แม่ 'สองโจรการละคร' ร่ำไห้ เผยลูกสาวเงินเดือน 3 หมื่น แต่หนี้เยอะ น้องชายโบ้ยพี่สาวคิดแผน

เป็นคดีที่ประชาขนให้ความสนใจ และต่างวิพากวิจารณ์ว่า เป็นคดี 'โจรการละคร' กรณีที่ นายจตุพล บุญมีสนม  หรือ เอ็ม อายุ 27 ปี เเละ  น.ส.ประภาภรณ์ บุญมีสนม หรือ บี อายุ 29 ปี สองพี่น้องที่ร่วมก่อเหตุ ชิงเงินบริษัท 3.4ล้าน หลบหนี โดยสร้างสถานการณ์ว่าเป็นเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทเรื่องสามีภรรยา

หลังจากตำรวจสืบสวนจนสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ช่วงที่ ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดชลบุรี และชุดสืบสวน ภาค 2 ร่วมกันเข้าควบคุม นายเอ็ม และนางสาวบี สองพี่น้อง พร้อมยึดของกลาง เงินสด 3,263,500 บาท  คืนกลับมาได้  

ช่วงที่ตำรวจเข้าไปจับกุมที่โรงแรมแห่งหนึ่งเขตภาษีเจริญ ในห้องพัก มีเพียงนายเอ็มเท่านั้น อยู่ในห้อง

ส่วนนางสาวบี พี่สาว ออกไปซื้อของที่ห้างเพื่อเตรียมจะหลบหนี ตำรวจได้แสดงหมายจับกุม และตรวจค้นยึดของกลางกลับมาได้ จากนั้น ตำรวจก็ควบคุมตัวสองพี่น้องจากกทม. มาที่ สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี

เวลา 10.30 น. วานนี้ พล.ต.ต. อิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2  เเละ พ.ต.อ.ทวี กุดเเกลง ผู้กำกับ สภ.บ้านบึง เเละทีมชุดสืบสวนภาค 2 ชุดสืบสวนจังหวัด ร่วมกันเเถลงผลการจับกุมดำเนินคดี  

นายจตุพล บุญมีสนม หรือ เอ็ม อายุ 27 ปี เเละ น.ส.ประภาภรณ์ บุญมีสนม หรือ บี อายุ 29 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี พร้อมของกลาง เงินสด  3,263,500 บาท แจ้งจ้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นการจับกุม และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจฯ”

พล.ต.ต. อิทธิพร เปิดเผยว่า คดีนี้ ตำรวจพบพิรุธตั้งแต่เกิดเหตุแล้ว และสอบปากคำนางสาวบี ก็พบพิรุธ แต่ขณะนั้น ยังจับกุมไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐาน จึงต้องปล่อยตัวไป และนัดให้มาพบตำรวจในเช้าวันที่ 21 ก.ย. 65

ขณะที่ชุดสืบสวนที่ติดตามชายใส่เสื้อไรเดอร์ ก็พบข้อมูลว่า นางสาวบี มีการโทรศัพท์หา ชายคนหนึ่งก่อนและหลังเกิดเหตุ และตรวจสอบพบว่า ชายคนนี้ คือน้องชาย ของนางสาวบี และรถกระบะที่ใข้หลบหนี หลังจากทิ้งรถจยย ในป่าอ้อยแล้ว ก็เป็นของนางสาวบี จึงติดต่อ สอบถามนางสาวบี แต่นางสาวบี ก็ปฏิเสธ ยืนยันไม่รู้เรื่อง หลังจากนั้นก็ติดต่อนางสาวบี ไม่ได้

และสืบทราบว่า ทั้งสองคน หนีไปเช่าห้องพัก ในกทม.จึงติดตามจับกุม ครั้งแรก นางสาวบีก็ยังไม่ยอมรับสารภาพ จนกระทั่งพบของกลางเงินสด ที่ขโมยมา จึงยอมรับสารภาพ

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสอง ยอมรับว่า จะนำเงินไปใช้หนี้ ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น เเละวางเเผนว่าจะไปใช้ชีวิตอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยคนคิดแผนก่อเหตุ คือนางสาวบี พี่สาว ส่วนนายเอ็มน้องชาย เป็นคนคิดแผนตอนชิงเงิน

โดยนายเอ็ม บอกว่า ไม่ได้วางแผน สร้างสถานการณ์ทะเลาะวิวาทเรื่องผัวเมีย แต่คิดขณะเกิดเหตุ เรื่องจากคนขับรถต่อสู้ จึงต้องสร้างสถานการณ์ว่าเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทแย่งแฟน ยืนยันว่า มีผู้ก่อเหตุเเค่ 2 คน จากการตรวจสอบประวัติทั้ง 2 ไม่มีคดีติดตัว

หลังเสร็จสิ้นการเเถลงข่าว ตำรวจควบคุมตัว นายเอ็ม ผู้ต้องหา ไปชี้จุดที่เกิดเหตุด้านหลังธนาคารกรุงเทพ ส่วนนางสาวบี พี่สาว ไม่สมัครใจในการทำเเผน โดยมีชาวบ้านที่ช่วยเหลือวันเกิดเหตุ เเละชาวบ้านใกล้เคียงกว่า 50 คน มาดูการทำเเผนประกอบคำรับสารภาพ

