สังคม

สอบเครียด 'พัชรินทร์' ปมทรัพย์สิน 'ตู้ห่าว' ยังไม่พบผิดปกติ 'บิ๊กโจ๊ก' จ่อขยายผล 10 มูลนิธิเอื้อทุนจีน

โดย panwilai_c

6 ธ.ค. 2565

215 views

ผ่านมากว่า 6 ชั่วโมงแล้วที่ นาง พัชรินทร์ สาวคนสนิท ของนาย ตู้ห่าว พร้อมเลขาส่วนตัว และทนายความเข้าให้ปากคำตำรวจชุดคลี่คลายคดีธุรกิจทุนจีนสีเทา ที่สโมสรตำรวจ จนถึงขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ



ประมาณ 11 โมงที่ผ่านมา นาง พัชรินทร์ พร้อม นางสาว หลิน เลขาส่วนตัว และทนายความเดินทางมาด้วยรถเบนซ์สีขาว เพื่อเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีธุรกิจทุนจีนสีเทา เธอพูดกับทีมข่าวช่อง 3 ว่า สามารถชี้แจงตำรวจได้ในทุกประเด็น



ขณะที่ทนายเปิดเผยว่า นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ นาง พัชรินทร์ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ ซึ่งส่วนใหญ่ชี้แจงเรื่องทรัพย์สิน และธุรกิจที่ทำ โดยยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือกับตำรวจเต็มที่ และประเด็นที่สอบปากคำ คือ เรื่องที่เธอมีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัท ที่มีชื่อนาย ตู้ห่าว เป็นประธานกรรมการ



มีรายงานว่าพนักงานสอบสวนจะเชิญอดีตตำรวจระดับสารวัตร ซึ่งเป็นพี่ชายของนาง พัชรินทร์ ที่มีชื่อเป็นกรรมการบริษัทในธุรกิจของนายตู้ห่าว รวมทั้ง นางสาว สุชาดา ซึ่งเป็นหนึ่งกรรมการบริษัทเช่นกัน มาสอบปากคำวันพฤหัสที่ 8 ธันวาคมนี้ ทางพนักงานสอบสวนคาดว่าจะสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้แล้วเสร็จในสัปดาห์นี้ เพื่อสรุปส่งให้คณะกรรมการชุดใหญ่ในสัปดาห์หน้า



รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเตรียมค้นมูลนิธิกว่า 10 แห่งทั่วประเทศ เชื่อมโยงวีซ่าทุนจีนสีเทา



ขณะที่ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามาสอบปากคำ นาง พัชรินทร์ และ นางสาว หลิน ด้วยตัวเอง พร้อมบอกว่า ทั้งคู่เข้ามาสอบปากคำในฐานะพยานเกี่ยวกับการทำธุรกรรมการเงิน เส้นทางการเงิน การเบิกจ่ายเงิน เนื่องจากทั้งสองเป็นเพื่อนกัน และมีการรับเงินและเบิกจ่ายเงินเข้าออกของบริษัทที่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น 3-4 บริษัท ทำให้เชื่อว่ายังมีเงินสดของตู้ห่าวอีกจำนวนมาก และที่ผ่านมาทั้ง 2 คน ให้การเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะประเด็นความสัมพันธ์กับนายตู้ห่าว ซึ่งจากการสอบปากคำขณะนี้ยังไม่พบความผิดปกติ



ส่วนบรรดาตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ที่เชิญตัวมาให้ข้อมูลวันนี้มาทั้งหมด 27 สถานี โดยข้อมูลที่คุยจะย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2563 เกี่ยวกับกลุ่มคนจีนสีเทา เรื่องผับจินหลิน ผับท็อปวัน คลับวัน และคนจีนที่เป็นนอมินีทั้งหมด รวมถึงที่มาขอวีซ่าคนจีนสีเทา หลังตรวจพบว่า ไม่มีการเดินทางเข้าออกประเทศ แต่มีเอเย่นต์รับต่อวีซ่าและมีการเรียกรับผลประโยชน์ รวมถึงใช้วีซ่าผิดประเภท พร้อมทั้งเตรียมเข้าค้นมูลนิธิอีกกว่า 10 แห่ง ที่รู้เห็นในการกระทำผิดเอื้อประโยชน์เรื่องวีซ่า ซึ่งถ้าพบว่าผิดจะส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยปิดมูลนิธิทันที

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/XSTKBY4AUqM

คุณอาจสนใจ

Related News