โจรเดินถอยหลัง คลุมหัวหลบกล้องงัดบ้านชิงทรัพย์ยาย 77 วิ่งหนีลงน้ำโผล่แค่จมูก สุดท้ายถูกรวบทันควัน

เดินถอยหลัง-คลุมหัวหลบกล้อง บุกชิงทรัพย์คุณยายวัย 77 เจ้าของขัดขืนใช้ไขควงแทงชิงทองคำ มือถือหนี ผญบ.จำโจรคลุมเสื้อได้ขณะย้อนมาที่เกิดเหตุ วิ่งไล่ตามพบนอนแช่น้ำโผล่แค่จมูกหนีไม่รอดถูกจับทันควัน



นี่คือพฤติกรรมของคนร้ายรายหนึ่ง ซึ่งกล้องวงจรปิดภายในบ้านของผู้เสียหายในพื้นที่หมู่ 1 ต.ท่าอยู่ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา จับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน โดยจะเห็นได้ว่า เมื่อมาถึงหน้าบ้านของผู้เสียหายคนร้ายได้ก้มลงหยิบแมสก์ขึ้นมาสวมใส่ ก่อนจะเดินถอยหลังเข้าบ้าน และถลกเสื้อขึ้นคลุมหัวเพื่อหลบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้าน ส่อเจตนาที่จะก่อเหตุร้ายอย่างชัดเจน



จากนั้นกล้องวงจรปิดภายในบ้านยังจับภาพพฤติกรรมของคนร้ายที่ผลักประตูเข้ามา ซึ่งขณะนั้นมีเจ้าของบ้าน คือ นางสมใจ อายุ 77 ปีอยู่ในบ้านพักเพียงลำพัง เมื่อเข้ามาภายในบ้านได้คนร้าย คือ นายกิตติคุณ วงษ์หาจักษ์ อายุ 38 ปี ชาวจ.ภูเก็ต ได้ใช้ไขควงจี้บังคับคุณยายให้ส่งทรัพย์สินมาให้ แต่คุณยายสมใจพยายามขัดขืน จึงมีการฉุดกระชากลากถูคุณยาย และมีการผลักคุณยายล้มลงกับพื้น ก่อนที่คนร้ายจะชิงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทไปได้ 1 เส้น โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องหลบหนีไป ขณะที่คุณยายสมใจได้รับบาดเจ็บจากการถูกไขควงแทงเข้าที่มือ และมีบาดแผลบริเวณกกหูด้วย



หลังเกิดเหตุทางคุณยายได้รวบรวมสติโทรแจ้งให้ นายอนุสรณ์ อินทรคุ้ม (ผู้ใหญ่ปราบ) ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ให้เข้ามาช่วยเหลือ และตรวจสอบรูปพรรณสัณฐานคนร้ายที่สสวมเสื้อและกางเกงกีฬาสีฟ้า โดยมีพยานเห็นว่า ก่อนเกิดเหตุยังมีผู้หญิงเสื้อแดงขับขี่จักรยานยนต์สีขาวมาส่งคนร้ายถึงหน้าบ้านด้วย



ต่อมา ในช่วงคำผู้ใหญ่ปราบได้เดินทางมาเยี่ยมคุณยายสมใจอีกรอบในเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ขณะที่กำลังเดินออกจากบ้านคุณยายนั้นก็พบเห็นชายต้องสงสัย คล้ายชายในกล้องวงจรปิดเดินผ่านหน้บ้านคุณยายไป ผู้ใหญ่ปราบจึงเรียกให้หยุด แต่ชายดังกล่าวไม่หยุด ตนและชาวบ้านที่มาด้วยกันจึงพากันวิ่งไล่จับคนร้ายไกลกว่า 1 กิโลเมตร



