'อัจฉริยะ' ยืนยันแตงโมโดน "ฆาตกรรม" รวมหลักฐานยื่นดีเอสไอ 18 พ.ค.นี้

อัจฉริยะเผยหลังนำทีมนักประดาน้ำงมสำรวจจุดแตงโมตกน้ำ พบข้อพิรุธเรื่องจุดพบศพ เตรียมรวบรวมหลักฐานไปยื่นดีเอสไอวันพุธนี้ เพื่อขอให้รับเป็นคดีพิเศษ ยืนยันยังเชื่อว่าคดีนี้เป็นฆาตกรรมอำพราง

(16 พ.ค.) ปฏิบัติการดำน้ำเริ่มขึ้นตอน 10.15 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมทีมนักประดาน้ำเริ่มออกเรือไปยังจุดแรก คือ จุดที่ตำรวจแถลงว่า น่าจะเป็นจุดที่แตงโมตกเรือ มีความลึกประมาณ 15-16 เมตร ใช้เวลาสำรวจสภาพใต้น้ำ เก็บตัวอย่างทราย และสแกนหาโลหะใต้น้ำประมาณ 30 นาที

ต่อมาประมาณ 11.00 น. สำรวจจุดที่ 2 คือจุดพบที่ศพแตงโมกลางแม่น้ำเจ้าพระยา มีความลึกประมาณ 17-19 เมตร ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

และเคลื่อนไปยังจุดที่ 3 คือ บริเวณท่าทราย ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเช่นกัน ก่อนกลับขึ้นฝั่งในเวลาเที่ยงตรง โดยทั้ง 3 จุดได้สำรวจ ค้นหา และเก็บตัวอย่างแบบเดียวกันทั้งหมด

ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ผลของปฏิบัติการวันนี้ เพื่อพิสูจน์ว่าจุดที่แตงโมตกเรือและจุดพบศพที่ควรจะต้องมีโคลน เพราะผลนิติเวชบอกว่าพบโคลนในปอดแตงโม แต่จากการดำน้ำสำรวจของนักประดาน้ำวันนี้ พบว่าจุดที่ 1 และ 2 ไม่มีโคลน มีแต่ทราย ซึ่งขัดแย้งกับผลนิติเวชที่บอกว่าแตงโมจมน้ำตื้น จึงชัดเจนว่า แตงโมไม่ได้ตกเรือที่จุดนี้แน่นอน

ขณะที่จุดที่ 3 ที่ท่าเทียบเรือทรายที่เป็นจุดที่เขาสงสัย เนื่องจากมีภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นคนบนเรือนำเรือมาจอดแวะที่จุดนี้ในช่วงเวลาใกล้กับเวลาเกิดเหตุ แต่ตำรวจไม่เคยพูดถึง ซึ่งจากการดำสำรวจของนักประดาน้ำวันนี้ พบว่าใต้น้ำจุดดังกล่าวมีแต่โคลน ไม่มีทราย โดยมีความลึกประมาณ 7 เมตร ซึ่งสอดคล้องกับที่พบโคลนในปอด จึงสงสัยว่าแตงโมน่าจะตกเรือตรงนี้มากกว่า

ห่างจากจุดที่ตำรวจคาดว่าแตงโมตก ราว 600 เมตร เพราะทรายที่พบว่ากำอยู่ในมือก็มีลักษณะเหมือนทรายบนเรือขนทรายที่จอดตรงนั้น และระดับน้ำก็ไม่ลึกด้วย ซึ่งหลักฐานเรื่องโคลนและทรายที่พบในวันนี้ ก็จะเป็นหนึ่งในหลักฐานที่ตนจะนำไปยื่นให้ดีเอสไอในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ด้วย

ส่วนผ้าสีขาวทั้งนี้ การค้นหาวันนี้ ยังไม่เจอผ้ากระโปรงสีขาว หรือวัตถุโลหะใดๆ แต่นายอัจฉริยะ ระบุว่า ตอนนี้ตนทราบแล้วว่าผ้าขาวอยู่ที่ไหน เพราะมีพยานที่พบว่าผ้าขาวลอยไปอยู่ที่ท่าช้าง ซึ่งพยานจะเข้ามาพบตนในวันนี้ โดยยืนยันว่าผ้านี้เป็นของจริงแน่นอน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด

ส่วนอาวุธมีดพก K2 ที่ นายอัจฉริยะ บอกว่ามีภาพเห็นตอนที่คนบนเรือคนหนึ่งพกมีดนี้ไว้กับตัวตลอด ขณะไปเติมน้ำมัน แต่หลังเกิดเหตุมีดนี้หายไป แม้วันนี้จะหาไม่พบ แต่ก็จะไปยื่นให้ดีเอสไอช่วยตรวจสอบ เพราะได้ทดลองนำมีดรุ่นเดียวกันมากรีดลงบนเนื้อหมูก็ได้บาดแผลใกล้เคียงกับแผลที่ต้นขาขวาของแตงโม และหมอที่ทำการทดสอบก็จะมาเป็นพยานให้ด้วย

สำหรับการขอเข้าพบอัยการ ที่ครั้งก่อนหน้านี้ไม่ได้เข้าพบนั้น นายอัจฉริยะ บอกว่า ตอนนี้ไม่สนใจอัยการแล้ว แต่ก็ขอให้ซื่อสัตย์ไปให้ตลอด อย่าเล่นลิ้น ส่วนเรื่องเอกสารคำฟ้องที่บอกว่าเป็นของปลอมส่งไปที่บ้านอัยการนั้น นาย อัจฉริยะ ยืนยันว่า ไม่รู้เห็น แต่เขาก็มีเอกสารนี้เหมือนกัน และเป็นเอกสารของจริงที่ถูกนำไปยื่นฟ้องศาลในวันที่ 9 พฤาภาคมที่ผ่านมา แต่ศาลยกฟ้อง

ขณะที่ นายเฉลิมพล หงษ์ยนต์ ประธานสมาคมกู้ภัยทางน้ำ กาญจนบุรี ภาค 7 ให้ความเห็นเรื่องการเปลี่ยนสภาพของโคลนและทรายใต้น้ำว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมา หากเป็นบริเวณร่องน้ำลึกใต้น้ำก็อาจจะเปลี่ยนสภาพได้ แต่ส่วนมากสภาพจะคงเดิม จะเปลี่ยนได้ง่ายเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่มีเลนเยอะ ซึ่งการสำรวจในวันนี้ ยังไม่พบวัตถุใดๆ ซึ่งไม่ได้แปลว่าไม่มี เนื่องจากวันนี้มีข้อจำกัดเรื่องเวลา

ขณะที่ นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย อดีตทนายความของคุณแม่ภนิดา ยืนยันว่า การแถลงผลชันสูตรครั้งแรก มีทั้งโคลนและทรายจริง แต่ทรายมากกว่าโคลน ส่วนในมือไม่มีทราย เพราะศพถูกทำความสะอาดหมดแล้ว จึงไม่สามารถยืนยันได้