สังคม

สั่งปลดฟ้าผ่า พระผู้ดูแล 'หลวงปู่แสง' - คณะแพทย์แถลง 10 อาการอาพาธ แจงปมอัลไซเมอร์

โดย passamon_a

15 พ.ค. 2565

227 views

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะสงฆ์อำนาจเจริญ สั่งปลดเลขาซ้ายขวา หลวงปู่แสง กลางอากาศ หลังพบมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม


คณะสงฆ์ลูกศิษย์ หลวงปู่แสง ญาณวโร ได้ร่วมประชุมลงมติปลด พระอุปัฏฐากชุดดูแลหลวงปู่แสงในวันเกิดเหตุ ออกจากการดูแลรับใช้หลวงปู่ เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ดูแลอุปัฏฐากหลวงปู่ในวันเกิดเหตุ ได้รับการติเตียนเป็นอย่างมาก เพราะพระอุปัฏฐาก หรือพระปรนนิบัติหลวงปู่ ดูแลหลวงปู่ไม่ดีพอ


ด้าน พระครูกมลวัฒนาทร (มนู ประชานันท์) เจ้าคณะตำบลโพนเมืองน้อย (ธ) มีเขตดูแล 9 ตำบล วัดป่าทองสมรรัตนาราม ต.รัตนวารี อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า อาตมาไม่เห็นด้วยกับการที่มีพระองครักษ์ 2 รูป ซ้ายขวา มีพฤติกรรมเช่นนี้ ควรจะมีความรอบคอบในการปฏิบัติหน้าที่ ปกป้องหลวงปู่ เพราะหลวงปู่ท่านอายุมากแล้วจริง ๆ และยังมีโรคประจำตัวหลายโรค ท่านหลง ๆ ลืม ๆ ดีแล้วที่มีการปลด องครักษ์ท่านทั้ง 2 รูป แล้วแต่งตั้งขึ้นมาใหม่


จากกรณีที่ทางวัด ยังไม่จัดการปัญหาเรื่องรับจ่าย เรื่องเงินเงินทองทอง อยากให้ส่วนผู้เกี่ยวข้อง ลงมาช่วยแก้ไขเกี่ยวกับปัญหาเรื่องเงินเงินทองทองของวัด ไม่ว่าจะเป็นรายรับรายจ่ายให้ถูกต้อง เพราะเป็นเงินจำนวนมาก อีกอย่างหลวงปู่แสง ท่านเป็นผู้ที่ประชาชนศรัทธาและนับถือกันทั้งจังหวัด รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง และประชาชนทั่วประเทศ อาตมาอยากให้จัดระเบียบเรื่องการเงินให้กระจ่างและชัดเจน มีรายรับรายจ่ายชัดเจน รู้ยอดเงินเข้าออกและเงินที่มีอยู่ เพราะลำพังหลวงปู่นั้นท่านทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ท่านไม่สบาย ต้องเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ จึงจะจัดการเรื่องนี้ได้ วอนให้ผู้เกี่ยวข้องจัดการตรงนี้ด้วย


ขณะที่ วันที่ 14 พ.ค.65 ทีมแพทย์แถลงอาการอาพาธ หลวงปู่แสง พบหลวงปู่อาพาธมากถึง 10 กลุ่มโรค เริ่มพบอาการผิดปกติ อัลไซเมอร์ กลางปี 61 พฤติกรรมเริ่มสัมผัสลูกศิษย์ที่เข้ากราบ


กรณีอาการอาพาธของ หลวงปู่แสง ญาณวโร พระเกจิชื่อดัง คณะแพทย์ที่ทำการรักษาดูแลหลวงปู่ แถลงรายละเอียดที่โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี


โดยการแถลงครั้งนี้ คณะแพทย์ผู้ได้รับมอบหมายจากครอบครัว เเละศิษยานุศิษย์หลวงปู่แสง นำโดย นพ.เศวต ศรีศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี นพ.ปิยวัฒน์ จิรัปปภา รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพริ้นซ์ และ นพ.สมฤทธิ์ เวียงสมุทร แพทย์ผู้ดูเเลรักษาหลวงปู่เเสง


