สังคม

เปิดใจกลุ่มผู้เสียหายถูก 'อดีตรองหน.พรรค' ล่วงละเมิด 'ทนายตั้ม' จี้ ตร.เร่งออกหมายจับ

โดย panwilai_c

15 เม.ย. 2565

111 views

ทีมข่าวได้สัมภาษณ์หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อแล้ว 5 คน แต่ละคนล้วนเล่าพฤติกรรมที่ถูกกระทำคล้ายคลึงกัน เช่น ชวนไปกินข้าว หลอกไปทำงานที่คอนโด แล้วใช้กำลังขืนใจ ก่อนจะข่มขู่ดคุกคามโดยอ้างตำแหน่งหน้าที่การงานของพ่อ



เหยื่อคนแรกที่ออกมาเปิดเผยตัวรายนี้เคยทำงานเป็นในพรรคเดียวกับผู้ก่อเหตุ และโดนกระทำเมื่อปี 2563 ที่จังหวัดเพชรบุรี วันนั้นมีงานเลี้ยง ช่วงใกล้เลิกเธอเอาของไปเก็บท้ายรถ ก็ถูกผู้ก่อเหตุตามมาจับหน้าอก จับก้นและล้วงอวัยวะเพศ แม้เธอพยายามปัดป้อง ร้องบอกให้หยุดแต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่หยุดกระทั่งมีคนคนเดินมา คู่กรณีถึงได้ขึ้นรถออกไป และหลังเกิดเหตุยังไลน์และโทรศัพท์ชวนให้ไปหาที่คอนโดมิเนียมที่กรุงเทพฯ



พร้อมยอมรับว่าไม่เคยนำเรื่องนี้ไปปนึกษาใครในพรรค เพราะมองว่าตัวเองเป็นเพียงคนตัวเล็ก ๆ อาจทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ได้ลาออกจากพรรคมาแล้ว อยากให้ผู้ใหญ่ของพรรคเชื่อ และคืนความยุติธรรมให้กับเหยื่อด้วย



คนต่อมา คือ ต่อมาภรรยาหรือไฮโซชายคนหนึ่ง เหตุการณ์ของเธอเกิดขึ้นเมื่อปี 2564 วันเกิดเหตุนัดคุยเรื่องงานกับนักการเมืองคนนี้ตอนกลางวันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่เขาอ้างเป็นเจ้าของ และบอกว่ามีออฟฟิศอยู่ใกล้ๆ กับร้าน โดยฝ่ายชายเข้ามาขายฝันหลอกล่อเรื่องธุรกิจ บอกให้ลองมาคุยกัน และบอกว่าเป็นงานรวมตัวกันของนักธุรกิจ แต่พอไปถึงกลับเป็นคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิท 3 ทันทีที่เข้าไปในห้อง ผู้ก่อเหตุก็ล็อคประตู และบังคับขืนใจทันที ด้วยรูปร่างที่ตัวเล็ก แม้พยายามขัดขืนก็ทำอะไรไม่ได้



อีกคนเกิดเหตุตั้งแต่ปี 2556 หรือเกือบ 10 ปีก่อน แต่ยังคงเป็นบาดแผลที่อยู่ในใจจนถึงวันนี้ ขณะนั้นเธออายุ 21 ปี ทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ของพรรค และรู้จักกับนักการเมืองคนนี้ในงานอีเว้นท์ เขาเข้ามาจีบแต่เธอปฏิเสธเพราะมีแฟนแล้ว หลังจากนั้นก็คบหาเป็นเพื่อนกันคุยเรื่องธุรกิจจนทำให้เกิดความไว้วางใจ กระทั่งในวันที่เกิดเหตุ ฝ่ายชายนัดไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง พอเข้าไปพบว่าเป็นอาคารแบบเพนเฮ้าส์ สังเกตที่มุมห้องมีเตียงนอน ก็รู้แล้วว่าไม่ปลอดภัยจึงพยายามหนี แต่ฝ่ายชายล็อกห้องและผลักลงที่เตียงนอน ตอนนั้นเธอพยายามร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครช่วย จนนักการเมืองคนนี้บอกว่าจะดูแล จะซื้อรถเบนซ์ให้ แต่เธอไม่เอา และบอกว่าจะไปแจ้งความ แต่ผู้ก่อเหตุกลับพูดว่า แจ้งตำรวจไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ พ่อเขาเป็นใครทุกคนรู้



จากเหตุการณ์นั้นทำให้เธอตัดสินใจหนีไปอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา รองหัวหน้าพรรคก็ยังพยายามติดต่อ ถามว่าอยู่ที่ไหนจะไปหา จนเธอต้องเปลี่ยนเบอร์หนี ล่าสุดปี 2563 เธอกลับมาทำงาน ประชาสัมพันธ์ให้กับพรรคนี้อีกครั้งในโครงการสิทธิสตรี มีโอกาสเจอกันอีกรอบ ผู้ก่อเหตุทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็จ้องเธอตลอดเวลา



