ชาวบางบาลเปิดศึกวุ่น 'เปิด VS ปิดประตูระบายน้ำ' หวิดวางมวย - โชว์เช็คเยียวยาน้ำท่วมบ้าน 120 บาท

วานนี้ (4 ต.ค. 65) ที่บริเวณสี่แยกมิยาซาว่า ถนนทางหลวงชนบทหมายเลข อย.4031 บางบาล-ผักไห่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา กลุ่มชาวบ้านในอำเภอบางบาล ต.บางหัก ต.บางหลวง ต.วัดตะกู กว่า 200 คน นัดรวมตัวกัน เพื่อเรียกร้องให้กรมชลประทานระบายน้ำเข้าทุ่งใน อ.ผักไห่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนบ้านเรือนชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมกว่า 2 เมตร เป็นเวลากว่า 2 เดือน

โดยกลุ่มชาวชาวบ้าน บอกว่า ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมตั้งแต่เดือนสิงหาคม จนเข้าสู่เดือนตุลาคมเป็นเวลากว่า 2 เดือน ระดับน้ำท่วมสูง การสัญจรไปมาลำบากต้องใช้เรือ โดยเฉพาะบ้านวังหลังระดับน้ำท่วมสูงบ้านอยู่ มีเด็กเล็ก มีผู้ป่วยติดเตียง พืชผลทางการเกษตร ทรัพย์สินตัวบ้านเรือนได้รับความเสียหาย

แต่ทางกรมชลประทานได้รับปากว่า จะระบายน้ำเข้าทุ่งตั้งแต่กลางเดือนกันยายน ผลัดเลื่อนมาเป็นปลายเดือนกันยายน การระบายน้ำเข้าทุ่งยังมีปริมาณที่น้อยเกินไป ชาวบ้านยังคงต้องได้รับผลกระทบจากน้ำที่ท่วมสูงขึ้นทุกวัน จึงอยากให้กรมชลประทานช่วยระบายน้ำเข้าทุ่งให้มากกว่านี้ให้ชาวชาวบ้านสามารถใช้ชีวิตประจำวัน ภายในบ้าน

ชาวบ้านเข้าใจว่า เป็นบ้านที่อยู่อาศัยริมน้ำถูกน้ำท่วมมาทุกปี แต่ที่ผ่านๆ มาน้ำจะท่วมเพียงแค่ใต้ถุนบ้านยังจะอาศัยอยู่ในบ้านกันได้ แต่จากการบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทานแบบนี้ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนไม่มีที่จะอยู่

ทั้งนี้ นายสมชาย สวยรุ่ง หนึ่งในผู้ประท้วงได้นำเช็คเงินสดของธนาคาร ธกส สั่งจ่ายในนามของนายสมชาย เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2565 จำนวน 120 บาท เป็นค่าเยียวยาซ่อมแซมบ้าน เมื่อน้ำท่วมใหญ่ปี 64 ที่ผ่านมาโชว์เจ้าหน้าที่ ถึงความไม่เป็นธรรมบ้านถูกน้ำท่วมทั้งหลัง ได้รับเงินเยียวยาเป็นเงินเท่านี้ 120 บาทเท่านั้น

ทุกวันนี้ยังเก็บเช็คไว้ เพราะไม่คุ้มค่าเดินทางไปขึ้นเช็ครับเงิน นำมาประท้วง สร้างเสียงโห่ร้องไชโย และมีกลุ่มชาวบ้านสลับเปลี่ยนไฮปาร์คระบายความกดดัน เหมือนถูกเอาเปรียบปล่อยน้ำท่วมบ้านกันอย่างสะใจ

กระทั่งกลุ่มชาวบ้านได้รวมตัวกัน นำรถยนต์ไปปิดขวางถนนทันที เมื่อเห็นรถยนต์บรรทุกของกรมชลประทานจะวิ่งผ่าน และมีการให้คนขับขี่ลงจอดรถ จนเกือบมีการปะทะกันขึ้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาเจรจา โดยกลุ่มชาวบ้านเรียกร้องให้ทางกรมชลประทานออกมาชี้แจงและทำความเข้าใจกับชาวบ้าน และให้เร่งระบายน้ำเข้าทุ่ง

ต่อมานายนิวัฒน์ เพียรนุลา หัวหน้า ฝ่ายจัดสรรน้ำ สำนักงานระบายน้ำโครงการชลประทานผักไห่ ได้เดินทางมาพูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้านถึงการระบายน้ำเข้าทุ่ง กับชาวบ้านบรรยากาศเป็นไปอย่างเคร่งเครียด ซึ่งมีนายพิษณุ รอดทอง กับชาวบ้านในทุ่งรับน้ำป่าโมก จำนวนหนึ่ง เข้ามาเบรคอารมณ์ของกลุ่มชาวบ้าน ที่รวมตัวประท้วงให้เปิดน้ำเข้าทุ่ง ทำให้การเจรจารอบแรกล้มเหลว

