‘หม่อมปลื้ม’ ขึ้นโรงพักบุรีรัมย์ รับทราบข้อหาหมิ่น ‘อนุทิน’ กระทืบซ้ำกัญชาเป็นยาเสพติด

วานนี้ (8 ก.ค.) ที่ สภ.เมือง เมืองบุรีรัมย์ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ หรือหม่อมปลื้ม เทวกุล เดินทางมาพบ พ.ต.ท.ไชยยา สระโสม รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมือง เมืองบุรัมย์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา”

การเข้าพบพนักงานสอบสวนดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายยุทธชัย พงศ์พณิช อายุ 42 ปี สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้รับมอบอำนาจจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าแจ้งความเอาผิดหม่อมปลื้ม ผู้ดำเนินรายการ The Daly Dose โลกการเมือง ซึ่งออกอากาศผ่านเพจเฟซบุ๊ก Voice TV หัวข้อ “ไม่สนเยาวชนติดกัญชาบ้างเลยหรือ?”

โดยผู้กล่าวหา ระบุว่า รายการตังกล่าวได้นำเสนอข่าวทำนองว่า พรรคภูมิใจไทยได้ปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด เป็นการมอมเมาประชาชน ผิดศีลธรรม ทำเรื่องที่ผิดเป็นเรื่องที่ถูก เป็นการย้อนแย้งกัน มี รมว.สาธารณสุข ที่สนับสนุนกัญชา เหมือนมี รมว.วัฒนธรรม ไปสนับสนุนการสร้างคาสิโน ทั้งยังบอกประชาชนไม่ให้เลือกพรรคภูมิใจไทยทั้งพรรค ที่มีความสุขในการมอมเมาเยาวชน โดยพูดว่า “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปไม่ต้องไปเลือกมันพรรคภูมิใจไทย” และพูดย้ำเช่นนี้หลายครั้ง ซึ่งเป็นการเผยแพร่เป็นสาธารณะ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้

ถือเป็นการใส่ร้ายป้ายสีพรรค มีลักษณะข้อความอันเป็นเท็จ มีถ้อยคำหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ทำให้ผู้ได้ยินได้ฟัง ดูหมิ่นเกลียดชังนายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย ทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งประมวลกฎหมายยาเสพติดได้ผ่านรัฐสภาตั้งแต่ปลายปี 64 โดยประกาศลงราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.64 เป็นกฎหมายที่ผ่านมติเอกฉันท์โดย ส.ส.และ ส.ว. ซึ่งเป็นการปลดล็อกกัญชา ไม่ได้เป็นยาเสพติดมาตั้งแต่ตอนนั้น

ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กล่าวหลังรับข้อกล่าวหาว่า หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกุล ให้ตัวแทนมาแจ้งข้อกล่าวหา ตำรวจให้มาตามหมายเรียกก็มา เบื้องต้นได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา ส่วนสาเหตุที่นำเสนอในรายการแบบนั้น เท่าที่สัมผัส เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ให้การต้อนรับผลเป็นอย่างดี หากตำรวจจะนัดให้ตนมาตอนไหนก็จะมาตามนัด

สำหรับการดำเนินรายการในวันนั้นที่ออกอากาศไป ตนยังยืนยันว่าทำถูกต้อง เพราะ”กัญชามันเป็นยาเสพติด”ไม่ควรจะสามารถปลูกได้ทุกบ้าน และไม่ควรที่จะเป็นสิ่งที่ซื้อขายกันได้อย่างเสรี

เมื่อมีการทำนโยบายของรัฐให้นำไปสู่ ความที่กัญชาสามารถใช้กันได้กึ่งเสรี ทำให้สิ่งนี้เป็นปกติ ให้สิ่งมีมีคุณมากกว่าโทษ เป็นข้อเท็จจริงที่กัญชามีโทษมากกว่าคุณ และเป็นข้อเท็จจริงที่ว่าประเทศส่วนใหญ่ในโลกหรือแทบจะทุกประเทศของโลก ถือว่ากัญชายังเป็นยาเสพติด

ดังนั้นภัยต่อสังคมเป็นสิ่งที่ต้องพยายาที่จะช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ตำรวจได้นัดอีกครั้งประมาณ 1 เดือน ว่าอัยการจะสั่งฟ้องหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอต่อไป หากเจ้าหน้าที่เรียกมาพบตอนไหนตนก็พร้อมจะเดินทางมา  

https://youtu.be/S7nk7DXhygc