สังคม

ผบก.ปปป.เล่าเบื้องหลังไล่ล่า ‘สุนทร’ ก่อนหนีรอดหวุดหวิด แถมวงจรปิดรัฐเสียหมด ต้องขอดูกล้องชาวบ้านแทน

โดย pattraporn_a

13 มิ.ย. 2565

91 views

ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. เผยเบื้องหลังการติดตามตัวนายสุนทร วิลาวัลย์ ผู้ต้องหาในคดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก่อนคลาดกันที่อำเภอบ้านสร้าง ปราจีนบุรี จึงประสานขอตรวจสอบกล้องจากหน่วยงานรัฐ แต่กลับแจ้งว่า กล้องเสีย จึงต้องไปขอดูกล้องชาวบ้านแทน


พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป.เปิดเผยถึงเบื้องหลังการตามตัวนายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ผู้ต้องหาในคดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งหมายจับหมดอายุความวันนี้ว่า


ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา กลุ่มของนายสุนทร และพวก ได้เดินทางไปทำธุระที่โรงแรมมิราเคิล ก่อนที่ช่วง 10 โมง ทาง ปปป.จะได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ที่กำลังสะกดรอยตามกลุ่มของนายสุนทร เพื่อขอกำลังจาก ปปป.เพิ่ม ในการติดตามจับกุมนายสุนทร หากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 ออกหมายจับ


แต่ปรากฏว่า ตอนประมาณ 13.30น.ศาลยังไม่ออกหมายจับ แต่กลุ่มของนายสุนทร กำลังเดินทางออกจากโรงแรม และก็ปิดโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ยากต่อการติดตามตัว เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จึงสะกดรอยตามอยู่ห่างๆ และพบว่ากลุ่มของนายสุนทร ขับรถมุ่งหน้าไปยังจังหวัดปราจีนบุรี แต่พอไปถึงช่วงอำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี บริเวณนั้นมีการซ่อมถนน และสร้างเส้นทาง ประกอบกับมีรถบรรทุกวิ่งจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ที่สะกดรอย คลาดกับรถของนายสุนทร


ตำรวจจึงประสานหน่วยงานรัฐ เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดในการติดตามตัวนายสุนทร แต่กลับได้รับการแจ้งมาว่า "กล้องเสีย" ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของชาวบ้านตามบ้านเรือนแทน เพื่อวิเคราะห์เส้นทาง และเพื่อตีวงให้แคบลงมา จนทราบว่ากลุ่มของนายสุนทร ขับรถเข้าไปในเมือง เมื่อไปตรวจสอบก็ไม่พบตัวแล้ว จากนั้นในเวลา 18.00น.ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 ก็ออกหมายจับนายสุนทร


โดยผู้การ ปปป.ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทำอย่างเต็มที่จนวินาทีสุดท้าย และที่ผ่านมาได้มีการวางกำลังติดตามตัวนายสุนทรในหลายจุด


ส่วนเรื่องคดีของนายสุนทร วิลาวัลย์ ที่จะหมดอายุความในวันนี้นั้น เลขา ป.ป.ช. ระบุว่า ตอนนี้ ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจดำเนินคดีอาญาแล้ว ต้องเป็นหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ และกรมป่าไม้


นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า คดีที่จะหมดอายุความของ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นพ่อของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นคดีอาญาข้อหาสนับสนุนเจ้าหน้าที่กระทำความผิด ซึ่ง ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้อัยการแล้ว จึงหมดหน้าที่ในที่ดินแปลงนี้


อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตอนนี้นายสุนทร และ นางกนกวรรณ ยังครอบครองที่ดินดังกล่าวอยู่ จึงถือว่ายังมีการบุกรุกครอบครองอยู่ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพรรณพืช และกรมป่าไม้ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ จึงสามารถไปแจ้งข้อกล่าวหาบุกรุกได้ เท่าที่ทราบเคยมีการไปแจ้งความแล้ว แต่ไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนว่าใครเป็นคนบุกรุก แต่หลังจาก ปปช. ชี้มูลไปแล้ว หากทางหน่วยงานต้นสังกัดเห็นว่ามีความผิดก็สามารถไปแจ้งความได้


อย่างไรก็ตาม นายนิวัติไชย ระบุว่า ป.ป.ช. ยังมีอำนาจและกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบที่ดินของนายสุนทรและนางกนกวรรณอีกหลายแปลงที่อยู่ข้างเคียง เนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ ซึ่งอาจเข้าข่ายการบุกรุกป่าเช่นกัน


ขณะที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากร เปิดเผยกับทีมข่าวการเมืองว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้แจ้งความ นายสุนทร และนางกนกวรรณ ไปแล้ว เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2563 ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่า


ส่วนกระบวนการหลังจาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้วจะดำเนินการอย่างไรนั้น ยืนยันว่าเราได้ดำเนินการการตามกรอบกฎหมายเต็มที่ที่ให้อำนาจไว้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นลักษณะเดียวกับ นางสาวปารีณา เมื่อแจ้งความไปแล้ว ก็ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดำเนินการ


และทีมข่าวของเราได้ข้อมูลเรื่องการดำเนินคดีข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่ากับนายสุนทรและนางกนกวรรณเพิ่มเติมมาจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ว่า ตำรวจได้ส่งสำนวนฟ้องให้อัยการไปแล้ว และต่อมาอัยการได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง แต่ตำรวจได้ทำความเห็นแย้งไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการอีกครั้ง


อย่างไรก็ตาม สำหรับเลขที่โฉนดที่ดินที่มีการเข้าไปปรับพื้นที่จนนำมาสู่การแจ้งความดำเนินคกีกับนายสุนทรและนางกนกวรรณ ดังกล่าวนั้น ตามที่อธิบดีกรมอุทยานฯ ระบุ คือ เลขที่ 28676 จะเป็นเลขาโฉนดคนละแปลงกับที่ ป.ป.ช.ชี้มูลไป


ขณะที่ทางด้าน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ยันหากไม่ได้ตัวนายสุนทร วิลาวัลย์ มาให้อัยการสั่งฟ้องในคดีบุกรุกป่าเขาใหญ่ก่อน 16.30 วันนี้ ก็ไม่สามารดำเนินคดีได้เพราะข้อหาหมดอายุความ และ ศาลจะต้องจำหน่ายคดี


โดยนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ได้บุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดปราจีนบุรี ในช่วงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถึง วันที่ 12 กรกฎาคม 2545 จากนั้นได้มีผู้ร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. และ ได้รับเรื่องไว้เมื่อ 21 มกราคม 2563 จากนั้น ป.ป.ช.มีมติชี้มูลเมื่อ 31 พฤษภาคม ที่่ผ่านมา


ทั้งนี้นายสุนทร ถูกกล่าวหา จำนวน 3 ข้อหา คือ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำ ซื้อรักษาทรัพยากรโดยใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ มาตรา 151 ข้อหาที่ 2 คือ สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และ ข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานผู้มีหน้าทีทำเอกสาร ซึ่งมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นเท็จตามมาตรา 162 ประกอบมาตรา 86


โดยเมื่อ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล ได้ส่งสำนวนมายังสำนักงานอัยการปราบปรามคดีทุจริตภาค 2 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา  แต่วันที่ 3 ถึง วันที่ 5 มิถุนายนเป็นวันหยุดราชการ  วันที่ 6 มิถุนายน เรื่องได้ถูกส่งมาที่อัยการสูงสุดในฐานะผู้มีอำนาจ และ ได้พิจารณาสั่งคดีวันที่ 7 มิถุนายน  พร้อมส่งเรื่องกลับไปยังอัยการปราบปรามทุจริตภาค 2 เพื่อประสานงานกับ ป.ป.ช. นำตัวผู้ถูกกล่าวหามาฟ้อง


วันที่ 9 มิถุนายน ผู้ต้องหาได้มารายงานตัวกับอัยการ 4 คน และวันที่ 10 มิถุนายน นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นลูกของนายสุนทร ก็ได้มารายงานตัวกับอัยการเพิ่มอีก 1 คน


นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า สรุปว่าในคดีนี้ ได้มีการสั่งฟ้องผู้ต้องหาไปทั้งหมด 5 คน จากจำนวนทั้งหมด 10 คน โดยยังเหลืออีก 5 คน ที่ยังไม่มาพบอัยการ โดยมีนายสุนทร รวมอยู่ด้วย


สำหรับในส่วนของนายสุนทร ซึ่งถูกแจ้ง 3 ข้อหา พบว่าคงเหลือเพียงข้อหา เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำ  ซื้อรักษาทรัพยากรโดยใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ มาตรา 151 ซึ่งจะหมดอายุความวันนี้ในเวลา 16.30 น. ส่วนอีก 2 ข้อหาได้หมดอายุความตั้งแต่ในชั้นพิจารณา ของ ป.ป.ช.


โดยตามหลักการนับการขาดอายุความ ก็จะต้องนับภายในเวลาที่จะสามารถส่งฟ้องต่อศาลได้ทันเวลาทำการ คือไม่เกิน 16.30 น. เพราะหากว่าได้ตัวมาหลังจากนั้น แต่ศาลปิดทำการแล้ว ก็ไม่สามารถส่งตัวผู้ถูกกล่าวหาฟ้องได้ทันภายในวันนี้อยู่ดี และหากไม่ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหามา กฎหมายก็ระบุไว้ชัดเจนว่า จะไม่สามารถดำเนินคดีอาญาได้ เพราะศาลจะไม่รับฟ้องและสั่งจำหน่ายคดี




รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/REXU2HTrvxo

คุณอาจสนใจ

Related News