โดยคนร้ายได้วิ่งลงข้างทางเข้าไปในทุ่งนาร้าง ที่มาน้ำขังอยู่ประมาณครึ่งเข่า ตนจึงให้ชาวบ้านช่วยกันปิดล้อมพื้นที่เอาไว้ แล้วเดินค้นหา ก็พบคนร้ายซ่อนตัวอยู่น้ำด้วยการนอนหงายและโผล่จมูกขึ้นมาหายใจ จึงช่วยกันควบคุมตัวขึ้นมาบนถนน พบทรัพย์สินได้ปล้นไปเป็นโทรศัพท์มือถือ2 เครื่อง ส่วนสร้อยข้อมือทอง1 บาทหายไป จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ตะกั่วทุ่ง เข้าควบคุมตัวไปดำเนินคดียังสภ.ตะกั่วทุ่ง เบื้องต้นยังให้การวกวนบอกว่าเป็นคนภาคอีสานเพิ่งพ้นโทษมาจากเรือนจำจังหวัดตรัง จะมาหางานทำในพื้นที่จังหวัดพังงา แต่ยังได้มีงานทำและเงินก็หมด จึงได้มาก่อเหตุดังกล่าว



คุณยายสมใจเล่าว่า ในวันเกิดเหตุพักอาศัยอยู่ภายในบ้าน ได้มีคนร้ายเป็นผู้ชาย ได้งัดประตูเข้ามาภายในบ้าน ก่อนจะลงมือทำร้ายตนโดยใช้ไขควงแทงที่มือและผลักตนล้มลงกับพื้น จนได้รับบาดเจ็บที่มือและกกหู แลคนร้ายยังใช้ไขควงที่พกมาข่มขู่ชิงเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น และ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง ของตนหลบหนีไป



นายอนุสรณ์ อินทรคุ้ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 เล่าวว่า หลังจากได้เบาะแสจากกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายได้มากัน 2 คน คือ ชายก่อเหตุสวมชุดกีฬาสีฟ้า จากนั้นตนได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกำนันในพื้นที่ และดูภาพจากกล้องวงจรปิด นำภาพมาประกาศตามช่องทางโซเชียลมีเดีย ให้ชาวบ้านช่วยสอดส่องแจ้งเบาะแส พร้อมกับนำทีมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ออกตระเวนตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายหลบหนีแต่ก็ไม่เจอ



ต่อมา ในเวลาประมาณ 3 ทุ่มขณะที่กำลังเดินออกจากบ้านคุณยายนั้นก็พบเห็นชายต้องสงสัย คล้ายชายในกล้องวงจรปิดเดินผ่านหน้บ้านคุณยายไป ตนจึงเรียกให้หยุด แต่ชายดังกล่าวไม่หยุด ตนและชาวบ้านที่มาด้วยกันจึงพากันวิ่งไล่จับคนร้ายไกลกว่า 1 กิโลเมตร โดยคนร้ายได้นอนราบในทุ่งนาร้าง โผล่ขึ้นมาเหลือแค่จมูกหวังหลบซ่อนตัว แต่ตน และชาวบ้านก็ช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้



ในวันนี้ ทางคุณยายสมใจ และลูกสาวได้เดินทางมาที่สภ.ตะกั่วทุ่ง เพื่อชี้ตัวยืนยันคนร้าย โดยุณยายสมใจจำหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจน แต่ในขณะที่กำลังซักถามกันอยู่นั้น ทางลูกสาวของคุณยายได้เกิดอารณ์โมโหที่คนร้ายมาทำร้ายและชิทรัพย์คุณแม่จึงบันดาลโทสะ ลุกขึ้นมาจะเอาเรื่องคนร้ายในห้องสอบสวน ร้อนถึงตำรวจที่เข้ามากันไว้ได้อย่างหวุดหวิด



นอกจากนี้ ตำรวจยังขยายผลจากรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อชูชูกิ รุ่น LET’S สีขาว ป้าย ทะเบียน 1กจ 8061 พังงา ที่ใช้ในการก่อเหตุ และพบเสื้อยืดสีแดงถูกทิ้งไว้ในบ้านเช่าหลังหนึ่งในอ.ตะกั่วทุ่ง และสามารถจับกุม น.ส.อารีรัตน์ คำเอียด อายุ 40 ปี แฟนสาวของคนร้ายไว้ได้ พร้อมแจ้งข้อหาจะทำผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์ในเคหสถานโดยมีอาวุธติดตัวและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และพาอาวุธ(ไขควง) ไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันสมควรพร้อมนำตัวดำเนินคดีต่อไป

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/RFRSdn6HT6A