารถเข้าบ้านได้ เพราะถูกเอากาวร้อนมาหยอดที่แม่กุญแจบ้าน และเอาแม่กุญแจอีกตัวมาล็อกซ้ำ อีกทั้งยังปิดวาล์วน้ำ เขียนข้อความบนป้ายร้านอาหารตามสั่งหน้าบ้านว่า “เงินกู เอาคืนมา”

ตอนนั้นตนก็ตกใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร เลยนั่งรออยู่หน้าบ้านนานกว่า 3 ชั่วโมง แต่เนื่องจากเป็นเวลาดึกแล้ว เลยไม่มีใครผ่านมา ลูกสาววัย 8 ขวบ ก็โดนยุ่งกัด นั่งร้องไห้ด้วยความกลัว ถามว่าเขาจะมาทำร้ายเรามั้ยแม่ ตนจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือไปที่เพจสายไหมต้องรอด

จากนั้นนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เพจสายไหมต้องรอดได้เข้ามาช่วยเหลือ ตัดกุญแจให้ จึงได้เข้าบ้าน แต่ตนก็ไม่สามารถล็อกบ้านได้เพราะไม่มีแม่กุญแจ ทำให้ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงทั้งคืน ไม่รู้ว่าจะมีใครมาทำอะไรบ้าง ลูกสาวเองก็นอนไม่หลับเพิ่งมาหลับได้ตอนเช้า

ผู้เสียหาย ระบุว่า ช่วงที่ติดโควิด ทำงานไม่ได้ ตนได้ขอเจรจากับเจ้าหนี้แล้ว แต่เจ้าหนี้ไม่สนใจและจะข่มขู่ตนอย่างเดียว ซึ่งที่ผ่านมา หากจ่ายหนี้ช้า ก็จะส่งคนมาหน้าบ้าน เป็นชายวัยรุ่นขี่รถมอเตอร์ไซค์บ้าง ขับรถเก๋งมาจอดบีบแตรหน้าบ้านบ้าง มาข่มขู่บังคับให้จ่ายเงิน มีติดตัวอยู่เท่าไหร่ก็เอาไปหมดจนไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว บางครั้งก็ถูกแก๊งเงินกู้ขับรถตาม ซึ่งตนเองรู้สึกกลัวมาก และกลัวว่าวันหนึ่งจะเกิดเหตุร้ายแรงกว่านี้ เพราะเจ้าหนี้เคยขู่จะเผาบ้านด้วย บอกว่า “เจอตัวเมื่อไหร่โดนดีแน่” ตนเป็นห่วงลูกสาวกลัวจะถูกทำร้าย

ผู้เสียหาย กล่าวด้วยว่า กู้เงินจากเห็นใบปลิวที่ตลาด สาเหตุที่กู้เพราะจะนำไปจ่ายค่าบ้าน และพี่สาวที่ป่วยและค่าใช้จ่ายอื่นๆ และนำเงินไปลงทุนขายของ รวมถึงจ่ายหนี้รายวันที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว เมื่อขายของเสร็จทุนก็หมดต้องหาเพิ่ม ไม่งั้นเจ้าหนี้จะไปบ้าน ไปรุมด่าจนไม่กล้าอยู่บ้าน ต้องพาลูกออกมาเดินตากฝนตามป้ายรถเมล์ พร้อมกับร่ำไห้ว่า"อยู่ไม่ได้จริงๆ ไม่อยากเป็นหนี้เลย" หากไม่มีเงินจ่ายค่าบ้านเจ้าหนี้ก็ไม่ยอม

ตนกู้เงินมาทั้งหมด 3 เจ้า เจ้าละ 8 พันบาท เป็นดอกลอย เจ้าอื่นยังพอคุยได้ มีเจ้านี้ที่บอกว่าต้องจ่ายมา ไม่งั้นต้องหาเงินมาให้ได้ บางวันส่งคนมากดออดประตูเขย่าหน้าบ้าน เพื่อจะเอาเงินให้ได้แม้เงินในบัญชีมีแค่ 150 บาทก็ต้องโอนให้เขา "ถ้าจ่ายไม่ครบนอนไม่ได้เลย มีครั้งนี้ที่หนักสุด และยังขู่ว่าจะเผาบ้าน ทำร้ายร่างกาย อย่าให้เจอนะ อยากลองของก็เอา”  

ผู้เสียหาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเข้าใจว่าตนไปยืมเงินเขามา เป็นหนี้ก็ต้องจ่าย ซึ่งถ้ามีตนก็จ่าย ไม่ต้องการให้เกิดปัญหา แต่ตนไม่มีทางออกแล้วจริงๆ เพราะเศรษฐกิจแย่ลง ของแพง ขายของก็ได้กำไรน้อย รายได้ลดลง แต่สิ่งที่เจ้าหนี้ทำ “มองว่าเป็นการทำเกินไป อยากให้คุยกันได้ ไม่ใช่มาข่มขู่แบบนี้ จนทำให้ตนเครียด เคยคิดฆ่าตัวตายแล้วหลายครั้งแต่ลูกสาวพูดว่า แม่อย่าทิ้งไปไหน ซึ่งลูกสาวตนกลับจากโรงเรียนก็ต้องไปเดินขายลูกอมเพื่อหาเงินไปโรงเรียน เพราะเงินแม่ไม่มีพอให้”

นายเอกภพ กล่าวว่า เซลล์ดีก็มีแต่ไม่ใช่ว่าไม่ผิดกฎหมาย หากปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนดมันผิดอยู่แล้วการกระทำแบบนี้คือบ้านป่าเมืองเถื่อน คาดว่ามาจากต่างถิ่น ต้องเข้าใจคำว่าหาเช้ากินค่ำ เช้าขายของกลับมาซื้อข้าวมากินเงินก็หมดแล้ว เช้าก็ไปขายของ วันไหนฝนตกไม่มีเงินลงทุนก็ต้องหา ตนมองว่าเซลล์ปล่อยเงินกู้ทำนาบนหลังคน เก็บดอกเบี้ยร้อยละ 20-30-60 ทั้งนี้จะแจ้งทุกข้อกล่าวหาทั้ง ปล่อยเงินกู้ไม่ได้รับอนุญาต ,เก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด, ข่มขู่คุกคามและทำให้เสียทรัพย์

พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง ผกก.สน.สายไหม กล่าวว่า เบื้องต้น ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดและทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเข้ามา และจะติดต่อเรียกมาพูดคุย รวมถึงเงินกู้เจ้าอื่น ๆ ด้วย เนื่องจากผู้เสียหายกู้เงินมหลายเจ้า โดยจะให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำทั้งผู้เสียหายเพิ่มเติมอย่างละเอียดเพื่อรวบรวมข้อมูล หากพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมาย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/29poYHVRUJ4