สังคม

พระอาจารย์อุเทน พร้อม 'โยคีปอ-โรเบิร์ต' แถลงร้องขอความเป็นธรรมจาก ผบ.ตร. หลัง ตร.สะกดรอยตาม

โดย weerawit_c

19 มี.ค. 2565

120 views

เป็นประเด็นที่ต้องติดตาม หลังจากการบวชแบบพราหมณ์ หรือโยคี ของนายปอและโรเบิร์ต หรือ โยคีปอ โยคีเบิร์ต และทั้งสองคน ได้เดินธุดงค์ เป็นครั้งแรก ต่อมาพบว่าเฟซบุ๊กของวัดท่าไม้มีการโพสต์ ข้อความว่า "จะแถลงข่าวสำคัญมาก เรื่องโยคีปอ โยคีเบิร์ตจะให้เขาพูดแล้ว"



เมื่อวานเรียกว่าพอโพสต์นี้ถูกแชร์ออกไปต่างเป็นที่สนใจเพราะ เข้าใจว่าจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต ของดาราสาว แตงโม นิดา ทีมข่าวเดินทางไปที่ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี พระอาจารย์อุเทน เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ แถลงข่าว



โดยก่อนเริ่มแถลงข่าว หลวงพี่อุเทนได้ ขอฟิวเจอร์บอร์ด เขียนอะไรบางอย่าง และมีการสอบถามผู้สื่อข่าวว่า ชื่อของ ผบ.ตร. สะกดอย่างไร และยังมีการติดป้ายข้อความ ชื่อของ พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน



จากนั้นก่อนการแถลงข่าว โยคีปอ-โรเบิร์ต ขอคุยกับพระอุเทน เป็นการรอบนอกก่อนจะแถลง ต่อมาพระอาจารย์อุเทน ชูป้ายส่งข้อความถึง พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข และ พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน



โดยบอกว่า เมื่อคืนที่วันที่ 17 ต่อเนื่อง 18 มีนาคม ได้เดินธุดงค์ บริเวณ เขากระโจมไปตามแนวชายแดนประเทศเมียนมา หลังจากได้นำโยคีปอและโยคีโรเบิร์ต ไปปักกลดนั่งวิปัสสนาบนยอดเขากระโจม ที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี แต่เมื่อไปถึง ถูกเจ้าหน้าที่ ตชด. ที่เฝ้ายาม เชิญออกนอกพื้นที่ โดยให้เหตุว่าเป็นที่เสี่ยงอันตรายโควิด 19  และเป็นเขตแนวชายแดน



ทางคณะจึงตัดสินใจเดินลงมาจากเขากระโจม เพื่อมาปักหลักที่ธรรมสถานใหม่อีกครั้ง เพื่อตั้งใจเดินทางไปธุดงค์ต่อ ที่จังหวัดกาญจนบุรี



แต่ในระหว่างเดินทางกลับมาที่ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย ก็เห็นรถยนต์จอดอยู่หน้าวัด จำนวน 3 คัน ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นรถนักข่าว จึงไม่มีใครเอะใจ แต่พอหลังจากเตรียมความพร้อมเสร็จสิ้น และกำลังจากเดินทางออกจากธรรมสถาน เพื่อเดินทางไปกาญจนบุรี แต่ปรากฏว่า ระหว่างทางที่รถของ โยคีปอ-โรเบิร์ต ขับออกไปก่อน ถูกรถที่จอดรอหน้าวัด สะกดรอยตาม ประกบทั้งหน้าและหลัง จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจตะเวนชายแดน เพราะรู้สึกไม่มีความปลอดภัย



ที่ผ่านมาก็ไปเดินธุดงค์ จุดนี้มาหลายครั้ง ไม่เคยมีปัญหา และการเดินธุดงค์ครั้งนี้ก็ทำหนังสือแจ้งไปแล้ว



ด้านโยคีปอ เล่าเหตุการณ์ว่า หลังจากที่เดินทางออกจากธรรมสถาน ก็พบว่ามีรถแคมรี่ขับตาม และมีรถกระบะปิดท้าย แต่ก็ไม่ได้เอะใจ เพราะคิดว่าเป็นรถนักข่าว แต่พอไปถึงสามแยกในตัวอำเภอสวนผึ้ง พบรถกระบะ จอดขวางกลางถนน ตอนนั้นตกใจมาก และมีชายเดินลงมาจากรถ ถือกล้องลงมาด้วย ตนจึงถามว่าเป็นใคร ชายคนนั้นอ้างว่าเป็นตำรวจ และบอกว่ารถที่ตนใช้อยู่ เป็นรถต้องสงสัย  



