สังคม

เปิดผลผ่าร่าง 'แตงโม' รอบ 2 พบแผล 22 จุด - ตอบ 11 ประเด็นสงสัย

โดย panwilai_c

31 มี.ค. 2565

483 views

กระทรวงยุติธรรม แถลงผลผ่าศพแตงโม นิดารอบ 2 พบ 4-5 ประเด็นที่ต่างจากครั้งแรก โดยเฉพาะประเด็นพบบาดแผล 22 บาดแผล ทนายเดชา ชี้ จะศึกษาข้อมูลและปรึกษาว่าข้อสังเกตุที่พบ โดยเฉพาะบาดแผลสามารถแจ้งข้อหาจากประมาทเป็นเจตนาได้หรือไม่



ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เป็นตัวแทน ส่งมอบผลการชันสูตรคุณแตงโม นิดา รอบ 2 หลังครอบครัวมีความประสงค์ ขอตรวจสอบซ้ำเพื่อให้คลายข้อสงสัย ให้กับ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ซึ่งเป็นตัวแทนของ คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่คุณแตงโม เพื่อนำไปพิจารณาว่ามีข้อแตกต่างจากการผ่าพิสูจน์ในรอบแรกอย่างไร และมีประโยชน์ต่อรูปคดีหรือไม่



โดยวันนี้มี พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์, ผศ.นพ.วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในฐานะประธานกรรมการผ่าพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์, นพ.รักษชัย นาทองไชย หัวหน้ากลุ่มพยาธิวิทยา สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมแถลงผลการผ่าพิสูจน์



ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวว่า สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง 11 ข้อ ที่ คุณแม่คุณแตงโม สงสัย ซึ่งมีบางประเด็นเกี่ยวกับการผ่าพิสูจน์ครั้งที่ 2 ที่ไม่สามารถตอบคำถามได้ เนื่องจากอาจจะกระทบต่อรูปคดี และเป็นความรับผิดชอบของตำรวจ ซึ่งครั้งนี้ มีข้อจำกัดหลายอย่าง ไม่ว่าจะสภาพศพที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงข้อกฎหมายต่างๆ สำหรับข้อเรียกร้องได้แก่



1.ศีรษะ จากการผ่าพิสูจน์รอบแรก กับรอบสอง ไม่พบบาดแผลใดๆ

2.สภาพใบหน้าของศพ เนื่องจาก ทางทีมเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ครั้งแรก ก็ได้ส่งให้ตำรวจไปแล้ว โดยญาติสามารถทำเรื่องร้องขอไปเปรียบเทียบได้ ซึ่งตอบคำถามสภาพการเปลี่ยนแปลงของศพหลังการตายได้ ที่อาจเกิดจากอากาศ ความดัน

3.ลำคอที่สวมสร้อยอยู่ มีภาพแรกที่ยังเจอสร้อยคอ แต่พอเวลาผ่านไป ร่างกายก็มีสภาพเปลี่ยนแปลง แต่ไม่พบว่ามีการรัดคอ

4.บาดแผลที่ขา

5.เล็บมือ ได้ตรวจซ้ำอีกครั้งว่ามีการต่อสู้หรือทำร้ายร่างกายหรือไม่

6.แผ่นหลัง ไม่พบบาดแผล

7.หลอดลม

8.อวัยวะเพศ ได้นำสารคัดหลั่งไปตรวจแล้ว

9.เสื้อผ้าที่สวมใส่วันเสียชีวิต ในการตรวจรอบสอง ไม่ใช่ชุดเดียวกันกับที่สวมใส่ คือไม่ได้ตรวจบอดี้สูท

10.โครงสร้างกระดูกทั้งหมด มีการทำซีทีสแกน ไม่พบการแตกหัก บิ่น รวมถึง ฟัน ยังครบถ้วนสมบูรณ์



ทั้งนี้ สรุปคร่าวๆ จากการตรวจสอบครั้งที่ 2 มีจุดที่แตกต่างจากการผ่าชันสูตรครั้งแรกประมาณ 4-5 ประเด็น พบบาดแผลทั้งหมด 22 จุด ภาพถ่ายที่เกิดเหตุในวันแรก ที่มีการบันทึกไว้ สภาพศพรอบแรก ยังไม่มีการฉีดฟอร์มาลีน ส่วนรอบสองฉีดแล้ว ทำให้บางอย่างตรวจได้ และเสื้อผ้าที่ถูกเปลี่ยนไป



ด้าน พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องตั้งแต่ 14 มีนาคม วันที่ 15 มีนาคม ได้ประชุมก่อนมีมติผ่าครั้งที่ 2 ตามกฎหมาย พ.ร.บ.การให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ พ.ศ.2559 ที่กำหนดว่า หากมีการร้องขอให้ตรวจสอบรอบ 2 เข้ามา สถาบันฯ ต้องรับไปดำเนินการ เพื่อไม่ให้เป็นการขัดแย้งกับการตรวจครั้งแรก ซึ่งครั้งนี้ก็เสร็จสิ้นไปแล้ว



