'แม่แตงโม' แจง 30 ล้านแค่สมมติ ไม่ได้เห็นแก่เงินมากกว่าลูก ไม่โกรธ 'หนุ่ม กรรชัย'

แม่แตงโม ยันไม่ได้สนใจเงินมากกว่าคดีลูกสาว เงิน 30 ล้าน คือเรื่องสมมติ ให้อภัย ฮิปโป 100% แล้ว เพราะโทรมาคุยและขอโทษ เผย ปอ ขอเป็นลูกอีกคน ทำบุญให้แตงโม ทำให้แม่ใจอ่อน รู้สึกเป็นคนนิสัยดี ไม่โกรธ หนุ่ม กรรชัย ชวนคุยเรื่องเงินเยียวยาและกรมธรรม์


จากกรณี นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน อายุ 67 ปี แม่ของ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ไปออกรายการโหนกระแส ได้เปิดใจหลายประเด็นเรื่องการให้อภัย ไฮโซปอ และโรเบิร์ต รวมทั้งเรื่องเงินเยียวยาประมาณ 30 ล้านบาท ตามด้วยปมไม่พอใจ แอนนา และฮิปโป ที่ออกมาก้าวก่ายเรื่องการจัดงานศพแตงโม รวมถึงบอกว่าตนเองได้เป็นผู้จัดการมรดกของลูกสาว


เมื่อวานนี้ (5 มี.ค.65) นางภนิดา ให้สัมภาษณ์ว่า เงินจำนวน 30 ล้านบาท ไม่ใช่เงินที่แม่เรียกจากปอและโรเบิร์ต แต่เป็นตัวเลขที่แม่สมมติขึ้นมา จากรายได้ของแตงโม คูณกับชีวิตของลูกสาวหลังจากนี้อีก 30 ปี เพื่ออธิบายให้สื่อฟังว่าหลังจากนี้จะทำอะไร และยังไม่ได้คุยกับปอ


ยืนยันไม่ได้เห็นแก่เงินมากกว่าลูกแน่นอน ไม่มีเจตนาอยากได้เงินลูก แม่จะเอามาทำอะไร ไม่ต้องมีเงินก้อนนี้แม่ก็อยู่ได้ แม่เป็นคนทำบุญทำทานตลอด แจกเงินคนเยอะร่วมล้านบาท กระแสสังคมด่าว่าแม่หน้าเงิน แม่รู้สึกเฉย ๆ คำว่า เจอ-จ่าย-จบ แม่ไม่รู้คืออะไร เงินเยียวยายังไม่ได้คุยกับใครเพราะยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น


ถ้าพูดเรื่องกระทบจิตใจ แม่พูดความจริงทุกเรื่อง แต่ประชาชนอาจจะไม่เข้าใจ เพราะแม่พูดตรง ๆ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด ซึ่งแม่ตอบนักข่าวทุกคำถาม และแม่ก็รักผู้สื่อข่าวทุกคน เรื่อง 30 ล้าน เป็นข้อสมมติ ไม่ได้สนใจ สนใจแต่เรื่องของคดี เราสนใจลูกไม่ได้สนใจเงิน มันเป็นเรื่องของอนาคตที่จะต้องขึ้นศาลให้ศาลตัดสินเรื่องสินไหมทดแทนให้ศาลพิจารณา แม่ทราบขั้นตอนนี้ แต่สมมติให้ประชาชนหายสงสัย


ส่วนกรณีที่แม่ประกาศเป็นผู้จัดการกองมรดก ต้องใช้หนี้สินให้แตงโมตอนนี้ด้วยนั้น แม่ก็ยอมรับทั้งหมด ซึ่งตอนนี้แตงโม เองก็ยังมีหนี้สินทั้งรถและบ้าน 2 หลัง แต่เบื้องต้นตรวจสอบแล้วว่าหากมีการทำประกันก็จะยกประโยชน์ให้คนจัดการมรดก ซึ่งขณะนี้แม่ได้ยื่นขอศาลเป็นผู้จัดการแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณา แม่แต่งตั้งทนายความแล้ว ให้ทนายเป็นคนดำเนินการ


ยืนยันว่าไม่ได้จะเอาเงิน 1 ล้านบาท จากลูกบุญธรรม ขณะนี้อายุ 6 ขวบ แต่จะต้องมีการจัดการเพื่อไม่ให้กระติกเข้ามาเกี่ยวข้อง เงินก้อนนี้แม่ตั้งใจจะให้เป็นทุนการศึกษาของลูกบุญธรรมแตงโม แม่ไม่มีสิทธิในเงินก้อนนี้ แม่มีสิทธ์เฉพาะมรดกของแตงโม เท่านั้น


