สังคม

ผัวเข่าทรุดเผยหย่าเมียซึมเศร้าแล้ว เสียใจเมียวางยาลูกก่อนปลิดชีพตาม

โดย taweelap_b

18 ก.ย. 2565

35.8K views

กรณีเหตุสลดใจแม่วัย 34 ปี กรอกยาฆ่าแมลงลูกสาวอายุ 3 ขวบ ก่อนจะปลิดชีพตัวตาม ซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.เมือง จ.แพร่ จากการชันสูตรพลิก พบว่าร่างของเด็กเริ่มมีกลิ่นเหม็น สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง ส่วนผู้เป็นแม่คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 8 ชั่วโมง ไม่พบร่องรอยของการต่อสู่หรือการฆาตกรรมแต่อย่างใด ตำรวจจึงได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุ และสภาพแวดล้อมไว้เป็นหลักฐาน เพื่อประกอบคดี


ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุ ผู้เป็นแม่ยังได้เขียนจดหมายลาตายถึงความคับแค้นใจ ระบุว่า ครบรอบ 1 เดือนที่ทำการหย่า ขอบคุณที่ล้มทุกอย่าง ขอเจอกันแค่ชาตินี้ แม่มึ_ทำอะไรไว้_จะจองเวรทุกชาติทุกภพเลย ถ้าแม่มึ_ไม่มายุ่ง คงจะไม่มีวันนี้เกิดขึ้น ขอบคุณที่มาล้มงาน ผู้ชายอะไรไม่หาเงินเลี้ยงเมียเลี้ยงลูก ให้แต่แม่ ไม่เคยปกป้องดูแลเมียเลย มีแต่ซ้ำเติม มึ_ทำชีวิต_กับลูกพัง ชีวิตมึ_กับครอบครัวก็พังเช่นกันทุกอย่าง พี่น้องไม่รู้เรื่อง น้องตัดสินใจเอง"


จากจดหมายลาตายในครั้งนี้ ที่ระบุว่า เกิดจากปัญหาคราบครัวที่มีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสามีที่แบ่งใจให้กับพ่อและแม่มากกว่าให้ภรรยาและลูก จึงเกิดความน้อยใจดังกล่าว


ล่าสุดวันที่ 18 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่งานศพของสองแม่ลูก ซึ่งญาติ ๆ นำร่างไปไว้ในพื้นที่หมู่ 10 ต.แม่คำมี อ.เมือง จ.แพร่ ซึ่งเป็นบ้านพ่อของผู้ตาย และต้องเร่งฌาปนกิจศพอย่างเร็ว ในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ย.) ที่ป่าช้าบ้านแม่คำมีวังช้าง ต.แม่คำมี เนื่องจากศพเริ่มมีกลิ่นและขึ้นอืดแล้ว โดยที่ญาติได้นำศพทั้งสองแม่ลูก ตั้งไว้ในบ้านคู่กัน พร้อมกับแจ้งว่าในเช้าวันนี้ สามีของผู้ตายเดินทางมาเคารพศพ และก็เดินออกไปแบบเงียบ ๆ


เวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของ นายจิติพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี สามีของผู้เสียชีวิต ชาวจ.แพร่ กล่าวว่า ความรู้สึกที่ได้รับเสียงโทรศัพท์จากญาติแจ้งว่าภรรยาและลูกสาวเสียชีวิตแล้ว ตนเข่าแทบทรุดและมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เสียใจสุด ๆ ซึ่งก่อนหน้านั้น ตนและภรรยาได้หย่ากัน ภรรยาขอลูกสาวไปอยู่ด้วย ตนก็ยอมยกให้ ถึงแม้ว่าลูกสาวนั้นจะติดตนมากกว่าภรรยา จนชาวบ้านในละแวกนี้เขารู้กันทั่วหมู่บ้าน เพราะลูกสาวเป็นคนน่ารักและพูดเก่ง ติดตนมาก ๆ ไปไหนไปด้วยกันเสมอ แทบไม่มีปัญหาอะไรในครอบครัว แต่ภรรยาที่แยกตัวไปนั้น มีอาการซึมเศร้า และชอบเก็บกดไว้กับตัวเองโดยไม่นำมาปรึกษาหรือบอกกล่าวให้ใครทราบ กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์สุดเศร้าในครั้งนี้ ตนยอมรับเสียใจมากและยังทำใจไม่ได้ โดยที่ในวันเผาศพพรุ่งนี้ (19 ก.ย.) อาจไม่ไปร่วมงานด้วย


อย่างไรก็ตาม แม่ของนายจิติพงษ์ กล่าวยอมรับว่า ตนไม่ใช่มือที่สามที่ทำให้ครอบครัวลูกชายนั้นแตกร้าว ที่ตอนอยู่ที่บ้านก็ไม่เคยทะเลาะกันแต่อย่างใด แต่ลูกสะใภ้ ชอบเก็บกดน่าจะมีโรคซึมเศร้า แต่ทุกคนไม่รู้ และไม่เคยที่จะให้ลูกสะใภ้ช่วยเหลือทางด้านการเงินแต่อย่างใด

คุณอาจสนใจ

Related News