โดยการชี้เเจงเกี่ยวกับการอาพาธ นพ.เศวต ศรีศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี เปิดเผยว่า คณะแพทย์ผู้ทำการรักษาอาการอาพาธของหลวงปู่แสง มากว่า 20 ปี ทางคณะแพทย์วินิจฉัยว่า มีภาวะอัลไซเมอร์ ระยะที่ 1 มีโอกาสที่ผู้ป่วยจะมีความจำถดถอยบ้าง ถามซ้ำ ๆ พูดซ้ำ ๆ เรื่องเดิม แต่ยังสื่อสารและใช้ชีวิตได้ตามปกติ ส่วนจะเป็นอัลไซเมอร์ ระยะที่ 2 หรือไม่แพทย์เฉพาะทางยังต้องวินิจฉัยเพิ่มเติม


จากการตรวจสอบพบว่า หลวงปู่แสง มีประวัติไข้มาลาเรียขึ้น สมอง ซึ่งในทางการแพทย์ หากการตรวจซิฟิลิส (TPHA Test) อาจพบเชื้อลวงได้ ควรตรวจซ้ำเพื่อยืนยัน หรือ อาจเคยติดเชื้อซิฟิลิซมาก่อนก็เป็นได้ กรณีนี้หากจะให้ชัดเจน ต้องใช้วิธีเจาะน้ำไขสันหลังตรวจสอบเพิ่มเติม


ด้าน นพ.สมฤทธิ์ เวียงสมุทร นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลหัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ซึ่งให้การดูแลรักษาอาการอาพาธหลวงปู่ใกล้ชิด เล่าว่า ช่วงเริ่มต้นที่เริ่มเข้าไปดูแลอาการอาพาธของหลวงปู่ มีอาการติดเชื้อที่ปอด (ปอดอักเสบ), ปวดหลังร้าวลงขา ร่วมกับขาทั้ง 2 ข้างอ่อนแรง ซึ่งเกิดจากสาเหตุกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท  มีอาการของโรคเก๊าท์ร่วมด้วย


การให้การรักษาหลวงปู่ จะไม่เหมือนกับรักษาคนไข้ทั่วไป ทีมแพทย์จะเดินทางไปที่วัดที่หลวงปู่แสง จำพรรษา การให้การรักษา ณ โรงพยาบาลเกิดขึ้นน้อยมาก เพราะหลวงปู่ไม่ประสงค์เข้ารับรักษา อาการอาพาธที่โรงพยาบาล ไม่ชอบฉันท์ยา หากหลวงปู่บอกว่าไม่ก็คือไม่ และไม่สามารถฝืนได้ หลายครั้งที่มีอาการอาพาธไม่ยอมฉันท์ยา แพทย์ต้องเข้าไปดูแลและคอยไปพบอยู่สม่ำเสมอ จึงยอมกินยาและรับการรักษา และที่สำคัญ จะไม่ให้ผู้หญิงเข้าใกล้ แม้แต่ทีมแพทย์ หรือผู้ดูแลเวลาที่ต้องรักษาตัวที่ รพ. ก็เป็นผู้ชายทั้งหมด    


ในช่วงการรักษาที่ 2 ช่วง ปี 2560-2562 หลวงปู่แสงย้ายไปอยู่เชียงใหม่ ช่วงกลางปี 2561 พระอุปัฏฐากโทรปรึกษาว่า หลวงปู่มีอาการแปลก ๆ มีอาการสัมผัสผู้หญิง ตอนนั้นก็ตกใจเกิดอะไรขึ้น เพราะหลวงปู่จะเคร่งมาก พระและผู้ดูแลก็พาไปพบแพทย์ ซึ่งได้ให้คำปรึกษาทางการแพทย์ว่า อาจจะมาจากอายุมาก และมีภาวะสมองฝ่อได้ตามวัย


และหากบริเวณที่ฝ่อเกี่ยวข้องกับส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์และพฤติกรรม อาจส่งผลให้การแสดงออกผิดปกติได้ โดยที่ความทรงจำยังเป็นปกติอยู่ เพราะสมองส่วนที่ทำงานนั้นคนละส่วนกัน ต่อมาทางคณะศิษย์ได้นิมนต์ไปโรงพยาบาลเพื่อเข้าเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (MRI) ทำให้ทราบว่ามีภาวะของอัลไซเมอร์


