สังคม
รวบสาวเปิดบัญชีม้า อ้างหาเงินง่าย ชวนทำกันทั้งบ้าน มากกว่า 30 บัญชี
โดย thichaphat_d
10 เม.ย. 2565
161 views
พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าว กรณีการจับกุม นางสาว ธนสินี อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.271/2565 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง
โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นๆ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าจะเป็นทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน โดยจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ที่บ้านพักย่าน อ.หางดง จ.เชียงใหม่
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากกรณีได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ติดตามข้อมูลพบว่า มีนายหน้ารับเปิดบัญชี เพื่อขายให้กับนายทุน และบัญชีเหล่านี้ได้นำไปใช้ในการกระทำความผิดของ ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ และ ‘แก๊งหลอกร่วมลงทุน’ ในหลายท้องที่ สืบทราบข้อมูลจะพบว่าผู้ก่อเหตุดังกล่าวคือ นางสาวธนสินี หาเจ้าหน้าที่จะได้ขอใหม่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าว
เบื้องต้น ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนต้องการจะใช้เงิน ทางบ้านมีความขัดสน จึงได้พยายามขายรถยนต์เก่าตามเพจต่างๆ แต่ไม่มีใครสนใจ ตนจึงเลื่อนหาข้อมูลพบว่ามีการรับซื้อบัญชีธนาคาร โดยได้รายได้ประมาณ 2-3 พันบาทต่อ 1 บัญชี โดยนายหน้าได้บอกว่าจะนำไป เล่นสล็อตหรือเว็บการพนัน
ตนจึงได้ทดลองโดยการติดต่อขายบัญชีกับผู้รับซื้อ โดยมีการนัดตกลงเปิดบัญชี และรับมอบเงินกับนายหน้าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
จากนั้น ได้เปิดบัญชีธนาคารต่างๆ หลายบัญชีรวมแล้วกว่า 30 บัญชี เนื่องจากตนเห็นว่าเป็นการหาเงินที่ได้ง่ายและสะดวก นอกจากนี้ตนยังได้แนะนำให้คนใกล้ตัวได้มาร่วมเปิดบัญชีด้วย สุดท้ายตนได้รับแจ้งจาก พนักงานสอบสวนและถูกจับกุม เนื่องจากบัญชีของตนได้ถูกนำไปใช้เพื่อเป็นบัญชีรับโอนเงินจากการกระทำผิดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และหลอกร่วมลงทุนในหลายท้องที่
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย. ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ได้ดำเนินการในคดีร่วมกันหลอกให้ประชาชนลงทุน โดยผู้เสียหายในคดีนี้ ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนโดยโอนเงินผ่านบัญชีม้า เบื้องต้น 3 บัญชี โดยบัญชีของผู้ต้องหารายนี้ถือเป็น 1 ใน 3 บัญชี
แต่ที่น่าสนใจคือตัวผู้ต้องหา รวมถึงสามี และญาติ มีการรับจ้างเปิดบัญชีรวมๆ แล้วมากกว่า 30 บัญชี และถูกส่งไปให้กับนายทุน ซึ่งที่ผ่านมาผู้ต้องหาได้ถูกดำเนินคดีหลายที่ โดยในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้มีการอายัดบัญชีทั้งหมด คาดว่ามีเงินหมุนเวียนในหลายๆบัญชีหลายสิบล้าน
ทั้งนี้อยากจะฝากเตือนประชาชน ว่าการรับจ้างเปิดบัญชี ถือว่าเป็นการกระทำความผิดร้ายแรง เป็นการมีส่วนร่วมกระทำความในองค์กรอาชญากร ยิ่งหากเป็นการกระทำข้ามชาติ ก็จะยิ่งมีโทษหนัก
รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/GdqhKn6RRpo