จุดแรก เริ่มจากนายเอ็ม นั่งคร่อมบนรถจยย. รอรถตู้ ของบริษัทมา จากนั้นนายเอ็มใช้อาวุธปืนปลอม จี้ ชิงเงิน เปิดประตูรถตู้ เเละทำร้ายพนักงานคนขับ รถตู้ที่มากับนางสาวบี ขโมยถุงเงิน 3.4 ล้านบาท ก่อนจะใช้จักรยายนต์หลบหนี ช่วงนี้ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม นายเอ็ม นำเงินไปทำอะไร แต่นายเอ็มไม่ตอบคำถามใดเกี่ยวกับการก่อเหตุครั้งนี้

ด้านนางวราภรณ์ บุญมีสนม มารดาของผู้ต้องหาทั้ง 2 ร่ำไห้ เดินทางมาที่โรงพัก ยกมือไหว้และร้องไห้ บอกว่า ขอโทษที่ลูกทั้งสองคยก่อเหตุ เขาผิดไปเเล้วก็ต้องรับกรรมเขาทำ แม่มีลูก 3 คน นางสาวบีคนโต นายเอ็มคนกลาง และมีน้องสาวอีก 1 คน

ที่ผ่านมา นางสาวบี เป็นคนดูเเลครอบครัวมาตลอด ต่อเดือนประมาณ 1 หมื่นบาท ส่วนตัวนางสาวบี เป็นคน ใช้จ่ายประหยัด เเต่เป็นหนี้เป็นสินเยอะ เพราะต้องดูแลแม่และครอบครัว และช่วยน้องชาย ที่ผ่านมาไม่เคยรับรู้ถึงการกระทำของทั้ง 2 ว่าจะมาก่อเหตุเเบบนี้ แม่เชื่อว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ถ้าลูกพ้นโทษ ขอให้สังคมให้โอกาสลูกทั้ง 2 คนด้วย ขณะที่เพื่อนสนิท เผยนางสาวบีเป็นคนสู้ชีวิต หาเงินทุกทางเพื่อให้มีชีวิตที่ดี เพื่อนตกใจไม่คิดว่าจะก่อเหตุ

ทีมข่าวของเรา ได้พบกับนางสาวเก๋ เพื่อนสนิทของนางสาวบี เปิดเผยถึงนิสัยของนางสาวบี ว่า เป็นคนสู้ชีวิตและหาเลี้ยงครอบครัวมาตลอด จบการศึกษาด้านบัญชี ทำงานที่บริษัทนี้มาแล้ว 1ครั้ง ก็ลาออก พึ่งกลับไปทำครั้งที่ 2 ได้เพียง 6 เดือน ตลอดการทำงานของบี ไม่เคยบ่นปัญหาเรื่องเงินให้เพื่อนรู้ แต่เคยบอกว่า เหนื่อยอยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ และพยายามหารายได้เสริมนอกจากเงินเดือน

และมีความรู้ลงทุนดิจิตอล จึงพยายามหารายได้เสริม ด้วยการเทรดเงินต่างประเทศ เเละทองคำ เพื่อให้มีรายได้เข้ามาทุกวัน เเต่ไม่มีใครรรุ้ว่าการลงทุนนี้ ว่าได้กำไรหรือขาดทุน

โดยส่วนตัวไม่คิดว่าบีจะทำเรื่องนี้ได้จริงๆ เพราะบีเป็นคนแอนตี้เรื่องการการทำผิดกฎหมาย จากที่ดูในคลิป ครั้งแรก เพื่อนๆทุกคนเชื่อว่า บีคือผู้เสียหาย ทุกคนก็ช็อคไม่คิดว่าบีจะทำแบบนี้ และเชื่อว่าที่ทำคงสุดทางจริงๆ

ด้านรายจ่ายนางสาวบี อายุ 29 ปี รายรับ เงินเดือน 3 หมื่น ผ่อนรถกระบะอีซูซุ 17,000 บาท ดูเเลครอบครัว 10,0000 ผ่อนรถบิ๊กไบค์ อีก 1 คัน ค่าใช้ส่วนตัวอื่น

เเหล่งข่าวในชุดสืบสวน เปิดเผยว่า สิ่งที่นางสาวบีอยากมีเงิน เพราะจะไปปิดไฟแนนซ์รถ ที่เป็นหนี้อยู่ เนื่องจากขาดการผ่อนส่งมาหลายงวด จนมีค่าติดตามสูงถึง 3 หมื่นบาท อีกทั้งหนี้สินของน้องชายด้วย

จึงวางแผนก่อเหตุ ให้เงินน้องชายจำนวน 1 หมื่น 5 พันบาท ไปซื้อรถจยย. เตรียมก่อเหตุ และวางแผนก่อเหตุ 3 วัน ที่ต้องก่อเหตุเพราะไม่รู้จะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้สินต่างๆ จึงเห็นว่า การถอนเงินของบริษัทนั้น เป็นช่องทางเดียวที่จะทำให้หลุดพ้นจากหนี้สิน ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/wmajY0g_xrU