รุ่นพี่ใช้งานปี 1 หนัก ซ้ำห้ามไปรพ.เองทำนศ.หวิดดับ แม่สุดทนพาลูกทำเรื่องลาออก

จากกรณีที่มีนักศึกษา อายุ 18 ปี ปี 1 สาขาเกษตรป่าไม้  มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน อ.ร้องกวาง จ.แพร่  มีอาการป่วยหนัก แต่รุ่นพี่ออกกฎห้ามไปรักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย และกฎระเบียบของคณะสาขาเกษตรป่าไม้นั้น ทุกเรื่องต้องไม่เผยให้คนนอกรู้ ทำให้รุ่นน้องทุกคนยึดถือเป็นกฎเหล็ก ถึงแม้จะป่วยหนักก็ต้องมีรุ่นพี่พาไปรักษา หากจะไปเองนั้นไม่ได้ ทำให้นายดลธัช ที่มีอาการเครียดและไข้ขึ้นจนแทบช็อก ต้องแหกกฎ ออกไปเข้าทำการรักษาที่ รพ.ร้องกวางในวันที่ 24 ก.ย 2565


ซึ่งขณะนำส่ง รพ.พยาบาล แพทย์ที่ทำการรักษา ได้เร่งช่วยเหลือ และกล่าวว่า ทำไมถึงปล่อยให้อาการหนักกว่าจะมารักษา


เมื่อ น.ส ดวงใจ ผู้เป็นแม่ที่อยู่ ที่ อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เดินทางมาดูอาการป่วยของลูกชาย ที่รพ. และสอบถามถึงสาเหตุที่ลูกชายป่วยหนัก จนรู้ความจริงว่า รุ่นพี่ในคณะใช้งานรุ่นน้องอย่างหนักทุกคน ทั้งยังห้ามพกมือถือเข้าเรียน ยกเว้นอยู่ข้างนอกห้องเรียน ทำให้แม่ขาดการติดต่อ และเป็นห่วงลูกชาย เมื่อมาเห็นว่าสภาพของลูกชายที่นอนใน รพ.แล้ว รู้สึกสลดใจ จึงจะให้ลูกชายลาออกจากมหาวิทยาลัย รวมทั้งไม่เข้าใจว่า ในสถาบันแห่งนี้ยังมีเรื่องราวแบบนี้อยู่อีกหรือ


และเมื่อเช้าวันนี้ (28 ก.ย.) ที่ รพ.ร้องกวาง น.ส ดวงใจ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สุดทนที่เห็นลูกชายนอนป่วย และเมื่อตอนอยู่ในมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ อีกทั้งยังมีกฎระเบียบที่ทารุณ โหดร้าย จากรุ่นพี่สู่รุ่นน้องในคณะ ฝึกให้ทำงานหนัก เมื่อไปเรียน ตอนออกจากหอพักต้องเข้าแถวรอเพื่อน ๆ กันแบบเป็นระเบียบ หากใครทำผิดกฎก็จะถูกทำโทษ ทุกครั้ง


สำหรับในเวลาที่เจ็บป่วย นักศึกษาสาขาเกษตรป่าไม้ จะเดินทางไปรักษาอาการป่วยทุกครั้ง ต้องมีรุ่นพี่เป็นคนควบคุมพาไปหาแพทย์ แต่ในวันที่ นายดลธัช มีอาการป่วยหนักจากการถูกทำงานอย่างหนัก จนเกิดอาการเครียดใกล้ช็อก ขอออกไปพบแพทย์ รุ่นพี่ก็ไม่ยอม ต้องรอรุ่นพี่พาไปส่ง


แต่เนื่องจากเป็นช่วงที่รุ่นพี่ออกกิจกรรมภาคสนาม จึงไม่มีผู้ใดพาไปพบแพทย์เพื่อรักษา จนกระทั่ง นายดลธัช ต้องขอแหกกฎ เมื่ออาการป่วยหนักถึงขั้นเกือบช็อก จึงรับเข้ารักษา ที รพ.ร้องกวาง และแพทย์ได้แจ้งอาการป่วยหายดีแล้ว ให้ออกจากโรงพยาบาล สาเหตุเพราะอาการไข้ ตัวร้อนเกิดจากความเครียดและทำงานหนัก ต่อจากนั้นจึงได้ขอเข้าพบ คณบดี เพื่อให้ลูกลาออก


ซึ่งดร.ศุกรี คณบดี ได้รับเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว และจะได้ตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ พร้อมทั้งรับผิดกับปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด และยังโน้มน้าวให้ ปรึกษาเรื่องนี้กับครอบครัวกันให้ดีก่อน เพราะอยากให้เสียดายอนาคตของเด็กที่เรียนมาแล้วถึง 4 เดือนแต่สุดท้าย แม่ของนักศึกษา เกรงลูกจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงตัดสินใจให้ลูกลาออกเป็นที่เรียบร้อยแล้วในเย็นวันนี้