'ไผ่ ลิกค์' พาหญิงแจ้งจับสามีลูกอดีตอัยการ กระทืบปางตาย คดีไม่คืบ

ไผ่ ลิกค์ พาแม่ลูกสาม แจ้งความดำเนินคดีสามี ซึ่งเป็นลูกอดีตอัยการ หลังถูกทำร้ายร่างกายเจ็บสาหัส เคยแจ้งความแล้วแต่คดีไม่คืบหน้า หวั่นอิทธิพล เพราะสามีขู่เป็นลูกอดีตอัยการ



มีคลิปที่ผู้เสียหายรายหนึ่ง อายุ 35 ปี ถูกสามี ทำร้ายร่างกาย แม้ผู้เสียหายจะพยายามปัดป้องและต่อสู้เพื่อป้องกันตัว แต่ก็สู้ไม่ได้ โดยในคลิประบุวันเวลาไว้ว่าวันที่ 9 เดือนเมษายน 2564



และยังมีอีกคลิปซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ครั้งนี้เหตุเกิดที่ชั้นล่างของบ้าน และมีบุคคลอื่นอยู่ด้วย เธอโดนทำร้ายร่างกายอย่างหนักเหมือนเดิม ซึ่งเธอทำได้แค่นั่งอยู่กับพื้นโดยไม่มีทางสู้



โดยวันนี้ นาย ไผ่ ลิกค์ รองเลขาธิการ และกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจไทย ได้พาหญิงในคลิป มาพบตำรวจ สน.สุทธิสาร เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี



หลังผู้เสียหายได้มาพบกับนายไผ่ ลิกค์ เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากผู้เสียหายเคยไปแจ้งความที่ สน.สุทธิสาร มาแล้วแต่คดีไม่คืบหน้า ที่สำคัญ พ่อของสามี ยังเป็นอดีตอัยการ และยังข่มขู่ผู้เสียหายไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใคร ไม่เช่นนั้นจะไม่ให้เจอหน้าลูกทั้ง 3 คนอีก



ผู้เสียหายบอกว่า ถูกสามีทำร้ายร่างกายล่าสุดคือ วันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา วันนั้นตนได้กินยารักษาโรคซึมเศร้า ทำให้เกิดอาการมึนงง จากนั้นสามีได้ชวนทะเลาะ และทำร้ายร่างกายถึงในห้องนอน ซึ่งในห้องมีลูกอายุ 5 อยู่ด้วย โดยตนถูกทำรายจนจมูกหัก มีรอยฟกช้ำตายร่างกาย นิ้วนางข้างขวามีรอยฉีกขาด และได้ไปแจ้งความแล้ว แต่คดีไม่คืบหน้า



ตนอยู่กับกินสามีมา 5 ปี สามีเป็นนักกีฬาเทควันโดสายดำ ตนเริ่มถูกสามีทำร้ายเมื่อปลายปี 2563 โดยปัญหาที่เลาะกันมีหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องที่สามีนอกใจ จึงตัดสินใจแยกออกจากบ้านมา แต่แม่สามีตามให้ตนกลับมาดูแลลูกทั้ง 3 คน โดยให้แยกห้องนอนกันอยู่ แต่ยังถูกทำร้ายร่างกายอีก ทั้งนี้ สาเหตุที่ตนป่วยซึมเศร้าเพราะถูกสามีทำร้าย และเมื่อตนไปหาหมอสามีก็จะไม่พอใจ บอกว่าตนคิดไปเอง ยอมรับตอนนี้เป็นห่วงลูกเพราะสามีเป็นฝ่ายดูแล



นาย ไผ่ ลิกค์ บอกว่า เบื้องต้นทราบว่าฝ่ายสามี ได้แจ้งความในเรื่องที่มีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน แต่หากแต่หากดูจากคลิปวิดีโอ ก็จะเห็นได้ชัดว่าผู้เสียหาย ถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก นอกจากนี้ยังพบว่าหลังจากที่พ่อแม่ของผู้เสียหายรู้เรื่อง ก็ถึงกับช็อคและต้องเข้าโรงพยาบาลทั้งคู่



ขณะที่พันตำรวจเอก สุทธิศักดิ์ พิริยะภิญโญ ผู้กำกับ สน.สุทธิสาร ระบุว่า วันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา น้องชายของผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความจริง แต่ตัวผู้เสียหายไม่ได้มา ทำให้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้สอบปากคำ และไม่ได้หลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด หรือหลักฐานอื่นๆ เพื่อใช้ดำเนินคดี และพนักงานสอบสวนได้ไปพบกับผู้ก่อเหตุแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมให้ปากคำ

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/9KykAvoYzOY