เตรียมอัญเชิญองค์ศิวลึงค์ศิลาอายุกว่า 1,300 ปี ที่ถูกโจรกรรม ไปไว้ที่โบสถ์พราหมณ์ในจังหวัดนครศรีธรรมราช

          องค์ศิวลึงค์ศิลาอายุกว่า 1,300 ปี  ที่ถูกโจรกรรมไปกว่า 40 ปี โดยแก๊งหัวขโมยตั้งใจจะนำไปขายในต่างประเทศ แต่สุดท้ายมีอันเป็นไปทั้งแก๊ง เหลือคนสุดท้าย ที่นำองค์ศิวลึงค์มาคืน  ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เตรียมตั้งอัญเชิญไปประดิษฐานชั่วคราวที่โบสถ์พราหมณ์ ใกล้กับจวนผู้ว่า

            นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช  เปิดเผยว่า  ศิวลึงค์ศิลาองค์นี้  มีอายุกว่า 1,300 ปี  ประดิษฐานอยู่ที่เทวสถานโบราณเมืองโมคลาน ซึ่งเป็นชุมชนพราหมณ์ดั้งเดิมของนครศรีธรรมราช  เมื่อกว่าพันปีก่อน ตั้งแต่พระพุทธศาสนายังไม่เข้ามามีอิทธิพลในนครศรีธรรมราช  ปัจจุบันอยู่ในอำเภอท่าศาลา  และเทวสถานเดิมได้กลายเป็นที่ตั้งของวัดโมคลาน  

          แต่เมื่อประมาณปี พ.ศ.2524  ศิวลึงค์องค์นี้ได้ถูกโจรกรรมไปจากนครศรีธรรมราช  โดยคนกลุ่มหนึ่งหมายที่จะส่งขายให้กับต่างชาติ   แต่กลับเกิดเหตุที่ไม่สามารถส่งขายออกไปได้  ผู้ที่อยู่ในทีมโจรกรรมทั้งหมดมีอันเป็นไปถึงตาย  เหลืออยู่คนสุดท้ายที่หวาดผวาหนัก  ต้องนำศิวลึงค์ไปมอบให้วัดนารายณ์นิการาม ตำบลเหล อำเภอกะปง  จนในที่สุดคณะทำงานที่รวมตัวกันในจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปติดตามคืนมาจนเป็นผลสำเร็จ  ใช้เวลากว่า 10 ปี

            ปัจจุบัน ศิวลึงค์ศิลาองค์นี้ ถูกอัญเชิญนำมาประดิษฐานไว้ชั่วคราวที่ลานหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช  เพื่อเตรียมจะเคลื่อนย้ายไปประดิษฐานต่อชั่วคราวที่โบสถ์พราหมณ์ ที่ห่างจากจวนผู้ว่าฯ ไปประมาณ 699 เมตร  โดยก่อนการเคลื่อนย้าย จะมีการประกอบพิธีกรรมจากพราหมณ์ ที่สืบเชื้อสายอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช  มีการเฉลิมฉลองตามพิธีกรรมโบราณ   โดยการอัญเชิญไปประดิษฐานที่โบสถ์พราหมณ์ ก็เพื่อให้ประชาชนและผู้ที่ศรัทธา เข้าไปสักการะและศึกษาหาความรู้ รวมทั้งเป็นแลนด์มาร์คท่องเที่ยวเชิญศรัทธาแห่งใหม่ ที่นครศรีธรรมราชด้วย

            สำหรับศิวลึงค์องค์นี้  กรมศิลปากรได้สำรวจและขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุ ประกาศในราชกิจจานเบกษา เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2557