สังคม

เปิดใจ! สาวขับรถไกล พาพ่อแม่รับเถ้ากระดูกหนุ่มดับในเกาหลี

โดย paranee_s

5 ก.ย. 2565

974 views

สืบเนื่องจากเหตุการณ์สลดใจในติ๊กต็อกเมื่อผู้ใช้ “apple252215” โพสต์คลิปคุณย่าร้องไห้โฮ กอดกล่องเถ้ากระดูกหลานชาย ท่ามกลางญาติที่ส่งเสียงร้องระงม โดยคลิปดังกล่าวมีผู้สนใจเข้าชม จนมียอดเข้าชมกว่า 3 ล้านวิว และพบว่าเป็นภาพที่เกิดขึ้นที่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลโนนเมือง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา หลังจากทางเจ้าหน้าที่ สายธารสะพานบุญ นำโดย นางสาวณีรตรี หรือเปิ้ล ประธานสมาคมสายธารสะพานบุญ จังหวัดหนองบัวลำภู แอดมินเพจที่นี่..เมืองหนองบัวลำภู กับญาติผู้ตาย ได้นำเถ้ากระดูก นายโชฎิพัฒน์ หรือ เทอร์โบ อายุ 26 ปี ที่ส่งกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ เนื่องจากเสียชีวิตในห้องน้ำที่พักเพื่อนคนงานไทย เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา


โดยแพทย์แจ้งว่าคนตายเสียชีวิตด้วยเหตุหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ก่อนทางญาติจะติดต่อขอความช่วยเหลือจากสถานทูตไทยในเกาหลีใต้ ให้ดำเนินการเผาศพและนำเถ้ากระดูกกลับมาบำเพ็ญกุศลในเมืองไทย


ผู้ใช้ติ๊กต็อกรายนี้ ระบุข้อความในภาพว่า “ทำงานจากต่างแดนหวังจะสร้างอนาคต แต่กลับมาแค่เผากระดูก พี่ส่งกลับบ้านแล้วนะ ส่งกระดูกจากเกาหลีมาหนองบัวลำภู” โดยในภาพ เป็นนาทีที่นางป้อม อายุ 75 ปี ย่าของผู้ตายที่เลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็ก เพราะพ่อแม่แยกทางกัน กอดกล่องเถ้ากระดูกหลานชายร้องไห้คร่ำครวญปิ่มใจจะขาด สร้างความสะเทือนใจต่อผู้พบเห็นอย่างมาก


นอกจากนั้น ผู้ใช้ติ๊กต็อกรายนี้ยังระบุ แคปชันต่อว่า “พี่ทำตามสัญญา เอาน้องกลับบ้านมาหาพ่อแม่และย่าแล้ว เสียชีวิตจากเกาหลีกลับไทยรับแค่ผงกระดูก” หลังจากคลิปเผยแพร่ออกไป ทำให้มีคนเข้ามาคอมเมนต์และแสดงความคิดเห็น แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นจำนวนมาก หลายรายบอกอดน้ำตาไหลไม่ไหวย่าแก่ ๆ รับกล่องใส่เถ้ากระดูกหลาน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น


วันนี้ 5 กันยายน 2565 นางสาวณีรตรี หรือเปิ้ล ประธานสมาคมสายธารสะพานบุญ จังหวัดหนองบัวลำภู แอดมินเพจที่นี่..เมืองหนองบัวลำภู เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับการประสานจากแฟนเพจญาติของ นายโชฎิพัฒน์ ผู้ตาย เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง จึงให้คำปรึกษาไปว่าให้ติดต่อสถานทูตไทยในเกาหลีใต้


จนเมื่อวันที่1 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ทางแฟนเพจแจ้งว่าอยากให้พาไปรับเถ้ากระดูกของ นายโชฎิพัฒน์ มาให้ ตนจึงขอรายละเอียดและกำหนดการที่วันเวลา สถานที่รับเถ้ากระดูก และจึงเดินทางไปที่บ้านผู้ตาย พร้อมรับปากว่าจะนำเถ้ากระดูกของ นายโชฎิพัฒน์ มาให้ย่าแน่นอน ขอให้รอ