เมื่อถามว่า ประชาชนรู้สึกผิดหวังกับแม่นั้น นางภนิดา กล่าวว่า ถ้าผิดหวังเรื่องเงิน แม่ไม่มีเจตนาเอาเงินตรงนี้มาเพื่ออะไร แม่แค่สมมติ ได้รับคำแนะนำมาจากผู้ใหญ่ เพราะแม่มีเงินอยู่แล้ว บริจาคเงินเยอะด้วย อยากให้เข้าใจแม่ใหม่ แม่ยังเป็นแม่คนเดิม เหมือนที่น้อง ๆ เคยรัก แม่เป็นผู้หญิงเรียบร้อยมารยาทดี แม่ไม่โกรธใครซักคนที่มาขอโทษ เรียกมาคุยกันดี ๆ


พร้อมกับย้ำเรื่องเงิน 30 ล้านบาท ว่าเป็นเพียงการสมมติเท่านั้น เนื่องจาก หนุ่ม กรรชัย สอบถามในรายการโหนกระแสถึงเรื่องกรมธรรม์ ยืนยันเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาเงิน 30 ล้าน แม่จะได้เงินค่าปลงศพ ก็ต่อเมื่อคดีนี้จบจนส่งฟ้องศาล ยืนยันไม่โกรธ หนุ่ม กรรชัย ที่จี้ถามในรายการ เพราะเป็นการทำหน้าที่ของเขา ยอมรับวันนั้นแม่เหนื่อย แม่อธิบายไม่ละเอียดเอง มีอารมณ์เกี่ยวกับเรื่องแอนนา ฮิปโป เพราะโกรธที่เขาไม่ขออนุญาตแม่ก่อนเรื่องเปลี่ยนสถานที่จัดงานศพแตงโม และให้สัมภาษณ์โดยพลการ ซึ่งก่อนเข้ารายการหนุ่มบอกคุณแม่เต็มที่เลยนะ แม่ก็มีอารมณ์เต็มที่เหมือนกัน


ประเด็นเรื่องการให้อภัยปอกับโรเบิร์ต ในแง่ความรู้สึกที่มีให้กัน เขาเอ็นดูคุณแม่ ระลึกถึงและโทรศัพท์มาหาทุกวัน พูดเพราะ สุภาพมาก เขาอยากกราบเท้าคุณแม่ที่ทำให้ลูกคุณแม่ต้องเสียชีวิต ปออยากจะขอขมา จึงนัดนำพวงมาลัยขมากันที่โรงพัก เขามีเจตนาทำแสดงด้วยความบริสุทธิ์ใจ แม่ไม่อยากให้ผู้ชายมากราบเท้ามันดูไม่ดี ผู้ชายมีฐานะ หน้าตาดี มากราบเท้า แม่ก็สะท้อนใจ จึงได้จับหลังปอและเบิร์ตให้เขาลุกขึ้น ปอบอกจะดูแลคุณแม่ ขออนุญาตเป็นลูกคุณแม่ พูดเพราะสุภาพทุกคำ จนคุณแม่ร้องไห้


นอกจากนั้น ปอและเบิร์ต โทรหาคุณแม่ทุกวัน เขาชอบทำบุญ สวดมนต์ร่วมกันทางโทรศัพท์ ปอไปทำบุญให้แตงโม โทรมาบอกให้แม่สวดมนต์ตาม พอเอาเรื่องพระเข้ามาก็ทำให้แม่ใจอ่อน ไปเจอพระอาทิตย์ทรงกลดยังถ่ายรูปส่งให้แม่ดู เขาบวชมา 4 ครั้ง แล้วและจะบวชอีก ไม่ได้ใจอ่อนเพราะเขาพูดโน้มน้าว คำพูดของเขาทำให้แม่ประทับใจมาก เพราะแม่ชอบคนสุภาพอยู่แล้ว การปฏิบัติของเขาสม่ำเสมอ เรื่องให้อภัยเป็นเรื่องในใจของแม่ไม่เกี่ยวกับคดี


คุณแม่ดูประวัติเขาแล้วเขาเป็นคนธรรมะธัมโม จึงมองว่าเขาเป็นคนดี จึงยังคงยืนยันว่าให้อภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ปอเขาก็เป็นผู้ชายที่ดี เพียงแต่มาประสบเหตุนี้ ความรู้สึกของแม่ปอเป็นคนนิสัยดี ส่วนในเรื่องคดีเป็นอีกเรื่อง แม่ไม่รู้ว่าปอเขาจะโกหกหรือไม่ คิดว่าเขาคงบอกเราไม่หมด แต่ขอให้เป็นหน้าที่ตำรวจสืบเอง แม่ไม่จี้ตำรวจว่าคดีไปถึงไหนแล้ว อาจจะให้ทนายช่วยติดตาม