อีกคนโดนขืนใจเมื่อ 15 ปีก่อน แม้คดีจะหมดอายุความแล้ว แต่เธอก็อยากออกมาเรียกร้องความยุติธรรมเพื่อผู้หญิงคนอื่น เธอเล่าว่า เมื่อ 15 ปีก่อน (2550) เธอกำลังเรียนอยู่ปี 4 และทำโปรเจคจบต้องติดต่อประสานงานกับรองหัวหน้าพรรค แต่ช่วงหลังเขาโทรศัพท์มาจีบ และถูกหลอกให้มาคุยโปรเจ็คจบที่คอนโดช่วงกลางวัน แล้วก็ถูกบังคับข่มขืน เมื่อเธอต้องการตัดสัมพันธ์ก็ถูกข่มขู่ต่างๆ นานา จนต้องยอมอยู่แบบนี้นานเกือบครึ่งปี และยังเคยถูกกักขังหน่วงเหนียวอยู่ในห้อง 1 วันเต็มไม่ยอมให้ติดต่อครอบครัว พอเธอหลุดออกมาได้จึงตัดสินใจเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลียทันที



นอกจากนี้ยังมีเหยื่ออีกหลายคน ที่ให้ข้อมูลผ่านช่องทาง LINE และอินบล็อคของเพจทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด จนตอนนี้มีเหยื่อที่ถูกกระทำไม่ต่ำกว่า 10 คน ทั้งหมดจะถูกกระทำในลักษณะคล้ายกัน คือ ชวนคุยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ อ้างเรื่องงานมาบังหน้า และสร้างสถานการณ์ให้อยู่กับเหยื่อกันสองต่อสอง ก่อนลงมือบังคับข่มขืนและข่มขู่เหยื่อไม่ให้ไปแจ้งความดำเนินคดี



ด้าน ทนายตั้ม โพสต์ภาพห้องที่ รองหัวหน้าพรรค ลวงหญิงมาล่วงละเมิด พร้อมจี้ตำรวจเร่งออกหมายจับก่อนผู้ต้องหาหนีออกนอกประเทศ โดยระบุข้อความว่า



"นี่เป็นห้องที่รองหัวหน้าพรรค ที่มักจะหลอกผู้หญิงว่าเป็นสำนักงาน เหยื่อคนไหนหลงเชื่อยอมขึ้นมาบนห้อง รองหัวหน้าพรรคก็จะล็อคประตู ใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืน แล้วก็มักจะขู่เหยื่อว่าหากแจ้งความ ครอบครัวเหยื่อจะเดือดร้อน เพราะพ่อตัวเองนั้นใหญ่มาก บางคนต้องยอมให้ข่มเหงเป็นปีๆ บางคนเป็นบาดแผลในใจถึงกับป่วยเป็นโรคซึมเศร้า บางคนถึงกับต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ



วันนี้พวกเราคนไทย ต้องขอบคุณและส่งกำลังใจให้เหยื่อทุกคนนะครับ ที่กล้าออกมาเปิดเผยข้อมูลด้วยความกล้าหาญ น้องๆเป็นผู้ถูกกระทำโดยไม่เต็มใจ ซึ่งสิ่งที่ทุกคนทำ ทำให้อีกหลายคนรู้สันดาน #รองหัวหน้าพรรคโรคจิต ว่าต่อหน้าสื่อเป็นคนดี ดูน่าเชื่อถือ แต่ลับหลังกลับมีพฤติกรรมตรงกันข้ามขนาดไหน จะได้ไม่มีคนตกเป็นเหยื่อมันอีก ขอขอบคุณทุกคนด้วยใจครับ"





หลังจากนั้นเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ทนายตั้มได้โพสต์ข้อความเพิ่มว่า "ตำรวจทำอะไรกันอยู่ครับ ผู้เสียหายแจ้งความตั้งแต่วันที่ 12 เมษา สอบทั้งผู้เสียหาย แม่ผู้เสียหาย และพยาน แถมเก็บกล้องวงจรปิดหมดแล้ว ตอนนี้เหยื่อก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าผู้ต้องหาหนีออกนอกประเทศไปก่อนจะทำยังไง อย่าให้สังคมติฉินนินทานะครับว่า ไม่กล้าออกหมายจับไฮโซ!!"



มีมุมมองจากโฆษกกรมสุขภาพจิต ถึงผลกระทบทางสภาพจิตใจ ของหญิงที่ถูกล่วงละเมิดและข่มขืน อาจมีความรู้สึกหลากหลาย และอาจส่งผลกระทบให้พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง



นายแพทย์วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต พูดถึง ผู้ถูกล่วงละเมิดและถูกข่มขืน ว่า ทุกราย จะได้รับผลกระทบทางด้านร่างกาย อารมณ์และจิตใจ ทั้ง โกรธ กลัว วิตกกังวล เครียดแค้น เศร้า สิ้นหวังจนถึงคิดสั้น หลายราย กล่าวโทษตัวเอง และทำร้ายตัวเอง จนมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป กลายเป็นโรคซึมเศร้า และเมื่อเครียดสะสม ก็จะเป็นโรคเครียด



การที่จะหลุดพ้นจากเหตุการณ์ได้ช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับการกับความรู้สึกของตนเองให้ได้ เพราะแต่ละคนถูกกระทำไม่เหมือนกัน ต้องใช้เวลาเยียวยา ไม่เช่นนั้นในระยะยาว อาจกลายเป็นปัญหาครอบครัวได้



ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/0IKmO-9iung

คุณอาจสนใจ

Related News