นพ.สมฤทธิ์ ยังกล่าวว่า จากนั้นก็เข้าใจว่า คงเป็นอาการแค่ชั่วคราวและรับการรักษาไปแล้ว จึงไม่ได้คิดตามสอบถามอาการต่อ และต่อมาในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 กำลังระบาด ทีมลูกศิษย์ที่ดูแลท่านก็ได้มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนเปลี่ยนไป จึงไม่ทราบว่าอาการพฤติกรรมที่ผิดปกติที่เกิดขึ้นนั้นได้รับการรักษาแล้วหรือไม่


ปี 2563 หลวงปู่ย้ายกลับมาอยู่วัดป่าดงสว่างธรรม ตนได้เข้าไปดูแลหลวงปู่อีกครั้ง พบว่ามีการสลับปรับเปลี่ยนคณะใกล้ชิดที่ดูแลท่าน ประกอบกับสถานการณ์โควิด ทีมแพทย์ไม่สามารถเดินทางไปเหมือนก่อนได้ จึงไม่ทราบว่าอาการพฤติกรรมที่ผิดปกติที่เกิดขึ้นนั้นได้รับการรักษาแล้วหรือไม่ แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น คณะแพทย์เข้าเยี่ยมและตรวจอาการอาพาธ และตรวจสอบข้อมูลการรักษา ก็เพิ่งทราบว่า เคยเข้าตรวจ MRI ผลวินิจฉัย เส้นเลือดสมองตีบและฝ่อ เส้นเลือดสมองบางส่วนขาดเลือด หรือ โรคอัลไซเมอร์ ซึ่งทีมแพทย์จะให้การดูแลรักษาอาการอาพาธของท่านต่อไป


นพ.พงษ์พัฒน์ พิมพ์ศักด์ นายเเพทย์ชำนาญการ กล่าวว่า แพทย์ที่รักษาจะรู้ดีว่าการแจกพระ โยนพระ ของหลวงปู่แสง คือการเสียความจำระยะสั้น และถ้ารุนแรงมากขึ้นความจำพวกนี้ก็จะลดลง ดังนั้น ข้อจำกัดในการทานยาของท่านมีผลต่อการรักษา ทีมแพทย์จึงมีความกังวลเรื่องการจ่ายยา เพราะท่านไม่ชอบคนที่วุ่นวาย โรคจึงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ


ส่วนการตรวจพบว่ามีเรื่องเกี่ยวกับซิฟิลิส สาเหตุมีหลากหลาย เกิดจากการสัมผัสสารคัดหลั่งก็ได้ ดังนั้น ไม่มีใครบอกได้ว่าเป็นตอนไหน แต่ที่บอกได้ คือ ซิฟิลิสมี 4 ระยะ หากเป็นระยะสุดท้ายต้องเจาะเอาไขสันหลังไปตรวจ แต่สภาพร่างกายหลวงปู่แสงไม่อำนวย จึงต้องรักษาให้ยาตามอาการ แพทย์ก็ยังไม่มีข้อมูลก่อนบวชไม่ทราบประวัติ จึงไม่มีใครบอกได้ และยังสรุปไม่ได้ว่าติดจากอะไร แต่มีภาวะสมองเสื่อมและขาดเลือดเป็นจุด ๆ ในสมองอย่างแน่นอน


ด้าน นพ.เศวต ศรีศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี ซึ่งสรุปอาการอาพาธของหลวงปู่ จากประวัติการรักษาของคณะแพทย์ อาทิ


1. ทางเดินอาหารผิดปกติ ท้องผูก เป็นสม่ำเสมอ

2. โรคหัวใจที่เกิดจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายผิดปกติ มีหัวใจล้มเหลวบางครั้ง  

3. โรคความดันโลหิตสูง

4. โรคต่อมลูกหมากโต

5. ปวดหลังเนื่องจากกระดูกสันหลังคด

6. ข้อเข่าเสื่อมทั้ง 2 ข้าง

7. โรคกระดูกพรุน

8. โรคนอนหลับยาก

9. สมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ระยะที่ 1

10. ภาวะพฤติกรรมอารมณ์ที่ผิดปกติที่เกี่ยวกับสมองเสื่อม


ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า การที่หลวงปู่อายุมาก และมีอาการอัลไซเมอร์ คณะแพทย์จะดำเนินการอย่างไร จะมีการปรับกิจนิมนต์ของหลวงปู่หรือไม่ นพ.สัมฤิทธิ์ ระบุว่า เราเพิ่งรู้หลังจากเกิดเหตุการณ์ เราไปตรวจและให้ยาเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เรื่องยาเราเพิ่งให้ยา และไม่เป็นประเด็น แต่ที่สำคัญคือเราไม่รู้มาก่อน


จากนั้น นพ.เศวต กล่าวว่า ช่วงที่หลวงปู่ไปอยู่ที่เชียงใหม่มีการเปลี่ยนพระที่อุปฐากบ่อย ซึ่งมีปัญหาของการให้ยา การควบคุมการบริหารจัดการ รวมถึงหนังสือบันทึกการให้ยา ก็หายหมด จึงเกิดประเด็นการให้ยาไม่ต่อเนื่อง ซึ่งทุกอย่างเรามาทราบทีหลัง


ต่อมา นพ.สัมฤทธิ์ กล่าวว่า เพื่อความเป็นธรรมของพระอุปฐากและลูกศิษย์ที่ดูแลว่า หลวงปู่ แม้จะป่วยแต่ไม่ใช่มีอาการหลงลืม 100% ยังมีความจำที่เป็นปกติอยู่ ดังนั้นการจะตีความว่าหลวงปู่ผิดปกติ ลูกศิษย์อาจจะไม่กล้า และหากหลวงปู่ บอกว่าไม่ ก็ไม่มีใครกล้าฝืนหลวงปู่ได้ หากดูภายนอกคือเหมือนปกติ เพราะเป็นแบบนี้ คนดูแลจึงไม่กล้าว่า หรือสงสัยว่านี่คืออาการป่วย จึงทำให้ไม่มีการฉันท์ยาต่อเนื่อง


ส่วนกรณีที่หลวงปู่อาพาธหลายโรคแล้วจำกัดกิจนิมนต์หรือปรับวิธีดูแลหรือไม่ นพ.เศวต ระบุว่า คณะแพทย์ได้คุยกันและเสนอแนวทางว่า อันดับแรก หลวงปู่ต้องเริ่มรับยาด้วย อันดับสองคือ คณะญาติ ศิษยานุศิษย์ พระสงฆ์ ต้องช่วยกันดูแล ซึ่งมีแพทย์ที่เป็นพระสงฆ์ ก็คอยดูแลท่านด้วยการที่ให้ท่านได้พบปะ ญาติโยมลูกศิษย์ ก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้หลวงปู่ยินยอมฉันท์ยา หากมองทางคณะแพทย์ ก็ไม่อยากให้หลวงปู่รับกิจนิมนต์แล้ว แต่หลวงปู่มีกิจวัตรประจำวัน รู้ว่าตื่นมาแล้ว ก็จะมีการรับแขกตั้งแต่ช่วงเที่ยง ๆ บ่าย ๆ จนถึงสรงน้ำตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ก็มีกิจวัตรประมาณนี้


ด้าน นพ.พงษ์พัฒน์ บอกว่า ในทางการแพทย์ ก็อยากให้มีข้อจำกัด แต่ในแง่การปฏิบัติของหลวงปู่เอง ซึ่งท่านไม่ได้สนใจในร่างกายและขันธ์ 5 ของร่างกาย ท่านอยู่เพื่อโปรดคณะศิษย์ ดังนั้นการที่จะห้ามอะไรหลวงปู่ ท่านจะบอกเสมอว่า "ลูก การที่พ่อได้ออกมาดูคน มาแจกของ คนที่มากราบไหว้ ถ้าไปจำกัดเรื่องนี้ จะเป็นเหมือนการห้ามในสิ่งที่หลวงปู่ทำ"


ดังนั้นการดูแลรักษาหลวงปู่ จึงทำแบบลูกศิษย์ดูแลครูบาอาจารย์ไม่ใช่หมอดูแลคนไข้ จึงเป็นการยากที่จะไปดูแลทั้งหมด



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/mSmoGxjvz4A

คุณอาจสนใจ

Related News