ตร.ล่าตัว "นายเลิศ" ยิงอดีตภรรยา-แฟนใหม่ ดับ 2 ศพ

ศาลอนุมัติหมายจับ ชายวัย 60 ปี ก่อเหตุยิงอดีตภรรยาและแฟนใหม่ดับ 2 ศพ คาดปมหึงหวง ขณะที่ตำรวจเร่งแกะวงจรปิดไล่ล่ามือปืนโดย ตร.ประสานลูกชายเกลี่ยกล่อมพ่อให้มอบตัว

โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 02.30 น.ที่ผ่านมา มีคนถูกยิงกันเสียชีวิต2 ราย เป็นผู้หญิง 1 รายคือ นางสาวสุชาดา ตรีโอษฐ์ อายุ 54 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ยิงเข้าที่ ขา แขน และศีรษะ หลายนัด และนายจณุกิตติ์ พงศ์ญพัฒน์ อายุ 49 ปี ถูกยิงข้าที่ศีรษะ 1 แผล หน้าท้อง 1 แผล และหน้าอก 1แผล และในที่เกิดเหตุพบขวดเบียร์ตั้งอยู่บนโต๊ะจำนวนหนึ่ง และปลอกกระสุนปืนขนาด9มม.ตกอยู่ จำนวน 6 ปลอกในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายเลิศ ซึ่งเป็นอดีตสามีของฝ่ายหญิง ก่อเหตุยิงอดีตภรรยา และแฟนใหม่ของฝ่ายหญิง

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เป็นลานโล่งหน้าบ้าน โดยยังพบมีร่องรอยของกระสุนที่ยิงทะลุเสา และร่องรอยต่างๆ หลงเหลืออยู่ และพูดคุยกับป้าชวน (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเพื่อนและผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เมื่อวานนี้ นายเลิศ ซึ่งเป็นคนก่อเหตุ มาขอร้องให้ตน โทรหาคุณสุ อดีตภรรยา ให้มากินข้าวที่บ้าน เพื่อปรับความเข้าใจขอคืนดี ตนจึงนัดหมายให้มาตอนประมาณ 20.00 น. โดยคุณสุไม่รู้ว่า นายเลิศ อดีตสามีจะมาด้วย

เมื่อมาเจอกัน คุณสุ ก็ได้โทรหานายจณุกิตติ์ ซึ่งเป็นแฟนใหม่มารับที่บ้าน โดยบรรยากาศตอนนั้น เป็นไปอย่างปกติ ทุกคนไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ มีเพียงป้าชวนคนเดียวที่ดื่มเบียร์ ตอนที่ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันก็พูดคุยกันเรื่องทั่วไป ไม่ได้มีการพูดถึงการขอคืนดี

กระทั่งตี 2 ตนก็บอกว่าแยกย้ายกันกลับบ้านได้แล้ว แต่ระหว่างลุกขึ้น นายเลิศ เดินออกจากวงไป ก่อนควักอาวุธปืนออกมายิงไปที่อดีตภรรยา ซึ่งนั่งพับเพียบพิงเสาหน้าบ้าน ฝ่ายหญิงพูดว่าพอแล้ว พอแล้ว แต่นายเลิศ ก็ยังยิงใส่ผู้หญิงอีกหลายนัด

ตนเองจึงวิ่งหนีกลับเข้าไปในบ้าน ระหว่างนั้นนายจณุกิตติ์ แฟนใหม่ จะวิ่งออกมาจากห้องน้ำ และพยามมายี้อแย่งปืน ก่อนที่จะเสียหลัก ถูกคร่อม นายเลิศจึงยิงเข้าไปที่ท้อง และถูกยิงซ้ำ ก่อนจะหลบหนีไป

ย้อนกลับไป เมื่อ 3 วันก่อน นายเลิศ เคยตามคุณสุ ไปที่เอื้ออาทร และอ้างว่า เห็นคุณสุ พาแฟนใหม่ขึ้นห้องพัก ทำให้รู้สึกหึงหวง จึงไปแจ้งความที่ สภ.ปากคลองรังสิต โดยเป็นการทวงสร้อยคอทองคำ และแหวนทอง ที่เคยให้อดืตภรรยาไป ซึ่งตำรวจบอกว่าไปทวงไม่ได้ เพราะให้ด้วยความเสน่หา ก่อนที่เรื่องราวจะจบไป

จากนั้น นายเลิศ มาหาตนเพื่อขอร้องให้ช่วยกล่อมฝ่ายหญิง โดยตนไม่รู้เลยว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่ตนเคยบอกนายเลิศไปว่า เคยถามคุณสุแล้ว ยืนยันว่าไม่ขอกลับไปคืนดีแล้ว ตอนนั้นนายเลิศก็ตอบว่า "ถ้าผมไม่ได้ คนอื่นก็ไม่ได้" เลยบอกกับนายเลิศไปว่าจะเอาปืนไปยิงเขาหรอ นายเลิศตอบว่าผมอยู่โดยไม่มีเค้าไม่ได้

ทีมข่าวได้พูดคุยกับลูกชายของนายเลิศ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ ขับรถขับไปสิงห์บุรีแล้ว เพื่อจะไปหาน้องชาย ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปช่วยตามหาและเกลี่ยกล่อมพ่อที่จังหวัดลพบุรี

โดยเล่าว่า ตนเองไม่เคยทราบปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวกัน แต่รู้ว่าเคยคบหากับผู้ตาย กระทั่งเมื่อช่วง 6 โมงกว่าๆ มีคนโทรศัพท์มาบอกว่าพ่อก่อเหตุ ตอนนั้นตกใจมาก ตนอยากให้พ่อมามอบตัวเร็ว ๆ และหากพ่อได้ดูโทรทัศน์อยากบอกว่า กลับมาเหอะ จะได้อยู่ใกล้ลูกบ้าง

จากข้อมูลพบว่า นายเลิศเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานีสูบน้ำแห่งหนึ่ง และยังใช้เวลาว่างในการวิ่งวินรถจักรยานยนต์ ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายณรงค์ชัย นุชเจริญ หัวหน้า รปภ. เล่าว่า นายเลิศ ทำงานมานาน และเป็นคนที่ขยัน และเก็บหอมรอมริบเงินเก่ง ไม่เคยเกเร ที่ผ่านมาไม่เคยทราบว่ามีปัญหาทางครอบครัว พอทรลบข่าวก็รู้สึกตกใจ

หลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้ขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สปาร์ค สีดำ ป้ายทะเบียนสิงห์บุรี กลับไปที่ห้องพักย่านเอื้ออาทร จากนั้นจึงเดินเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่งหลบหนีไป เบื้องต้นอยู่ระหว่างการแกะรอยเส้นทางการหลบหนี โดยเชื่อว่าไม่ได้กลับไปหลบที่บ้านตามภูมิลำเนาในจังหวัดลพบุรี

ขณะที่ศาลได้อนุมัติหมายจับนายเลิศลาภิศ แย้มชุมพร อายุ 60 ปี ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ พกพาอาวุธปืน

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/R1hl2cROzOM