จากนั้นชายที่ขับรถกระบะ ก็เลื่อนรถออก ตนจึงถามว่า จอดรถขวางทำไม ชายคนนั้นตอบว่า กำลังจะถอยรถ ไม่ได้จอดขวาง แต่ภาพที่เห็นก็คือเป็นการจอดรถขวางถนน



จากนั้นจึงโทรปรึกษาพระอาจารย์ แล้วกลับรถ มาที่ธรรมสถาน และปรากฏว่ารถปริศนาที่ติดตาม ขับตามประกบมาถึงที่วัด เมื่อมาถึง โยคีปอ จึงลงรถเข้าไปถาม ว่าทำไมถึงขับตาม เป็นตำรวจหน่วยไหน ขับตามทำไม คนเหล่านั้นไม่ยอมแสดงตัว และขับรถออกไป โดยทิ้งพรรคพวก จำนวน 3 คน ไว้ที่หน้าธรรมสถาน โดย 3 คนนี้มีบางคน พกอาวุธด้วย พระอาจารย์อุเทน ออกมาสอบถามและขอหลักฐาน โดยทั้ง 3 คนอ้างว่าเป็นตำรวจ พระอาจารย์จึงโทรแจ้งตำรวจในพื้นที่ มาเจรจาและลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.สวนผึ้ง ยอมรับว่าทั้งตกใจและกลัว ไม่คิดจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งตนเองนั้นอยู่ในสถานะผู้ทรงศีล ยังถูกกระทำแบบนี้



ส่วนภาพรวมการถือศีล โยคีปอ บอกว่า พวกเรามาปฏิบัติธรรม กรณีที่ผู้คนสงสัยว่าการถ่ายภาพว่า มาปฏิบัติธรรม ทำไมถึงมีการถ่ายภาพ ถ่ายคลิป ขอยืนยันไม่ได้เป็นการจัดฉาก ที่ผ่านมาเห็นนักข่าวมาเฝ้า ก็อึดอัด จึงตกลงกับทีมงานของทางวัด ว่าจะถ่ายภาพ-คลิป ส่งให้กับนักข่าว แต่ขอให้นักข่าวอย่าตาม เพราะพวกตน มาปฏิบัติธรรมอย่างสงบ  จึงให้ทีมงานของวัดถ่ายภาพและคลิปให้ และยืนยันว่าภาพที่แชร์ ถ่ายด้วยมือถือธรรมดา ไม่ได้จัดฉาก จัดแสง  ทุกอย่างคือกิจกรรมที่เกิดขึ้นจริง เราเข้าใจว่าทั้งสื่อมวลชนและประชาชน ทุกคนอยากรู้ว่าเราบวชจริงหรือไม่ ปฏิบัติจริงหรือเปล่า



ขอยืนยันว่า พวกเรามาบวชแบบลำบาก เราไม่เคยทำมาก่อน ต้องนอนกลด เดินธุดงค์ เราก็เต็มใจ เพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับแตงโม จึงขอร้องนักข่าว ว่าขอปฏิบัติธรรมอย่างสงบ ศึกษาธรรมะ และขอสัญญาว่าจะไม่หนีไม่ไปไหน ส่วนทางด้านกฎหมาย หากตำรวจแถลงปิดคดีเมื่อไหร่ พวกเราทั้ง 5 คน จะออกมาแถลงทุกเรื่อง ในหลายมิติ และคำถามต่างๆ ที่ยังไม่เคยออกมาพูด รวมถึงหลักฐานต่างๆ ในโซเชียลที่ถูกคาดเดาขึ้นมา พวกเราจะแถลงทั้งหมด ตอนนี้พวกตนทั้ง 5 คน มีความทุกข์มาก ทั้งครอบครัวและธุรกิจ ต่างได้รับผลกระทบ  



"ผมขอเวลาปฏิบัติธรรม ถ้าตำรวจแถลง+นิติเวชสรุปชี้ชัด พวกเราทั้ง 5 คนบนเรือ จะออกมาแถลงข้อมูลทั้งหมด"



ส่วนเรื่องที่มีการแชร์ภาพ ว่าตน พกมือถือใส่ในกระเป๋าเสื้อ ระหว่างที่ไปเดินธุดงค์เมื่อคืนนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ พระอาจารย์อุเทน เคยแถลงข่าวว่า จะยึดมือถือของทั้ง 2 คน โยคีโรเบิร์ต บอกว่า พระอาจารย์ให้คืนมา เพื่อใช้เป็นไฟฉายในระหว่างเดินธุดงค์ เท่านั้น เพราะตนไม่มีไฟฉาย


รับชมทางยูทูบที่ :https://youtu.be/WnIXuAK_v6A

คุณอาจสนใจ

Related News