ไกด์ แฉ 'ทัวร์จีน VIP' มีนานกว่า 10 ปี ทำง่าย รวดเร็ว หลัง ททท.ยันไม่พบการขายแพ็กเกจแบบVVIP

รองผู้ว่าการ ททท. ยืนยัน ไม่พบบริษัททัวร์จีน ขายแพ็จเกจเที่ยวเมืองไทยแบบ VIP กรณีรถตำรวจนำขบวน หรือบริการเสริมพิเศษที่มีการแชร์ในโลกออนไลน์ คาดว่าเป็นการติดต่อซื้อขายแบบส่วนบุคคล


จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการพูดถึงประเด็นที่นักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวเมืองไทย และได้รับการต้อนรับแบบ VVIP ด้วยการจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บริการรับถึงในสนามบิน นั่งรถยนต์ของเจ้าหน้าที่และมีรถตำรวจนำขบวนเพื่อไปส่งที่โรงแรม จนกลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคม จนต่อมาต้นสังกัดได้สั่งเด้ง 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจในคลิปวิดีโอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


นอกจากนี้ในโลกออนไลน์ก็มีการแชร์ถึงโซเชียลมีเดียของประเทศจีน ที่มีโพสต์ขายบริการพิเศษในการมาเที่ยวเมืองไทย รวมทั้งหมด 7 อย่าง ไม่ว่าจะเป็น ทดลองทำเด็กหลอดแก้ว, รถตำรวจบริการรับสนามบินแบบ VIP, ทำวีซ่าแบบอีลิท หรือวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นพิเศษ, บริการทำใบขับขี่, บริการเช่ารถ และบริการเช่าเรือยอร์ช บอดี้การ์ด รวมถึงบริการตำรวจนำขบวน


ล่าสุด นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ได้เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบจากสำนักงาน ททท. ทั้ง 5 แห่ง ในประเทศจีน ยืนยันว่าไม่มีธุรกิจการขายทั้ง 7 แพ็กเกจดังกล่าวในบริษัททัวร์ของจีน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการติดต่อแบบส่วนบุคคล


พร้อมเผยอีกว่า ที่ผ่านมา ททท. ยังไม่เคยเห็นการโฆษณาขายทัวร์ที่เจาะจงเช่นนี้ จึงไม่มีข้อกฎหมายที่สามารถระบุได้ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ การกระทำดังกล่าวคาดว่าเป็นความพยายามในการทำเนื้อหาไปลงในโซเชียลของตัวเอง


ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลบอก ตำรวจมีเบี้ยงเลี้ยง มีเงินเดือน จะอ้างไปรับจ๊อบนอกเพื่อปากท้องไม่ได้ หากพบความผิดจะลงโทษทั้งวินัยและอาญาทุกคนที่เกี่ยวข้อง


ความคืบหน้ากรณีนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนโพสต์คลิปวิดีโอว่าเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย แล้วสามารถเรียกใช้บริการรถของตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจร ขับรถนำเพื่ออำนวยความสะดวกได้ เพียงแค่จ่ายเงิน 7พันบาท และยังมีตำรวจท่องเที่ยว 1 นาย มาอำนวยความสะดวกขณะเดินออกมาจากเครื่องบินพาไปช่องทางพิเศษทำเอกสารการเข้าเมือง โดยที่ไม่ต้องรอคิวเหมือนนักท่องเที่ยวคนอื่น

ทั้งนี้มัคคุเทศก์ชาวไทยนำเที่ยวนักท่องเที่ยวจีนได้เปิดใจยืนยัน ระบบอำนวยความสะดวก หรือ ที่ในกลุ่มคนทำทัวร์รู้กันว่า "อ.น." มีมานานหลาย 10 ปีแล้ว ทั้งการรับตั้งแต่ลงจากเครื่องผ่านตรวจคนเข้าเมือง ไปจนถึงประสานรถตำรวจนำขบวน //ระบแพคเกจดังกล่าวเป็นที่ถูกใจชาวจีน เพราะแสดงให้เห็นถึงความ luxury


