สังคม

ตำรวจโชว์หมายจับ รวบผู้ใหญ่บ้านหญิง เอี่ยวขนแรงงานเถื่อน จ่ายส่วยเคลียร์เส้นทาง

โดย nicharee_m

19 ก.พ. 2565

230 views

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี กก.ตชด. ที่ 14 ค่ายพระกุฎเกล้า ต.ห้วยทราย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง หลายหน่วยงาน สนธิกำลังจับกุมแรงงานชาวเมียนมา ซึ่งเป็นบุคคลหลบหนีเข้าเมืองโดยผ่านช่องทางธรรมชาติ ที่หมู่บ้านหุบผึ้ง หมู่ 5 ต.ห้วยทราย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 159 คน บริเวณริมถนนทุ่งเคล็ด-ด่านสิงขร หมู่ 6 บ้านทุ่งเคล็ด ต.เกาะหลัก จำนวน 23 คน , ที่หมู่ 9 บ้าน กม.12 ต.อ่าวน้อย จำนวน 19 คน และจับชาวเมียนมา 77 คน ที่หมู่ 9 บ้านมะขามโพรง ต.เกาะหลัก รวมชาวเมียนมาลักลอบเข้าเมืองทั้งหมด 278 ราย พร้อมยึดรถกระบะด้านหลังเป็นตู้ทึบ 5 คัน รถยนต์เก๋ง สีขาว 1 คัน, โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า ว่าศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้อนุมัติหมายจับที่ จ. 15/2565 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ให้จับกุมนางวันเพ็ญ ขาวคง อายุ 45 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านดอนทราย ต.เกาะหลัก อ.เมือง พร้อมสามีนายชัยยุทธ หรือ เสี่ยหมึก น้อมนอบ อายุ 46 ปี ในข้อหา ร่วมกันนำพาคนด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง เบื้องต้นมีรายงานว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับยังไม่ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้ามอบตัวแต่อย่างใด

ทางด้าน พ.ต.ท.สุเทพ จามิกร พนักงานสอบสวน สภ.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้แจ้งให้ตำรวจทุก สภ.ในพื้นที่ หากพบตัวบุคคลดังกล่าวให้ทำการจับกุมได้ทันที หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมแรงงานฯ ให้การยืนยันตัวบุคคล ระบุชัดว่า รถเก๋งคันดังกล่าว มีนายชัยยุทธเป็นผู้ขับรถเก๋งนำขบวนขนแรงงานต่างด้าวเถื่อนในคืนเกิดเหตุวันที่ 16 กุมภาพันธ์  โดยมีผู้ใหญ่บ้านนั่งในรถคันดังกล่าวด้วย โดยชุดจับกุมได้ควบคุมตัวไว้แล้ว แต่คาดว่าผู้ใหญ่บ้านและสามีจะอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีจากที่เกิดเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ ตชด. ได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 4 นัดเพื่อควบคุมสถานการณ์ แต่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไม่ยอมหยุด ได้วิ่งเข้าป่าละเมาะข้างทางหายไปในความมืด โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า มีบุคคลอื่นใช้ยานพาหนะอีกคันพาหลบหนี ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวเพื่อนำไปสอบปากคำ

และนายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (18 ก.พ.) ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ได้เดินทางมาที่อำเภอ เพื่อให้ปากคำกับคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงระดับอำเภอ พร้อมปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าแรงงานเถื่อน แต่มีบุตรชายนำรถเก๋งไปใช้ในวันเกิดเหตุ หลังจากนี้จะรวบรวมข้อมูลเสนอให้จังหวัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนระดับจังหวัด และได้สั่งให้ผู้ใหญ่บ้านหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว

นายเรวัฒน์ สุขหอม สาธารณสุขอำเภอเมืองประจวบฯ กล่าวว่า ผลการตรวจหาเชื้อโควิด 19 แบบ RT-PCR พบแรงงานเถื่อนติดเชื้อจำนวน 59 ราย ขณะนี้โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ อยู่ระหว่างการจัดหาสถานที่โรงพยาบาลสนามเพื่อทำการรักษา และคาดว่าการตรวจซ้ำในครั้งต่อไปจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ส่วนงบประมาณในการตรวจหาเชื้อกว่า 5 แสนบาท จะเบิกจ่ายจากงบของทางราชการ

จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการติดตามผลการสอบสวนนางวินนีลิ ชาวเมียนมา อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ที่รับจ้างจากนายหน้าคนไทยให้มารับแรงงานเถื่อนที่ด่านสิงขร ได้รับค่าจ้าง 2,000 บาทต่อคน ไปส่งที่ จ.สมุทรสาคร โดยยืนยันว่ามีการจ่ายส่วยรายทางให้กับเจ้าหน้าที่แล้ว โดยนำสติ๊กเกอร์ รูปเหยี่ยวและรูปเสือ ติดไว้ที่หน้ากระจกรถเก๋งผู้ใหญ่บ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยในเส้นทางผ่านจะไม่จับกุม กรณีนี้ขอเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฝ่ายความมั่นคง ให้ความสนใจเร่งสอบข้อเท็จจริงขยายผลถึงขบวนการค้าแรงงานเถื่อน อย่าให้เป็นมวยล้มต้มคนดูเหมือนที่ผ่านมา เพราะเชื่อว่ายังมีบุคคลอื่น ร่วมขบวนการมากกว่าผู้นำท้องนี้เพียงรายเดียว

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (18 ก.พ.)  พ.ต.ท.เจษฎา กฤตานุสาร รอง ผกก.สืบสวน สภ.คลองวาฬ  จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไปยังบ้านพักของนางวันเพ็ญ ขาวคง อายุ 45 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านดอนทราย ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อแสดงหมายจับและควบคุมตัวนางวันเพ็ญ พร้อมด้วยสามี นายชัยยุทธ หรือ เสี่ยหมึก น้อมนอบ อายุ 46 ปี ในข้อหาร่วมกันนำพาคนด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง โดยทั้งสองสามีภรรยา มีสีหน้าเคร่งเครียดมาก

มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คลองวาฬ ตามประกบนางวันเพ็ญ ตั้งแต่ช่วงที่เดินทางไปให้ปากคำกับกรรมการสอบข้อเท็จจริง ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองฯ ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ (18 ก.พ.) โดยปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง  และอ้างว่าวันเกิดเหตุ ลูกชายนำรถเก๋งคันที่ถูกยึดไว้เป็นของกลาง ไปใช้ส่วนตัว                

จากการสอบปากคำ เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา  แต่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและพยานบุคคล ที่สามารถยืนยันได้ว่า นายชัยยุทธเป็นผู้ขับรถเก๋งนำขบวนขนแรงงานต่างด้าวเถื่อนในคืนเกิดเหตุ โดยมีนางวันเพ็ญ ผู้ใหญ่บ้านหญิงนั่งในรถไปด้วย และขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นรถขนแรงงานเถื่อน ทั้งสองคนก็หลบหนีไป  

โดยในวันนี้ (19 ก.พ.) พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน  ไปขออนุญาตศาลฝากขังผัดแรก โดยคัดค้านการประกันตัว  แต่ทราบว่าจะมีผู้นำท้องที่รายหนึ่งใน ต.เกาะหลัก จะยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว 2 สามีภรรยา



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/XOdYLjcJasM

คุณอาจสนใจ

Related News