ในวันที่ 16 มีนาคม ได้ตั้งคณะทำงานจากแพทย์หลายสถาบัน โดยมีการผ่าวันที่ 17 มีนาคม และใช้เวลา 4 วันในการตรวจสอบ



ส่วนความล่าช้าที่เกิดขึ้นนั้น เพราะต้องรอผลจากห้องแลป โดยตอนนี้เสร็จสิ้นแล้ว ยืนยันว่าการผ่าพิสูจน์รอบ 2 ถือเป็นประโยชน์ แต่มีข้อจำกัดเรื่องสภาพศพที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งข้อมูลจะถือเป็นความลับ โดยทนายเดชา ได้รับมอบไปแล้ว ดังนั้น การจะเปิดเผยข้อมูลนั้นอาจไม่ได้ทั้งหมด การดำเนินการวันนี้เป็นการร้องขอของญาติ ไม่ใช่พนักงานสอบสวน เราจึงส่งข้อมูลให้ญาติ



ทั้งนี้ เมื่อความเห็นครั้งแรกออกมาแล้ว ครั้งที่ 2 ต้องไม่เหมือนกัน แต่เป็นเพื่อทบทวนว่าครบถ้วน เป็นตามหลักวิชาการ กระบวนกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเราทำไปอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเรา ทำกระบวนการตรวจสอบครั้งที่ 2 มาตลอด 20 ปี อย่างตรงไปตรงมาและโปร่งใส



ผศ.นพ.วรวีร์ กล่าวว่า ในการตรวจสอบครั้งแรกถือว่ามีมาตรฐานที่ถือว่าทำให้ตอบคำถามเกือบทั้งหมด ในรอบสองเพียงเป็นการย้ำว่าข้อสงสัยในข้อแรกนั้นใช่หรือไม่ใช่



สำหรับบาดแผลที่ขา ยังตอบไม่ได้ว่าเกิดอย่างไร โดยตำรวจจะไปจำลองการเกิดบาดแผลกับวัตถุต่างๆ อาจจะเป็นใบพัดเรือ เพื่อเปรียบเทียบกับบาดแผล ส่วนการตรวจสอบเรื่องแอลกอฮอล์นั้น ปกติแล้ว หากเสียชีวิต ร่างกายจะไม่สามารถขับออกทางลมหายใจได้ ทำให้การตรวจสอง จึงพบปริมาณแอลกอฮอล์



สำหรับยูเรียถือเป็นองค์ประกอบในปัสสาวะ หากมีน้ำปัสสาวะในแผ่นอนามัยก็จะตรวจเจอ แต่ตรวจไม่พบ และแผ่นดังกล่าวแช่น้ำ ยูเรียจึงอาจจะถูกชะล้างไป



ขณะที่ทนายเดชา กล่าวว่า ต้องนำเอกสารฉบับนี้ไปปรึกษากับตำรวจว่าจะเป็นประโยชน์กับการแจ้งข้อหาใครเพิ่มหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นบาดแผล 22 บาดแผล ซึ่งจะต้องปรึกษากับแพทย์เรื่องบาดแผล 22 จุด นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงนำไปสู่การแจ้งข้อหาจากประมาท เป็นเจตนาได้หรือไม่ และผลต่างจากการตรวจสอบครั้งแรกหรือไม่ แต่ส่วนตัวเท่าที่ทราบ ยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะ



สำหรับการตรวจสอบก็พบว่า การดำเนินการของสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ถือว่ามีมาตรฐานสากล ทุกอย่างเรียบร้อย แต่เรื่องบาดแผลอาจจะเรียกว่าเป็นสิ่งใหม่ ถือว่ามีประโยชน์ แต่ต้องดูให้ละเอียด เพราะสภาพศพถือเป็นพยาน ต้องไปดูว่ามีร่องรอยการทำร้ายหรือไม่ หากมีก็ต้องเทียบกับพยานแวดล้อม จีพีเอส เพื่อประกอบการแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการเจตนาฆ่า ลำพังบาดแผลยังไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดจากเจตนาหรือไม่ ทั้งนี้ มั่นใจว่าคงไม่มีการผ่าพิสูจน์ซ้ำรอยที่ 3 ตั้งแต่ตนเป็นทนายความมามีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่คดีนี้คงพอแล้ว



ส่วนกรณีที่วานนี้มีข่าวว่าตำรวจยื่นขอศาลออกหมายจับคนบนเรือเพิ่ม แล้วศาลยกคำร้องนั้นยืนยันว่าไม่เป็นจริง เพราะตำรวจคงไม่ทำอะไรให้หน้าแตก แต่เชื่อว่าคงเร็วๆ นี้ อาจจะมีการออกหมายจับ หรือแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม



ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/qPGNRRqaIQA

คุณอาจสนใจ

Related News