ค้านประกัน! ตร.คุมตัวฮารุเจ้าของลัทธิ-ลูกสมุน ฝากขัง หลังหลอกผู้เสียหายลงทุน-ทำร้ายร่างกาย

ตำรวจคุมตัวฮารุ เจ้าของลัทธิและและลูกสมุน ฝากขังที่ศาลอาญาตลิ่งชัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังลอกผู้เสียหายลงทุนและทำร้ายร่างกาย ให้ใช้หนี้ทิพย์ 140 ล้านบาท // พร้อมเร่งขยายผล วิธีตั้งลัทธิและวิธีการล่อลวงผู้เสียหายให้ลงทุน


หลังจากที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้บุกเข้าช่วยเหลือผู้เสียหายซึ่งเป็นอดีตพยาบาล 3คน พร้อมกับลูกสาวของอดีตพยาบาลอีก 2 คน หลังถูกนายฮารุ ซึ่งเป็นเจ้าลัทธิ และอ้างตัวว่าเป็นแพทย์ลูกครึ่งเกาหลี - ญี่ปุ่น หลอกให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจ


จากนั้นได้หลอกให้ผู้เสียหาย ทำงานที่คอนโดของนายฮารุ เพื่อใช้หนี้ ที่เกิดจากการลงทุนจำนวน 140 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ทิพย์ ที่นายฮารุสร้างเรื่องขึ้น ทั้งที่ความจริงผู้เสียหายถูกนายฮารุหลอกเงินสูญไปกว่า 5 ล้านบาท


ที่สำคัญหากผุ้เสียหายทำให้นายฮารุไม่พอใจ หรือ หาเงินไม่ได้ตามเป้า ก็จะถูกเทน้ำร้อนลวก // และให้ลูกน้องคือนายตรีเพชรรัตน ทำร้ายร่างกาย นอกจากนี้นายฮารุยังสั่งให้ผู้เสียหาย ทำร้ายร่างกายลูกสาวจนกว่านายฮารุจะพอใจ


โดยที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับนายฮารุและนายตรีเพชรรัตน ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนได้รับบาดเจ็บสาหัส , ร่วมกันข่มขื่นใจผู้อื่น ให้กระทำการต่างๆ จนเกิดอันตรายต่อชีวิตและเสรีภาพ และกำลังรวบรวมหลักฐานเพิ่มว่าจะเข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่นั้น


ล่าสุดตำรวจ สน.บวรมงคล ได้คุมตัว นายฮารุ และนายตรีเพชรรัตน ไปขอ อำนาจศาลอาญาตลิ่งชันฝากขัง พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว


ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายฮารี และ นายตรีเพชรรัตน ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงมีการตั้งตัวเป็นเจ้าลัทธิหรือไม่ เนื่องจากในห้องพักของนายฮารุ มียันต์ที่ผนังห้องซึ่งนายฮารุเขียนด้วยมือ และมีการตั้งโต๊ะบูชาเครื่องราง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ทั้งคุ่ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม


มีรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ นายฮารุยังคงไม่ให้การที่เป็นประโยชน์กับรูปคดี ทั้งประเด็นเรื่องของการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และลัทธิที่ก่อตั้งขึ้น // วิธีการชักจูงผู้เสียหายให้มาร่วมลงทุน


ขณะที่การสอบปากคำนายตรีเพชรรัตน พบว่า เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยให้การซัดทอดว่า ได้ร่วมกับนายฮารุ ตั้งรูปแบบการหลอกลงทุนฉ้อโกงผู้เสียหายรายต่างๆ การตะเวนพาผู้เสียหายแม่ลูกไปขอเงิน การลงโทษผู้เสียหาย ซึ่งที่ผ่านมารับทราบพฤติการณ์ของนายฮารุมาโดยตลอด แต่ไม่สามารถห้ามปรามได้


ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติของนายฮารุพบว่ามีคดีที่เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดหลายคดี


ส่วนรูปแบบการหลอกลวงของนายฮารุพบว่า ไม่ได้จบการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับจิตวิทยา หรือทำงานที่เกี่ยวข้องกับจิตแพทย์ แต่จะใช้เป็นลักษณะล่อลวงแบบจิตวิทยาหมู่ ทำให้ดูน่าเชื่อถือ

https://youtu.be/CI3-fAhJ0BQ