2 พี่น้องสู้ชีวิต เดินเท้าวันละเกือบ 10 กม.เก็บขวดพลาสติกขาย ช่วยแม่หาเงิน

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไป ติดตามชีวิต 2 พี่น้องยอดกตัญญู คือ ด.ช.ตาต้า อายุ 9 ขวบ และ ด.ช.โตโต้ อายุ 10 ขวบ หลังจากที่ทั้ง 2 คน มีภาพปรากฏบนโลกโซเซียล ในขณะเดินเก็บขวดตามถังขยะ ตามถนนสายจอมเทียน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนมีผู้สงสารให้เงินคนละ 100 บาทไปกินข้าว


ผู้สื่อข่าวไปพบน้องทั้ง 2 คน ขณะกำลังนั่งพักเอาแรงบริเวณริมถนนสายจอมเทียนสาย 2 โดยมีรถเข็นเก่า ๆ 2 คัน บรรทุกถุงกระสอบใบใหญ่ ภายในกระสอบบรรจุขวดพลาสติก และสิ่งของจำพวกพลาสติก เต็มคันรถ ตอนแรกที่เจอน้อง น้องค่อนข้างรู้สึกกลัว ไม่กล้าคุยกับผู้สื่อข่าว เนื่องจากผู้เป็นแม่สอนไม่ให้พูดคุย หรือขึ้นรถกับคนที่ไม่รู้จักและคนแปลกหน้าเด็ดขาด


เมื่อพยายามพูดคุย จนน้องทั้ง 2 คนเริ่มไว้ใจ และเล่าเรื่องราวให้ฟังว่า ปัจจุบันไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะที่บ้านมีฐานะยากจน แม้กระทั่งค่าไฟ ยังไม่มีจ่าย จนบ้านเช่าถูกตัดไฟมานานกว่า 2 เดือนแล้ว จึงขออาสามาช่วยแม่หาเงิน ด้วยการเก็บขวด และ ของเก่าขาย จะเดินเท้า เข็นรถเข็นไปตามถนนเลียบชายหาดจอมเทียน ถนนจอมเทียนสาย 2 ในแต่ละวันจะเดินวันละ 9-10 กม. เป็นประจำ


นอกจากนี้นั้องโตโต้ ผู้เป็นพี่ เล่าอีกว่า ชีวิตในแต่ละวันจะต้องตื่นแต่เช้า เดินไปวัด ซึ่งจะอยู่ห่างจากบ้านเช่าประมาณ 3 กม. เพื่อไปช่วยงานหลวงตา แลกกับการขอข้าวกับนมกล่องมาให้แม่กับน้อง จากนั้นจะเดินกลับมาบ้านแล้วเตรียมของออกไปเก็บขวด ตั้งแต่ช่วงสาย ๆ จนถึงเวลาประมาณบ่าย 3 ก็จะรีบเอาของมาเก็บที่บ้าน อาบน้ำแต่งตัว กลับไปช่วยหลวงตาต่อที่วัด ก่อนจะกลับมาบ้านนอน และต้องทนนอนแบบร้อนๆ ยุงก็กัด เพราะที่บ้านโดนตัดไฟ


ส่วนเรื่องการเรียนนั้น ก่อนหน้านี้เคยเรียน แต่โรงเรียนอยู่ไกล อีกทั้งที่บ้านไม่มีรถรับส่ง แม่จึงให้ออก แล้วพาย้ายมาเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน แต่ก็เข้าเรียนไม่ได้เพราะอยู่ในช่วงกลางเทอม ต้องรอปีหน้า ทั้งบ้านมีฐานะยากจน ไม่รู้จะได้เรียนหลังสืออีกหรือไม่ “หนูอยากเรียนหนังสือเหมือนคนอื่นๆ เขา” และมีความฝัน โตขึ้นอยากเป็นตำรวจ


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไป บ้านเช่าภายในซอย จุฬารัตน์ เทพประสิทธิ์ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้พูดคุย นางน้ำอ้อย อายุ 43 ปี ผู้เป็นแม่ของพี่น้องทั้ง 2 คน โดยแม่ได้เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจ ที่ลูกทั้ง 2 คน พยายามจะช่วยหาเงินแบ่งเบาภาระ ซึ่งแม่มีลูกทั้งหมด 8 คน


โดย โตโต้ และ ตาต้า เป็นพี่น้องสุดท้อง หัวปีท้ายปี ยอมรับว่าครอบครัว มีฐานะยากจน ตอนนี้เช่าบ้านอยู่ในราคา 4,000 บาทต่อเดือน ส่วนพ่อเพิ่งจะได้งาน เป็น รปภ.


ด้วยความยากจน และ ไม่มีรายได้ บ้านเช่าก็ถูกตัดไฟ ลูกทั้ง 2 คนจึงขออาสาไปเก็บขวดมาขาย หาเงินช่วยจ่ายค่าเช่าบ้านและค่าไฟ ตนพยายามห้ามแต่ก็ฟัง ได้แต่สอนห้ามไปหยิบหรือขโมยของของใครโดดเด็ดขาด ห้ามไปกับคนแปลกหน้า และ ให้ระวังรถ ส่วนข้าวที่มีกินทุกวันนี้ ก็เพราะลูกไปช่วยงานหลวงตาที่วัด จนมีข้าวกินทุกวันนี้


ด้าน พระรพีพงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาสวาส วัดบุญกาญจนราม เปิดเผยว่า เด็ก 2 พี่น้อง เป็นเด็กดี กตัญญูรู้คุณ โดยทางวัดจึงอนุญาตให้มาช่วยงาน และ จะให้กับข้าวที่บิณฑบาตกลับไปให้ครอบครัวเป็นประจำ


นอกจากนี้ยังพยายามถ่ายทอดเรื่องราว เพื่อให้มีผู้ใจบุญ อุปการะในการส่งเสียให้ได้เรียนเหมือนเด็กทั่วไป โดยมีญาติโยมติดต่อเข้ามาแล้ว แต่ก็ขึ้นกับความยินยอมของพ่อแม่ของเด็กทั้ง 2 คน