สังคม

เปิดกล้องทุกมุม ชัดพฤติกรรม "ส.ต.ต." ซิ่งบิ๊กไบค์ชน "หมอกระต่าย" กลางทางม้าลาย พยานยันได้ยินเสียงเร่งเครื่อง

โดย pattraporn_a

24 ม.ค. 2565

496 views

คดี "หมอกระต่าย" ในพยานหลักฐานสำคัญที่ถูกนำมาใช้ดำเนินคดีสิบตำรวจตรี นรวิชญ์ คือ กล้องวงจรปิดที่มีถึง 4 ตัว และเห็นทุกมุมอย่างชัดเจน ว่าเป็นความประมาทของสิบตำรวจตรี นรวิชญ์ และตั้งใจขี่รถผิดกฎจราจร จนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น


โดยกล้องวงจรปิดที่แยกพญาไท จะเห็นว่า สอบตำรวจตรี นรวิชญ์ ขี่รถจักรยานยนต์เลี้ยวซ้ายมาแล้วตีออกเลน 3 ซึ่งเป็นเลนขวาสุดทันที และไม่ถึง 5 วินาที หลังจากเลี้ยวมาก็พุ่งชนหมอกระต่าย ซึ่งถ้าดูจากกล้องวงจรปิดที่หน้าโรงพยาบาลจะเห็นว่า ช่วงที่เกิดเหตุเป็นเวลา บ่าย 3 โมง 8 นาที หมอกระต่ายเดินข้ามทางม้าลายจากเลน 1 ไปเลน 2 กระทั่งมาถึงเลน 3 กำลังจะถึงเกาะกลางอีกแค่ไม่กี่ก้าวก็โดนชนเสียก่อน


และกล้องวงจรปิดอีกมุมของกรุงเทพมหานคร ที่จับภาพวินาทีที่ร่างของหมอกระต่ายและรถจักรยานยนต์ไถลไปไกลราว 15 เมตร และนอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น ก่อนที่จะมีพลเมืองดีรีบเข้ามาช่วยเหลือ


และอีก 1 หลักฐานสำคัญที่มี คือ ภาพกล้องหน้ารถตู้คันที่มาจอดตรงทางม้าลาย ซึ่งเห็นวินาทีที่ชนอย่างชัดเจน ถึงขนาดที่คนในรถร้องอุทานด้วยความตกใจ ซึ่งขณะนี้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนขับรถตู้มาสอบปากคำในฐานะพยานด้วย


พยานยืนยันได้ยินเสียง สิบตำรวจตรีเร่งเครื่องบิ๊กไบค์ ก่อนพุ่งชนหมอกระต่ายจนเสียชีวิต ขณะที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเผยเน้นย้ำผู้ใช้บังคับบัญชามาตลอดเรื่องรถและพฤติกรรมการขับขี่ แต่ยังพบมีฝ่าฝืน


ขณะที่รายการโหนกระแส วันนี้ เชิญคุณสมชาย ซึ่งเป็นพนักงานไรเดอร์ของบริษัทแห่งหนึ่ง ยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุ ตัวเขาได้ชะลอรถเมื่อเห็นทางม้าลาย และให้หมอกระต่ายเดินข้ามไปก่อน และจังหวะนั้น ได้ยินเสียงเร่งเครื่องบิ้กไบค์ของ สิบตำรวจตรี นรวิชญ์ จากเลนซ้ายไปเลนขวาอย่างรวดเร็ว แต่ไม่แน่ใจว่า จะเกิน 80 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงจริงหรือไม่ แต่ภาพที่เห็นคือร่างของหมอกระต่ายถูกบิ๊กไบค์พุ่งชนจนร่างลอยและกระแทกลงมากับพื้นถนน


เมื่อเกิดเหตุว่าผู้กระทำผิดเป็นตำรวจเสียเอง ทำให้เกิดคำถามว่า แล้วที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชาเคยกำชับเรื่องการใช้รถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ไหม รวมถึงพฤติกรรมการขับรถด้วย เรื่องนี้ พลตำรวจตรี ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาขอโทษต่อสังคม พร้อมยอมรับว่าที่ผ่านมาได้กำชับและเน้นย้ำกันมาตลอด แต่ก็ยังพบว่ามีการฝ่าฝืน เหมือนพ่อแม่เลี้ยงดู สั่งห้ามอะไร แต่ก็ยังแอบทำ


ทางด้าน นายแพทย์ ธนะพงศ์ จินวงศ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธินโยบายถนนปลอดภัย ฝากถึงโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เพิ่มโทษการดำเนินคดี กับ ผู้ที่ชนคนเสียชีวิตขณะข้ามทางม้าลาย เพื่อลดความสูญเสียที่เกิดขึ้น


เบื้องต้น พนักงานสอบสวนสน.พญาไท แจ้งข้อหา สิบตำรวจตรี นรวิชญ์ 7 ข้อหา ซึ่งข้อหาที่หนักสุดเป็นโทษทางคดีอาญา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีโทษจำคุก 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท


ที่เหลือเป็นคดีตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก

- ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย

- ไม่หยุดรถให้ทางคนข้ามทางม้าลาย

- นำรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทาง

- นำรถที่มีส่วนควบไม่ครบ ไม่มีกระจก มาใช้ในทาง

- นำรถไม่เสียภาษีมาใช้ในทาง

- นำรถที่ไม่มี พ.ร.บ.มาใช้ในทาง


ซึ่งคดีเหล่านี้มีเพียงโทษปรับแค่ 1,000 บาท


แต่สิบตำรวจตรี นรวิชญ์ รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และเตรียมนำตัวส่งฟ้องอัยการในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นี้


ส่วนรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยี่ห้อ ดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ ทะเบียน 1กผ9942 เชียงราย ตรวจสอบพบว่า มีการทำเอกสารสัญญาซื้อขายรถอย่างถูกต้อง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมีหลักฐานทั้งเอกสารทะเบียนรถ และเอกสารของเจ้าของเดิม ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินเอกสารโอนรถ


เมื่อตรวจสอบตัวเลขรถแล้ว พบว่าถูกต้องทุกอย่างตรงกับรถคันที่เกิดเหตุ ไม่ใช่รถสวมทะเบียน หรือสวมซาก และไม่ใช่รถของกลางที่นำมาขี่ตามที่ปรากฎโซเชียล ที่สำคัญสิบตำรวจตรี นรวิชญ์ เพิ่งเข้ามารับราชการเมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา หน้าที่ปฏิบัติงานก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานีตำรวจ และไม่มีอำนาจในการตรวจยึดรถด้วย




ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/8OCgLsXfP6Q

คุณอาจสนใจ