สังคม

'เต้ มงคลกิตต์' ลั่นฟ้องแน่ คดีฆาตกรรมแตงโม ระบุ แม่เซ็นต์มอบอำนาจให้แล้ว

โดย weerawit_c

12 มิ.ย. 2565

52 views

นายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์  ไลฟ์สด ชี้แจงกรณี ‘แม่แตงโม’ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตัดสินใจไม่ฟ้องคดีฆาตกรรมกับคนบนเรือแล้ว เพราะหลักฐานไม่ถึง และเสี่ยงจะโดนฟ้องกลับให้แม่ต้องรับผิดชอบคนเดียว โดยนายมงคลกิตต์ กล่าวว่า ขอชี้แจงว่า คดีของแตงโม การดำเนินคดีอาญาในการฟ้องตรงเอง จะมีการประชุมสรุป รวบรวมหลักฐาน พยานทั้งหมด ทั้งพยานนิติวิทยาศาสตร์ , พยานบุคคล และหลักฐานทั้งหมด ในเย็นวันที่ 14 มิ.ย.นี้



ส่วนการจะถูกฟ้องกลับ ต้องดูหลักฐานที่เราได้มาว่า ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ พยานที่หามาจะเป็นเท็จไม่ได้  และการฟ้องกลับ ก็ไม่ได้ฟ้องง่ายๆ การที่จำเลยจะฟ้องกลับได้ ก็ต้องรอคดีหลัก ซึ่งต้องทำอย่างรอบคอบเพื่อให้คุณแม่ปลอดภัย โดยนายอัจฉริยะ จะเป็นคนเบิกความแทนแม่แตงโมทั้งหมด เพราะแม่เซ็นต์เอกสารมอบอำนาจไปแล้ว ทีมงานต้องจึงทำคดีด้วยความรอบคอบ เพื่อไม่ให้เขาฟ้องกลับได้ และแม่ต้องปลอดภัย



ขอความกรุณาอย่าโทรหาคุณแม่ เพราะเรื่องข้อกฎหมาย แม่อาจจะไม่รู้เรื่อง แต่แม่มอบอำนาจ ให้ คุณอัจฉริยะ และทีมสส.เต้ ฟ้องแน่นอน



ยืนยัน ยังไงก็ฟ้อง  เพราะทางตำรวจภูธรภาค 1 เขาฟ้องเป็นคดีประมาท ซึ่งหากจำเลยรับสารภาพ คดีก็จบ เราฟ้องอีกไม่ได้ จึงต้องฟ้องตรงเพื่อสู้คดี



ส่วนคดีแพ่ง ต้องรอเอกสารการจัดงานศพทั้งหมด จากผู้จัดการส่วนตัวของอั้ม พัชราภา ก่อน และรวบรวมหนี้สินของแตงโม ทั้งหมด จึงจะฟ้องแพ่ง รวมรายได้แตงโม ตั้งแต่อายุ 37 ปี-50 ปี คาดว่ามีรายได้ ประมาณ 200 ล้าน แต่จะฟ้องเรียกค่าเสียหาย แค่ 100 ล้าน



ทางด้าน ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์  เปิดเผย ถึงกรณีที่ล่าสุด คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่ของแตงโมว่า เรื่องนี้ตนเคารพการตัดสินใจของคุณแม่ โดยเท่าที่ตนทราบ คุณแม่น่าจะได้ไปสอบถามความเห็นกับนักกฎหมายที่เป็นกลางมา ไม่ใช่นักกฎหมายชุดปัจจุบัน แล้วได้ทราบว่า การจะฟ้องต้องมีพยานหลักฐานเพียงพอ ไม่เช่นนั้นก็มีผลกระทบทางกฎหมายที่ต้องรับ ซึ่งคุณแม่เป็นคนฉลาด เมื่อรู้ว่ามีความเสี่ยงต่อกฎหมาย จึงเปลี่ยนใจ แม้นายอัจฉริยะ จะบอกว่าเป็นการมอบอำนาจ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผู้ที่จะถูกเอาผิด คือผู้ที่เซ็นมอบอำนาจ คนที่รับมอบอำนาจจะไม่ได้โดนไปด้วย



