สังคม

สำนักคุมประพฤติส่งหมายเรียกผิดคน เกษตรกรหวิดติดคุกฟรี คดียาเสพติด

โดย paranee_s

30 ก.ย. 2565

507 views

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 30 กันยายน 2565 นางจำเรียง สวัสดิ์นิวัฒน์ ผอ.สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเพชรบุรี และนางสุวรรณา สุขพานิช ผู้พิพากษาสมทบแผนกศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้นำหนังสือแสดงความรับผิดชอบเกี่ยวกับคดีหนึ่ง เดินทางไปพบกับนางสุภารัตน์ อายุ 62 ปี ภายในสวนบ้านม.9 บ้านหนองปลวก ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี


โดยทันทีที่ นางสุภารัตน์ เห็นว่า นางสุวรรณา เดินทางมาด้วย ได้โผล่เข้าสวมกอดและร้องไห้ออกมา สำหรับการเดินทางมาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากคุมประพฤติจังหวัดเพชรบุรี มีวัตถุประสงค์เพื่อมาเป็นตัวแทนของสำนักคุมประพฤติจังหวัดขอนแก่น เพื่อขอโทษในความผิดพลาดในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจังหวัดขอนแก่น


โดยเนื้อหาในหนังสือระบุว่า ตามที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดขอนแก่นได้มีหนังสือเตือนลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 ให้ นางสุภารัตน์ ไปพบนางสาวสุนทรี พนักงานคุมประพฤติ ที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดขอนแก่น เกี่ยวกับคดียาเสพติด 


ต่อมาได้มีหนังสือขอความร่วมมือให้ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเพชรบุรีดำเนินการติดตามให้นางสุภารัตน์ มารับทราบเงื่อนไขการคุมประพฤติตามคำสั่งศาล


โดยกรณีดังกล่าวนั้นเกิดจากความบกพร่องของนางสาวสุนทรี พนักงานคุมประพฤติสังกัดสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดขอนแก่น ซึ่งไม่ได้ใช้ความละเอียดระมัดระวังรอบคอบในการตรวจสอบรายการบุคคล จึงส่งผลให้นางสุภารัตน์ ซึ่งพักอาศัยอยู่บ้าน หมู่ 9 ตำบลท่าคอย อำเภอท่ายางจังหวัดเพชรบุรี ได้รับผลกระทบอย่างมาก และเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ และชื่อเสียงนั้น


สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดขอนแก่นจึงขอน้อมรับในความผิดพลาดและความบกพร่องดังกล่าวจึงได้มีหนังสือตักเตือนบุคลากรที่เกี่ยวข้องและกราบขอโทษมายัง นางสุภารัตน์ ที่เกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งทางสำนักงานจัดได้กำชับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้มีความระมัดระวังรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในรายอื่น ๆ ต่อไป


โดยท้ายหนังสือเป็นลายเซ็นของนางสาวจิราวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดขอนแก่น


คดีดังกล่าว นางสุภารัตน์ เล่าย้อนกลับไป ที่ตนเองประสบเหตุเฉียดจะติดคุกเกี่ยวข้องคดียาเสพติดในครั้งนี้ เนื่องจาก เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับจากโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจังหวัดขอนแก่น แจ้งว่า ตนเองถูกต้องโทษคดีอาญาเกี่ยวกับยาเสพติด ที่จังหวัดขอนแก่น ให้รีบไปรายงานตัว ภายใน 3 วัน ถ้าไม่ไปรายงานตัวจะโดนออกหมายจับในคดียาเสพติด


ซึ่งขณะนั้นตนเองคิดว่าเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ จึงไม่ได้สนใจอะไร แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 2 วัน นายนิพน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครคุมประพฤติกระทรวงยุติธรรม ได้มาแจ้งตน มีหนังสือจากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดขอนแก่น มาถึงสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเพชรบุรีให้ติดตามตัว เพื่อให้รายงานตัวเพราะต้องโทษคดีอาญา ที่จังหวัดขอนแก่น


ตนจึงตอบกลับไปว่าตนไม่เคยออกนอกพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีเลยสักครั้ง ตนเป็นเพียงเกษตรกรจน ๆ ที่หาเช้ากินค่ำ และไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเลย สามีของตนเหล้าบุหรี่ก็ไม่เคยแตะต้อง ตั้งหน้าตั้งตาทำกินอย่างเดียว แล้วเพราะอะไร ตนถึงต้องคดีเกี่ยวกับยาเสพติดด้วย


หลังจากนั้น ตนได้พยายามติดต่อกับสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเพชรบุรี เพื่อติดตามสอบถามรายละเอียด และได้นัดหมาย เพื่อติดต่อสอบถาม พร้อมกับประสานให้เจ้าหน้าที่คุมประพฤติเพชรบุรีตรวจค้นประวัติของตนอีกครั้งหนึ่ง และถามถึงเลขคดีว่าตนมีคดีอาญาติดตัวได้อย่างไร แต่ตนไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจังหวัดเพชรบุรีเลย จึงเกิดอาการเครียด


ต่อมาได้นำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับ นางสุวรรณา ผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัดเพชรบุรี ให้ช่วยเหลือตรวจสอบ ว่าตนเองไปมีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับคดียาเสพติดได้อย่างไร ทำให้มีความคืบหน้าว่าแท้ที่จริงแล้ว ชื่อที่คุมประพฤติจังหวัดขอนแก่นติดตามอยู่นั้น เป็นผู้ต้องหาที่มีชื่อและนามสกุลคล้ายคลึงกับตน


ทำให้สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเพชรบุรี ติดต่อสอบถามไปยังสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดขอนแก่นอีกครั้ง และ ตรวจสอบชื่อสกุลและหมายเลข 13 หลัก จนทราบว่าบุคคลที่คุมประพฤติจังหวัดขอนแก่นเป็นชื่อของ ผู้ต้องหารายอื่นที่อาศัยอยู่ในจังหวัดขอนแก่น และได้ติดตามบุคคลคนดังกล่าวพบแล้ว ซึ่งไม่ใช่ตนอย่างแน่นอน


จากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สังคมเพื่อนบ้าน มองครอบครัวตัวตนไปในทางไม่ดี ส่งผลให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นอย่างยิ่ง โดยหนังสือดังกล่าวไม่ได้ใสซองจดหมาย ทำให้ชาวบ้านทราบถึงเรื่องที่ได้รับโทษ


ดังนั้น ตนจึงขอความเป็นธรรมเรียกร้องต่อสำนักงานคุมประพฤติ จังหวัดขอนแก่น ให้มีการขอโทษต่อหน้าฝ่ายปกครองอำเภอท่ายางเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจังหวัดเพชรบุรีกำนันผู้ใหญ่บ้านและสื่อมวลชน เพื่อให้สังคมได้เข้าใจครอบครัวของตน



ซึ่งตนไม่ขอรับการเยียวยาเป็นอย่างอื่น นอกจากคำขอโทษเท่านั้น และขอฝากไปยังหน่วยงานคุมประพฤติทุกแห่งว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับตนถือเป็น อุทาหรณ์ ขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความรอบคอบ เห็นอกเห็นใจกัน เพราะอย่างไร เราก็คือคนไทยด้วยกัน


หลังจากนั้นทางผอ.สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเพชรบุรีพร้อมลูกน้องได้กล่าวขอโทษทางผู้เสีย โดยทางผู้เสียได้จัดอาหารไว้เลี้ยงเจ้าหน้าที่มาร่วมเป็นพยานพร้อมสื่อมวลชนด้วย ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ

คุณอาจสนใจ

Related News