ทีมข่าวได้พูดคุยกับ 1 ในมัคคุเทศก์ไทย ที่นำเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนมานานกว่า 25 ปี ยอมรับว่า บริการลักษณะนี้ มีมานานหลายสิบปีแล้ว หลายบริษัททัวร์ในจีน ต้องการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า จึงมีการบริการเสริมดังกล่าว โดยจะมีศัพท์ในภาษาทัวร์ที่รู้กันว่า "อ.น." หรือ ย่อมาจาก อำนวยความสะดวก


จุดเริ่มต้นมาจากสมัยก่อน ที่มีกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่มาเที่ยวไทย ในกลุ่มจะมีผู้บริหารมาด้วย เพื่อก็เสริมความหรูหรา จึงมีการประสานกับเจ้าหน้าที่ภายในสนามบิน ว่าเป็นวีไอพี ให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการพาออกมา


แต่หลังๆ มา ก็มีการพัฒนา จนกลายเป็น option เสริม ที่จะประสานผ่านมัคคุเทศก์ไทยที่มีความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ภายใน แต่ตอนนี้นักท่องเที่ยวชาวจีน สามารถซื้อตั๋ว และแพ็คเกจนี้จากเมืองจีนได้เลย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทำที่เป็นปกติธุระ


โดยวิธีการ อ.น. มีหลักๆ 2 อย่าง คือ จะเป็นการไปรับหน้าเครื่อง มีคนพาเดินนำไปเพื่อนำเอาหนังสือเดินทางไปประทับตราให้และเอากระเป๋าให้ ค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000 บาทต่อคน ขึ้นไป / จากเดิมในอดีตประมาณ 1,000 บาท


ส่วนอีกประเภทของการ อ.น. จะมีรถตำรวจนำในกรุงเทพ และพัทยา ซึ่งรถก็มีตั้งแต่ราคา 7,000 บาท / มอเตอร์ไซค์ 6,000 บาท แต่ส่วนใหญ่ ก็จะใช้บริการรถตำรวบนำจากสนามบิน ไปยังโรงแรมในกรุงเทพ หรือ นำจากสนามบิน ไปสุดที่มอเตอร์เวย์หัวถนนพระราม 9


สาเหตุที่มีแพคเกจเหล่านี้ ขึ้นมา ทางมัคคุเทศก์อธิบายให้ฟังว่า วัฒนธรรมการ อ.น. จะเป็นเฉพาะกลุ่มคนจีน เพราะเป็นกลุ่มที่รักหน้าตา โอเว่อร์ และแสดงถึงความ luxury หรูหรา เพราะเค้ารู้สึกว่าน่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะบริการรถตำรวจนำ แลกกับการจ่ายเงินเพียงนิดหน่อย ซึ่งในบ้านเค้าไม่สามารถทำได้ เพราะฉะนั้น คลิปที่ถูกเผยแพร่ไปของนักท่องเที่ยวชาวจีน จึงไม่ได้เป็นกระแสทางลบเลย แต่กลับได้รับคำชื่นชม ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย


ทั้งนี้ ยอมรับว่า ส่วนตัวก็เคยใช้บริการ อ.น. โดยติดต่อไปหาคนที่รู้จักภายในสนามบิน ให้ช่วยอำนวนความสะดวกให้ แต่ตนจะใช้เฉพาะการดูแลเรื่องการผ่าน ตม.เท่านั้น ไม่เคยใช้การ อ.น.ให้รถตำรวจนำ แต่ปัจจุบันได้เลิกการนำเสนอ package ดังกล่าวไปแล้ว เพราะมองว่า หากวันนึงวันใด ไปเจอผู้ก่อการร้าย หรือผู้ที่มีหมายแดงต่างประเทศ ก็ไม่อาจรู้ได้เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย เพราะการที่มีตำรวจเดินนำหน้า ทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความเกรงใจ และลดทอนการตรวจตราลง รวมถึงการรับสัมภาระให้ ก็ไม่รู้ว่าภายในมีสิ่งผิดกฎหมายบรรจุอยู่หรือไม่