ทั้งนี้ คุณแม่ยังไม่ได้ติดต่อกลับมาหาตน แต่หากวันหนึ่งคุณแม่คิดถึง ก็สามารถติดต่อมาได้ ส่วนตัวไม่ได้มีความขัดแย้งกับคุณแม่ ถึงแม้ว่าคุณแม่จะให้สัมภาษณ์แซะตนบ่อยครั้ง ตนก็ไม่โกรธ เพราะเข้าใจว่าแม่ต้องการหาสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว ก่อนหน้านี้ตนเองก็เคยให้คำแนะนำกับคุณแม่ว่า หากไม่มีหลักฐานยืนยันว่าใครเป็นคนฆ่า ก็อย่าฟ้อง เพราะหากนำสืบไม่ได้ก็จะแพ้คดี และอาจจะถูกฟ้องกลับได้ ส่วนตนจะกลับไปเป็นทนายความให้คุณแม่อีกครั้งหนึ่งหรือไม่ ก็คงจะไม่ไปเสนอตัว แต่ถ้าคุณแม่เห็นว่าตนยังมีประโยชน์ก็ติดต่อกลับมาได้ แต่ถ้าสุดท้ายแล้วคุณแม่ยังจะเดินหน้าฟ้อง ก็แล้วแต่คุณแม่ ตนเคารพการตัดสินใจ อยากฟ้องก็ฟ้องไป



ทั้งนี้ ส่วนตัวยังยืนยันว่าคดีนี้เต็มที่ยังไงก็ยังคงเป็นได้แค่คดีประมาท ซึ่งตนเองก็อยากจะให้คุณแม่ไปพบอัยการเจ้าของสำนวนเพื่อดูรายละเอียด จะได้ทราบเหตุและผล ถ้าไม่มีใครพาไปก็โทรมาหาตนได้ ตนจะเป็นคนพาไปเอง คุณแม่จะได้เข้าใจการสั่งฟ้องของอัยการ หากไม่เชื่อมั่นตำรวจ



ส่วนที่นายอัจฉริยะบอกว่ามีภาพคราบเลือดบนเรือ ตนยืนยันว่า จากที่ได้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคดีนี้ พยานหลักฐานนี้ไม่มีอยู่จริง แต่พูดไปคนก็คงไม่ชอบ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณแม่ตัดสินใจไม่ฟ้องเอง คนอื่นๆ ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแตงโมโดยตรง ก็ไม่ควรจะฟ้องเอง เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า



และหากนายอัจฉริยะบอกว่ามั่นใจในพยานหลักฐาน แต่คุณแม่ก็เพิ่งให้สัมภาษณ์เอง บอกว่าหลักฐานไม่ชัดเจน ตนจึงไม่ทราบว่านายอัจฉริยะเอาหลักฐานชุดไหนให้คุณแม่ดู ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่น่าสงสัย และหากจะอ้างว่าข่าวที่ออกมาเป็นการที่ผู้สื่อข่าวไปปั่นข่าว ตนได้พูดคุยกับนักข่าวช่องดังกล่าวแล้ว ยืนยันว่ามีการพูดคุยกับคุณแม่นานกว่า 10 นาที และทุกอย่างค่อนข้างชัดเจน



ทนายเดชา กล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้น สามารถยืนยันได้ว่า สิ่งที่ตนพูดเป็นความจริง ไม่เคยผิด ที่บอกว่าเป็นคณะตลก ซึ่งอีกฝ่ายก็รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอ แต่ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงไปแนะนำคุณแม่ให้ฟ้องคดีฆาตกรรม



และที่ตนเคยพูดไว้ว่า การที่คุณแม่ไปเข้าร่วมกับนายมงคลกิตติ์และนายอัจฉริยะ อีกไม่นานแพก็จะแตก ซึ่งจริงๆ แพแตกมาตั้งนานแล้ว เพราะไม่ได้มีใครเห็นไปในทางเดียวกัน แม้แต่นายมงคลกิตติ์กับนายอัจฉริยะเอง ก็ยังเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งวันนี้ไม่ใช่แค่แพจม แต่หลังจากนี้อาจจะมีคดีความตามมาด้วย


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/OPs4C64lY60

คุณอาจสนใจ

Related News