หญิงวัย 72 ปี ยืมเงินเจ้าหนี้ 2 พัน จ่ายคืนไม่ทันถูกข่มขู่-ยึดทรัพย์สูญเกือบ 9 พัน

ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดแถลงข่าวช่วยเหลือประชาชนทางด้านกฎหมาย โดยหนึ่งในเคสที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามา ได้แก่ คดีของนางพิมพา วรรณคำ อายุ 76 ปี ชาวเพชรบูรณ์ ถูกแก๊งทวงหนี้เงินกู้รายวันข่มขู่และบุกบ้านยึดทรัพย์สินภายในบ้าน


สำหรับคดีแก๊งทวงหนี้โหดนี้ ผู้เสียหายเล่าว่า ตนได้กู้ยืมเงินจากแก๊งหนี้นอกระบบแบบไม่มีสัญญาจำนวนเงิน 2,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อวัน ซึ่งแก๊งทวงหนี้ดังกล่าวได้มาทวงหนี้เป็นรายวัน แล้วเธอก็ได้ชำระหนี้ไปแล้วบางส่วน วันละ 100-200 บาท จนเหลือยอดหนี้จะประมาณพันกว่าบาท


แต่ทว่าช่วงหลัง เธอขายของไม่ค่อยได้เลยไม่มีเงินที่จะนำมาชำระหนี้ จึงถูกแก๊งทวงหนี้โทรมาข่มขู่หลายครั้งว่าให้ชำระหนี้ จนกระทั่งวันที่ 14 กันยายน แก๊งทวงหนี้ก็ได้โทรมาข่มขู่อีกครั้งในตอนเช้า และต่อมาประมาณ 11.30 น. แก๊งทวงหนี้ดังกล่าวก็ในบุกมาที่บ้านหลังที่เธอใช้ขายของแล้วนำทรัพย์สินไปจำนวน 6 รายการประกอบไปด้วย กิโลชั่ง พัดลม เตาแก๊สปิกนิค หม้อก๋วยเตี๋ยวเหล็กยาวสำหรับวางของ และราวตากผ้า แต่ตอนนั้นเธออาศัยอยู่ที่บ้านญาติอีกหลัง จึงไม่ได้รับอันตรายใด ๆ


ผู้เสียหายกล่าวเสริมว่า ความที่ตนมีภาระในการเลี้ยงดูหลานอีก 3 คน ลำพังรายได้จากการขายของก็ไม่ค่อยเพียงพอ จึงต้องกู้หนี้ยืมสินจากแก๊งหนี้นอกระบบเพื่อมาจุนเจือในครอบครัว ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็เคยกู้เงินจากแก๊งนี้หลายงวด แต่งวดที่ผ่าน ๆ มาก็สามารถชำระหนี้ได้หมด แต่งวดนี้ที่เธอยังติด ค้างชำระหนี้และมีเงินไม่พอ แต่ก็คิดว่าไม่ใช่ทางที่ถูก ที่มาทวงหนี้ในลักษณะที่เป็นการคุกคามเช่นนี้


จึงอยากมาร้องทางสภาทนายความ ให้เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของการดำเนินคดีและฟ้องร้องตามกฎหมาย ซึ่งทาง สภาทนายความระบุว่า กรณีของนางพิมพานั้น เมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์ของกลุ่มคนร้าย เข้าข่ายความผิด 4 ข้อหา ประกอบไปด้วย ข้อหาลักทรัพย์ซึ่งมีเหตุฉกรรจ์เนื่องจากกระทำการ 2 คนขึ้นไป, บุกรุก, ผิดตาม พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ และความผิดตาม พ.ร.บ.เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด