4 พ่อแม่ลูกหายตัว พบบินไปตุรกี 'ลูกสาวคนโต' ร่ำไห้ เผยอยากเจอ อยากถามทุกอย่าง

4 พ่อแม่ลูกหายตัวปริศนา ล่าสุดพบว่าเดินทางไปประเทศตุรกี ติดต่อญาติมาแล้วปลอดภัยดี นายอำเภอยันครอบครัวนายนิรุตน์ ไม่เกี่ยวข้องกับกองทุนหมู่บ้าน


เมื่อวันที่ 22 เม.ย.65 พล.ต.ต. อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ ผบก.ภ.จว.สุโขทัย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ครอบครัวที่หายตัวไป 4 คน ตามทะเบียนบ้านเป็นคนตำบลบ้านไร่ อำเภอศรีสำโรง แต่เนื่องจากเขาย้ายออกจากทะเบียนบ้านครอบครัวเดิมที่ตำบลบ้านไร่ อำเภอศรีสำโรง ไปอยู่ที่อำเภอทุ่งเสลี่ยม ซึ่งห่างจากบ้านที่ตำบลบ้านไร่ไป 30 กิโลเมตร และไปอยู่ที่อำเภอทุ่งเสลี่ยม 2-3 ปีแล้ว


ปัจจุบันทราบว่าเขามีการติดต่อกับญาติพี่น้องมาแล้วปลอดภัยดี แต่ไม่ได้บอกว่าไปอยู่ที่ไหน ส่วนปัญหาในเรื่องของการประสบอุบัติเหตุโดนอุ้มหรือโดนทำร้าย ไม่มีให้สบายใจได้ ในข้อสงสัยว่าทำไมต้องหลบหนีนั้น เท่าที่ทราบมาเขามีปัญหาหนี้สินประมาณ 10 ล้าน เป็นปัญหาภายในส่วนตัวของเขา เขาจึงไม่อยากเจอเจ้าหนี้หรือไม่อยากให้เจ้าหนี้หรือใคร ๆ มาทวงหนี้หรือติดต่อได้ อาจจะหลบหนีไปทำใจสักระยะหนึ่งแล้วคงกลับมา


ในกรณีที่มีการแจ้งคนหาย ทางเจ้าหน้าที่ก็ให้ความร่วมมือกับทางผู้เสียหายคือครอบครัวโดย สืบหาและติดตาม ในเบื้องต้นตามที่รายงานไปแล้วคือทราบว่าทั้ง 4 คนปลอดภัยดี ส่วนในกรณีที่เขามีหนี้สินคงต้องมาดูว่าเขากู้หนี้ยืมสินมาเป็นหนี้ประเภทไหน จะเป็นการกู้ยืมหรือเป็นการเล่นแชร์ เท่าที่ทราบมาคือมีผู้เสียหายหลายรายอาจจะมีการเข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องรอสถานการณ์ไปอีกสักระยะหนึ่ง


ส่วนในการช่วยเหลือครอบครัวนี้ หากเค้าประสบปัญหาต้องการให้ทางตำรวจช่วยเจรจา ทางตำรวจก็พร้อม อีกอย่างทางกระทรวงยุติธรรมก็มีศูนย์ไกล่เกลี่ย ให้การช่วยเหลือระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้อยู่เพื่อช่วยเจรจาต่อไป หากนายนิรุตน์ และนางสาวนฤมล สบายใจดีแล้ว ก็อยากให้ติดต่อกลับมาที่เจ้าหน้าที่จะได้ ดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป


ต่อมา เวลา 17.00 น. สภ.บ้านไร่ จ.สุโขทัย ได้เชิญตัวนายล้วน บุญชู และ น.ส.หิรัญญา บุญชู หรือน้องอุ้ย มาแจ้งความคืบหน้ากรณีที่ นายนิรุตน์ บุญชู พร้อมภรรยาและลูกอีกสองคน ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา


ซึ่งข้อมูลล่าสุดพบว่า นายนิรุตน์ พร้อมทั้งครอบครัวรวม 4 คน ได้เดินทางออกนอกประเทศผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เวลา 20.30 น. ของคืนวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา


น.ส.หิรัญญา เปิดใจทั้งน้ำตาว่า หลังจากทราบข่าวว่าพ่อแม่ และน้อง ๆ เดินทางไปต่างประเทศแล้วก็ รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งตัวเองคาดหวังว่าพ่อแม่จะกลับมาหา อยากเจอพ่อกับแม่มาก อยากจะกอดและจะไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พ่อแม่อยากจะบอกอะไรก็แล้วแต่เค้า


ด้านนายล้วน พ่อของนายนิรุตน์ กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวว่ารู้ลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลาน ๆ ยังมีชีวิตอยู่ก็รู้สึกสบายใจ และดีใจ ซึ่งอยากจะบอกลูกชายว่าให้กับมาถ้ามีอะไรให้มาแก้ไข ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายล้วน ถึงกรณีข่าวที่ว่าลูกชายได้ไปหนี้เป็น 10 ล้านบาทนั้น ตนเองไม่รู้เรื่องมาก่อนซึ่งถ้าจะให้รับใช้ตนเองก็ไม่รู้เรื่อง


ด้าน นายกฤชทิพ ชะนิดไทย นายอำเภอทุ่งเสลี่ยม ซึ่งเป็นพื้นที่ครอบครัวของนายนิรุตน์ อาศัยอยู่ เปิดเผยกลับผู้สื่อข่าวว่า จากเหตุการหายตัวไปของครอบครัวนายนิรุตน์ ทางตนเองได้ลงพื้นที่ตรวจที่บ้าน ปรากฏว่าบ้านหลังดังกล่าวไปถูกปิดเงียบ


ซึ่งตนเองก็ได้ประสานกับตำรวจ สภ.ทุ่งเสลี่ยม ตลอดเวลา สำหรับกระแสข่าวที่ครอบครัวนี้ที่ได้หลบไปเกี่ยวกับเรื่องเงินกองทุนหมู่บ้านนั้น ตนได้มีการตรวจสอบข้อมูลหลังจากที่มีกระแสข่าวว่าสาเหตุที่มีการหลบหนีของครอบครัวนี้อาจจะมาจากหนีหนี้ ซึ่งก็ไม่ชัดเจนว่าใช่มั้ยว่ามาจากการหนีหนี้หรือท่วงหนี้จึงหายไป ซึ่งตนเองได้ตรวจสอบไปยังหน่วยงานราชการ กลุ่มออมทรัพย์ หรือกลุ่มกองทุนหมู่บ้านต่าง ๆ ในพื้นที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม ยังไม่มี และเมื่อช่วงเช้าตนเองก็ได้ไปเป็นประธานเปิดการประชุม ชี้แจงอบรมสามัญใหญ่ของกองทุนหมู่บ้านอำเภอทุ่งเสลี่ยม ซึ่งได้สอบถามพบว่าไม่เคยมีบุคคลเหล่านี้มาเกี่ยวข้องกับกองทุนหมู่บ้าน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/a_5q2RUAD_U