ผบ.ทร.แถลงเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบสวนปมเสื้อชูชีพ

วันนี้ (20 ธ.ค. 65) ผบ.ทร.แถลงเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง โดยสาเหตุหลักมาจากคลื่นขนาดใหญ่ ทำให้น้ำปริมาณมหาศาลไหลเข้าเรือ ทำให้ระบบไฟฟ้า เครื่องจักรกลเสียหาย อีกทั้งปริมาณน้ำเข้าและน้ำออกไม่สัมพันธ์กัน ทำให้เครื่องฝั่งซ้ายของเรือดับก่อน ตามมาด้วยเครื่องฝั่งขวา และเรือค่อย ๆ เอียง ซึ่งขณะนั้นเรือหลวงกระบุรีได้เข้ามาช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถเข้าใกล้ได้มาก และไม่สามารถลำเลียงกำลังพลขึ้นไปได้ เพราะคลื่นสูง 3 - 4 เมตรจึงทำให้ต้องสละเรือ โดยกำลังพลมีการกดชูชีพแบบแมนวล และทยอยว่ายน้ำเข้าเรือหลวงกระบุรี

ส่วนประเด็นเรื่องเสื้อชูชีพ ผบ.ทร.กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้แน่ชัดว่าบนเรือมีเสื้อชูชีพครบหรือไม่ แต่ยืนยันผู้เสียชีวิต ใส่ชูชีพทุกคน หลังจากนี้จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าวและจะนำมาเปิดเผยในภายหลัง

ด้าน ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ยืนยันว่า ปริมาณคนไม่มีผลทำให้เรืออับปาง เพราะเรือหลวงสุโขทัย สามารถรับน้ำหนักจำนวนกำลังพลกว่านี้อยู่แล้ว บนเรือมีปืนใหญ่หนักเป็นตันอยู่ด้วย ดังนั้น จึงไม่มีผลอะไรเลย หากจะมีคนมาเพิ่มบนเรือหลวงสุโขทัย อีก 50 คน ก็ไม่มีปัญหา

ยืนยันว่าปัจจัยที่ทำให้เรืออับปางและจมใต้ทะเล มาจากสภาพอากาศแปรปรวน เพราะอยู่มา 10 ปี ยังไม่เคยเจอทะเลคลั่งเหมือนคืนที่เกิดเหตุ อย่างที่เราเห็นกันในคลิป มันน่ากลัวมาก หัวเรือจมลงไปจนทำให้ท้ายเรือยกขึ้นสูงแบบเดียวกับภาพยนต์ ไททานิค

นี่คือสิ่งที่ทหารเรือต้องเจอในห้วงออกไปลาดตระเวณ ต้องต่อสู้กับสภาพอากาศก่อนจะนำเรือกลับเข้าฝั่งได้ ถือเป็นเรื่องปกติที่ทหารเรือต้องพบเจอกับความแปรปรวนของอากาศ ส่วนที่บางคนบอกว่าก็พยากรณ์อากาศได้ แล้วทำไมถึงยังออกเรือไป

พล.ร.อ.อะดุง ยืนยันว่า เรามีเรือรบต้องออกไปช่วยชาวประมง ที่ประสบอุบัติเหตุ เรือล่ม มีคนลอยคอในทะเล ซึ่งเป็นภารกิจของกองทัพเรือที่ต้องออกไป ยิ่งสภาพแปรป่วน ยิ่งต้องออกไปลาดตระเวณ เป็นภารกิจ ต้องช่วยผู้ประสบภัยทันท่วงที แต่เรากลับเจอเสียเอง ส่วนประเด็นของเสื้อชูชีพที่กำลังพลผู้ประสบเหตุบอกว่ามีไม่ครบทุกคน ไม่เพียงพอต่อจำนวนคนบนเรือ

พล.ร.อ.อะดุง ยังยืนยันว่า มีครบ เสื้อชูชีพ มี 2 แบบ คือ แบบเสื้อและแบบห่วงยาง ซึ่งเป็นอุปกรณ์เซฟการ์ด แต่เมื่อเรือเผชิญกับคลื่นลมแรง อาจมีการกระแทกในจังหวะที่ เรือหลวงสุโขทัย ดิ่งตัวสูงตามแรงคลื่น ลงตกลงมากระแทกผิวน้ำอีกที อาจทำให้เสื้อชูชีพ หรือ ห่วงยาง หลุดได้ มันเป็นสถานการณ์ ที่ฉุกละหุก จากที่เคยเตรียมการกันไว้ ว่าแต่ละคนมีหน้าที่อะไร หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ก็จะไม่เป็นไปตามแผนที่ซ้อมกันไว้