ตนจึงนำรถแบบอเนกประสงค์ ขับพาพ่อแม่ และญาติผู้พี่ของผู้ตาย ไปรับเถ้ากระดูกที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อคืนวันที่ 2 กันยายน 2565 และกลับมาถึงบ้านผู้ตายประมาณเที่ยงเศษของวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา และเห็นภาพที่ทีมงานของตนถ่ายภาพ ขณะย่าของผู้ตาย รวมทั้งแม่ ป้า อาร้องไห้ ตนก็พลอยเสียน้ำตาด้วยความสะเทือนใจเหมือนกัน เมื่อเห็นหัวอกคนเป็นแม่ เป็นย่าต้องมาเสียลูกเสียหลานวัยหนุ่มไป ในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 2 คน


ส่วนการที่ตนเอาคลิปขณะที่ย่ารับกระดูกหลาน พร้อมร้องไห้คร่ำครวญมาโพสต์ในแอปฯ ติ๊กต็อกก็เพียงเพื่อจะประชาสัมพันธ์ เผยแพร่งานของสมาคมที่ตนทำอยู่เท่านั้น และตนก็โพสต์ภาพกิจกรรมการรับส่งศพมาโดยตลอด ส่วนยอดวิวที่มีผู้เข้าชมจำนวนหลักหลายล้านนั้นถือเป็นสิ่งที่ดีที่จะมีคนรู้จัก และใช้บริการงานของสมาคมได้มากขึ้น


ตอนนี้หลายคนที่มีปัญหาเดียวกันมีญาติเสียชีวิตที่ต่างประเทศก็ติดต่อขอความช่วยเหลือให้ช่วยนำศพหรือเถ้ากระดูกกลับมาประเทศไทย ตนก็ได้แต่แนะนำให้ติดต่อขอความช่วยเหลือสถานทูตของไทยในประเทศที่ญาติคนไทยเหล่านั้นไปเสียชีวิต ต้องให้ศพหรือเถ้ากระดูกมาถึงไทยแล้วเท่านั้น ทางสมาคมฯ หรือตนจึงจะสามารถไปรับมาให้ญาติได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย


นางสาวณีรตรี เสริมอีกว่า ในวันที่เดินทางกลับนั้น เมื่อขับรถออกจาก สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ตนรู้สึกเหมือนมีคนมาเป่าที่ต้นคอข้างหลังจนผมปลิว ตนตกใจจนขนลุกได้แต่พูดออกมาว่า “ไปกลับบ้านเราเด้อ! เทอร์โบ” ทุกสิ่งก็ปกติดีมาจนจะเข้าบ้านอยู่แล้ว จู่ ๆ ตนได้ยินเสียงสะอื้นไห้ดัง ๆ ออกมา 2-3 ครั้ง ตนจึงหันไปบอก พ่อ กับ แม่ของผู้ตายที่นั่งเบาะหลังว่า ร้องทำไม ไม่ต้องร้องแล้ว ทั้ง 2 คนบอกว่าไม่ได้ร้อง ถามญาติผู้พี่ที่ไปด้วยก็ว่าไม่ได้ร้อง


เมื่อจอดรถหน้าประตูบ้านตนลงรถแล้วยังได้ถามทั้งสามคน ทุกคนก็บอกว่าไม่ได้ร้องไห้จริง ๆ หรือ ตนจึงคิดว่าผู้ตายคงทั้งดีใจและเศร้าใจที่ได้กลับมาถึงบ้านแล้ว จึงพูดขึ้นดัง ๆ อีกครั้งว่า” ถึงบ้านแล้วเด้อ! เทอร์โบ เอ้ย!” จากนั้นทุกคนก็เข้าบ้าน


นางสาวณีรตรี เผยว่า ทำหน้าที่รับส่งศพมาจะเข้าปีที่ 2 แล้วไม่เคยเจอเรื่องแปลก ๆ แบบนี้มาก่อนเลย คิดเสียว่าเขาคงมาขอบคุณเราที่นำเขากลับมาถึงบ้านแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News