นายพิษณุ รอดทอง กลุ่มชาวบ้านที่อยู่ในทุ่งรับน้ำ บอกว่า ในทุ่งรับน้ำไม่ได้มีแต่นาข้าว ยังมีบ้านเรือนประชาชน ตำบลกุฏี อำเภอผักให่ อยู่กว่า 500 หลังคาเรือน ประชากรประมาณ 2,000 คน ตอนนี้ก็กำลังได้รับผลกระทบน้ำที่รั่วซึมเข้ามาในทุ่งรับน้ำท่วมบ้านท่วมถนนเหมือนกัน ให้เห็นใจพวกเราบ้าง

หากปล่อยน้ำเข้าทุ่งมาต้องหาคนรับผิดชอบ หากทรัพย์สินบ้านเรือนเสียหายต้องมีคนรับผิดชอบ ปีที่แล้วชลประทานปล่อยน้ำมาท่วมบ้านเรือนเสียหายยังฟ้องร้องคดียังอยู่ในศาล แล้วจะมาปล่อยน้ำอีกต้องหาคนรับผิดชอบ ทั้งนี้ เหตุการณ์เริ่มตึงเครียดมากยิ่งขึ้น เมื่อมีกลุ่มวัยรุ่นทางฝ่ายผู้ประท้วงให้เปิดน้ำมาสมทบ

ขณะที่ นายนิวัฒน์ เพียรนุลา หัวหน้า ฝ่ายจัดสรรน้ำ เผยว่า สาเหตุที่ระบายน้ำเข้าทุ่งช้าเนื่องจากมีชุมชนและชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ของทุ่งผักไห่อยู่บางส่วน อีกทั้งต้องควบคุมน้ำไม่ให้ท่วมถนนสายบางบาล-ผักไห่ เนื่องจากเป็นถนนสายหลักจะสัญจรไปมาไม่ได้ สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน เพราะชาวบ้านเห็นว่าตนเองก็เดือดร้อนมานานแล้ว ต่างส่งเสียงโห่ร้อง

ระหว่างนั้นมีกลุ่มชาวบ้านที่อยู่ในทุ่งผักไห่ ที่มีการระบายน้ำเข้าทุ่งไปแล้วบางส่วน ได้รับความเดือดร้อนเหมือนกัน น้ำท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้านท่วมบ้านต้องหนุนบ้านนอน จนเกิดการโต้เถียงกัน จนจะเกิดการปะทะกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องเข้ามาแยกย้าย เนื่องจากทั้งสองฝ่ายพร้อมจะปะทะกันทุกเมื่อ

ต่อมาได้มีการเรียกตัวแทนชาวบ้านทั้งสองฝั่ง ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชลประทาน เข้ามาทำการพูดคุยตกลงกันใช้เวลาประมาณ 30 นาที

โดยข้อสรุป ทางชลประทานผักไห่จะเปิดประตูระบายน้ำ ทั้ง 3 ประตู เพิ่มขึ้น คือ ประตูระบายน้ำคลองตานึ่ง ประตูระบายน้ำใบบัว ประตูระบายน้ำกุฎี ซึ่งในทุ่งนี้จะรับน้ำได้ประมาณ 1 เมตร 60 เซนติเมตร ปัจจุบันอยู่ที่ 60 ซม.

ส่วนการระบายน้ำเข้าทุ่งจะให้ระดับน้ำไม่ท่วม ถนนสาย-บางบาลผักไห่ เพื่อให้ประชาชนได้สามารถใช้สัญจรไปมาได้เนื่องจากเป็นเส้นทางสายหลัก

เหตุการณ์เกือบจะผ่านไปด้วยดี จู่ๆ ก็มีชาวบ้านที่อยู่ใน่ทุ่งรับน้ำเข้าไปหยิบไมค์พูดผ่านเครื่องขยายเสียงทำนองว่า ชาวบ้านในทุ่งรับน้ำมีอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านที่มาประท้วงถูกน้ำท่วมแล้วก็ไม่น่าที่จะระบายน้ำเข้าทุ่งให้มาท่วมบ้านเรือนในทุ่งรับน้ำ

ทำให้ชาวบ้านที่มาประท้วงไม่พอใจ ลุกฮือบุกเข้าไปในศาลา ประหนึ่งจะเข้าไปทำร้ายชาวบ้านที่หยิบไมค์มาพูด ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง พยายามเข้าไปแยกทั้งสองฝ่ายกันอย่างโกลาหล สุดท้ายได้่ช่วยกันนำชายคนดังกล่าวออกไปจากที่ชุมนุม เพื่อความปลอดภัย ก่อนที่เหตุการณ์จะสงบลง  

จากนั้น กลุ่มชาวบ้านได้แยกย้ายกันกลับ โดยจะยังมีการเฝ้าติดตามดูการเปิดประตูระบายน้ำของชลประทานอย่างใกล้ชิด
------------

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/IaPFCw3vrKM