ประเด็นของแอนนาและฮิปโปว่า ถ้าจะให้สัมภาษณ์หรือให้ข่าวเรื่องแตงโม ได้บอกเขาไปแล้วว่าให้ขออนุญาตคุณแม่ก่อน ซึ่งตอนนี้แอนนา ก็ขอถอนตัวเรื่องงานศพไปแล้ว แอนนาขอโทษแม่ในผ่านรายการโหนกระแส แล้ว แม่ไม่ติดใจอะไร แอนนาเป็นคนเรียบร้อยพูดจาดี ส่วนฮิปโป โทรศัพท์มาร้องไห้ขอโทษก็ให้อภัยแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ จึงบอกไปว่าถ้าจะพูดหรือทำอะไรเกี่ยวกับแตงโม ให้มาปรึกษาแม่ก่อน


ส่วนกระติก จะขออภัยหรือขอโทษนั้น ขอให้เป็นเรื่องของคดีความและตำรวจแล้วเสร็จก่อนดีกว่า เรื่องส่วนตัวเอาไว้หลังจากนั้น หากเพื่อนของแตงโม อยากจะเข้ามาช่วยงานศพ ให้บอกแม่ก่อน ซึ่งสถานที่จัดงานศพ ได้เปลี่ยนไปใช้โบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จุคนได้กว่า 1,400 คน โดย เอ ศุภชัย-อั้ม พัชรภา จะเป็นเจ้าภาพทั้งหมดตลอดการจัดงาน ถ้าถอนแม่ก็ไม่ไหวค่าเช่าโบสถ์วันละ 5 แสน


ทั้งนี้ แม่แตงโม ยังบอกอีกว่า เบิร์ด แฟนหนุ่มของแตงโม น่าสงสารมาก เขามาขอหมอนที่นอนด้วยกัน ขอหมอนข้าง ขอตุ๊กตา ขอรูปที่เขาชอบ ที่เขาใช้กับน้องโม แล้วเขาก็ยังไม่ยอมให้สัมภาษณ์ เขาน่าสงสารมาก เขาบอกว่า เขารอน้องโมมา 7 ปี แล้วเขาได้ใช้ชีวิตกับน้องโม ไม่ถึงปีเลย เขาก็เลยเก็บตัวไม่อยากให้สัมภาษณ์


ส่วน ต่อย พี่ชายของแตงโม โพสต์ข้อความว่า "ผิดหวัง" หลังแม่ออกรายการโหนกระแส ยังไม่ได้โทรคุยกัน เชื่อว่า ต่อย คงเข้าใจ เขาเป็นคนอ่อนไหวชอบร้องไห้ แต่ก็แล้วแต่แม่ พี่ต่อยเคยพยายามแนะนำทนายให้ แต่แม่อยากเลือกเอง


นางภนิดา ยืนยันว่า จะต่อสู้ทางคดีเพื่อแตงโมให้ถึงที่สุด เพราะมีขั้นตอนอีกหลายส่วนทั้งตำรวจ อัยการ คงไม่จบในเดือนนี้ อาจจะนานถึง 3 เดือน ส่วนสาเหตุที่แตงโม ตกน้ำจะเป็นอุบัติเหตุหรือฆาตกรรมนั้น ตอนนี้แม่ตอบไม่ได้ เหตุบนเรือแม่มีข้อสงสัยแน่นอน มั่นใจว่าแตงโม ไม่ได้ปัสสาวะตามคำให้การของเพื่อนบนเรือ แม่สงสัยอาจจะมีการผลักหรือฉุดกระชากหรือไม่


ถามแม่ว่าถ้าหลังจากนี้ หากตำรวจสรุปสำนวนคดีผลออกมา ปอกับโรเบิร์ตมีส่วนทำให้แตงโมเสียชีวิตจริง ๆ อย่างที่แม่เคยพูดว่าอาจมีการทำร้าย แม่ได้ถามทั้งคู่แล้วเขาบอกว่าไม่เห็นจริง ๆ แม่คิดว่ามีแต่กระติกที่เห็น เรื่องทำร้ายร่างกายที่แม่เคยพูด แม่เอามาจากนิทานที่ชาวเน็ตแต่ง แต่ก็ไม่เชื่อว่าปอกับโรเบิร์ตทำแน่ ๆ เพราะเขาบอกว่าอยู่หัวเรือ


แม่ไม่จี้ตำรวจว่าคดีไปถึงไหนแล้ว ไม่ใช่เพราะไม่สนใจแต่มั่นใจในตำรวจ ไม่เชื่อมีการแทรกแซงหรือทำลายหลักฐานแบบที่ชาวเน็ตตั้งข้อสังเกต ใบพัดเรือตกคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แม่เป็นคนพูดตรง ๆ อยากให้เห็นใจด้วยว่าเสียลูก เรื่องรถทัวร์ลงแล้วแต่มุมมอง แม่ไม่ค่อยอ่านกระแสโซเชียลเลย

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/Oovl6Hdmo1E