ส่วนกรณีตำรวจขับรถนำนั้น ที่ออกมาว่าเป็นตำรวจจริง แต่นำรถส่วนตัวมาใช้ ตนมองว่าตำรวจจริงมานำขบวนปลอม มันรู้สึกแปลก และเป็นมาตรฐานให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน ถ้าต่อไปเจอรถแบบนี้บนท้องถนน จะหลบหรือไม่ เค้ากดแตรให้เราหลบเราจะไปต้องหลบไหม


ขณะที่ทีมข่าว ให้มัคคุเทศก์ช่วยค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เกี่ยวกับบริการดังกล่าว โดยทดลองเอาคำว่า รถนำขบวนไปค้นหาใน google ก็พบว่ามีบางเว็บที่มีประกาศให้ บริการรับ- ส่ง VIP ที่ สนามบินไทย และ สามารถให้บริการด่วนที่สนามบิน ได้ บริการ ศุลกากร, วีซ่า ขา เข้า, ตำรวจ เคลียร์ ด่าน ( กรุงเทพ ฯ/ เมือง พัทยา) สั่งได้ทุกวันตั้งแต่วันนี้ ถึง เดือนสิงหาคม


-ราคา Green Channel 280 หยวน/ คน

-Green Channel + visa on arrival 750 หยวน / คน

-รถตำรวจในตัวเมืองกรุงเทพ ฯ เคลียร์ทาง 1,500 หยวน ต่อ คน

-รถตำรวจเมืองพัทยา เคลียร์ทาง 2,500 หยวน / คน


โดยมีช่องแพคเกจระบุว่า

แพคเกจที่ 1 green Channel + visa on arrival สถานบินที่รองรับ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ดอนเมือง

สิ่งที่ต้องเตรียม 1 หน้าพาสปอร์ต 2. หมายเลขเที่ยวบินไป- กลับ และวันที่ 3. ชื่อ และที่อยู่ของโรงแรม เป็นภาษาอังกฤษ //| 4. เตรียมรูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว และ 5 ขอ ใบเข้า ตม.ไทย จากแอร์โฮสเตส กรอกและเซ็นเอง หมายเหตุ มีตำรวจนำ

แพคเกจ 2 รถตำรวจเคลียร์เส้นทางพัทยา สิ่งที่ต้องเตรียมไม่มี

แพคเกจ 3 รถตำรวจเคลียร์เส้นทางกรุงเทพ // สิ่งที่ต้องเตรียม สามารถถ่ายรูปได้

หมายเหตุ รถตำรวจนำขบวน //เช่นเดียวกับ แพคเกจ 4 รถตำรวจเคลียร์เส้นทางพัทยา

ขณะที่อีกเพจ ที่ทีมข่าวเปิดดู ก็มีการโพสต์ไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว มีการแปะรูปภาพที่ระบุว่า บริการสนามบิน แบ่งเป็น วีไอพีธรรมดา กับ SVIP นอกจากนี้ยังมีการ ระบุขั้นตอน ของผู้ที่ใช้บริการนี้

1. เพียงเดินออกมาจากเครื่อง

2.จะมีพนักงานมารอรับ ซึ่งให้รูปถ่ายและข้อมูลเที่ยวบินไว้ให้เจ้าหน้าที่หมดแล้ว

3. ไม่ว่าคุณจะมีวีซ่าหรือไม่ เจ้าหน้าที่จะนำคุณผ่านช่องทางพิเศษ

4 หลังจากผ่านศุลกากรแล้ว เจ้าหน้าที่จะพาคุณ ไปที่สายพานลำเลียง สัมภาระ เพื่อรับสัมภาระ

รับชมได้ทางยูทูบ : https://youtu.be/ht9i5JiF8NA