สลดใจ! พ่อเลี้ยงทุบตีสองพี่น้อง เศร้า 2 ขวบเสียชีวิต-น้องชาย 6 เดือนสาหัส

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 65 นางจันสุดา อินอิ่ม อายุ 44 ปี ชาวจ.พิษณุโลก พร้อมด้วยครอบครัว ได้เดินทางไปรับศพน้องข้าวฟ่าง อายุ 2 ขวบ หลานสาวที่เสียชีวิต แพทย์ให้นำศพจากนิติเวช รพ.มหาวิทยานเรศวร มาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ที่ศาลาวัดจุฬามณี หลังจากน้องข้าวฟ่าง ถูกน้ำตัวส่งโรงพยาบาล เมื่อเย็นวานที่ผ่านมา เนื่องจากอาการหมดสติก่อนจะเสียชีวิต

จากการชันสูตรศพน้องข้าวฟ่าง เสียชีวิตเนื่องจากตับแตก ม้ามแตก เลือดคั่งในกระเพาะ ซึ่งขัดแย้งกับญาติที่นำส่งโรงพยาบาลว่า น้องมีอาการสำลักนม จนไม่หายใจ แพทย์จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่อยมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมกับสืบสวนญาติผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตทันที

ทั้งนี้ หลังจากแพทย์ได้ทำการผ่าชันสูตรศพแล้ว นางจันสุดา ผู้เป็นย่า ได้นำร่างของหลานสาวมาตั้งบำเพ็ญกุศล โดยนางจันสุดา ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเป็นย่าของน้องข้าวฟ่าง แม่ของน้องข้าวฟ่างได้เลิกกับลูกชายของตน แล้วก็ไปมีแฟนใหม่ แต่ก็ยังอยู่ห้องเช่าติดกัน และได้รับน้องข้าวฟ่างไปอยู่ด้วย ต่อมาแม่ของน้องข้าวฟ่าง ก็ได้มีลูกชาย กับแฟนใหม่อีก 1 คน ชื่อน้องบาส (นามสมมติ) ปัจจุบันอายุ 6 เดือนเท่านั้น และได้เลิกกับแฟนใหม่ ก่อนจะได้แฟนอีกคน เป็นคนที่ 3 และได้มาอยู่ด้วยกันที่ห้องเช่าติดกับตน ที่ผ่านมาตนเห็นหลานสาวเข้าออกบ้าน โดยที่ทางแม่น้องข้าวฟ่าง ไม่ให้มายุ่งเกี่ยว ตนก็อยากนำหลานมาเลี้ยงเอง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ

กระทั่งเมื่อช่วงตี 4-5 ที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่นาน ก็ไม่ได้สงสัยอะไร จน 5 โมงเย็น แม่น้องข้าวฟ่าง โทรศัพท์มาบอกว่าน้องข้าวฟ่าง เข้าโรงพยาบาล เนื่องจากหมดสติ ซึ่งตนก็ตกใจกำลังจะเดินทางไปดูหลาน แต่สุดท้ายแม่น้องข้าวฟ่าง โทรศัพท์มาบอกว่า น้องเสียแล้ว ทำให้ตนเสียใจเป็นอย่างมาก จึงรีบไปโรงพยาบาล แพทย์ได้ทำการสอบถามเพิ่มเติมว่าน้องข้าวฟ่าง ถูกกระทำด้วยหรือไม่ เนื่องจากผลชันสูตร ไม่ใช่การสำลักนม แต่ร่างกายถูกของแข็งทำร้ายร่างกาย จนเสียชีวิต ตนก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างที่สงสัย

น.ส.ดาวรุ่ง อายุ 33 ปี น้าที่สนิทกับแม่น้องข้าวฟ่าง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลา 4 โมงเย็นวานนี้ (15 ส.ค.) พ่อเลี้ยงได้โทรศัพท์มาหาตนว่า "น้ามาดูหลานหน่อย ไม่รู้เป็นอะไรปลุกไม่ตื่น" เมื่อตนไปถึงพ่อเด็กก็อุ้มออกมาส่งให้ แต่พอจับตัวน้องตัวเย็นมาก แขนห้อย ไม่หายใจแล้ว จึงรีบบอกพี่ชายให้ขับรถนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร

"นี่ขนาดรีบเหยียบฝ่าไฟแดง จากบ้านไป รพ. 5 นาที ยังไม่ทัน น้องเสียชีวิตแล้ว ตอนไปรับก็คิดว่าหลานป่วยไม่คิดว่าหลานจะเสียชีวิต ดูแล้วเสียชีวิตมานานหลายชั่วโมงแล้ว แพทย์แจ้งผลว่าเสียชีวิต เด็กตับแตก ม้ามแตก เลือดคั่งในกระเพาะ ศีรษะเป็นแผล แพทย์ก็สงสัยว่าเป็นแบบนี้ได้อย่างไร รู้สึกไม่เข้าใจว่าทำได้อย่างไง เท่าที่สัมผัส พ่อเลี้ยงรักเด็ก 2 คนนี้มาก เวลาแม่เด็กไปทำงานก็ป้อนนำ ล้างก้นน้องเวลาถ่าย ดูแลอย่างดี" น.ส.ดาวรุ่ง กล่าว

ส่วนน้องตัวเล็กวัย 6 เดือน แพทย์ก็เห็นร่องรอยช้ำที่ร่างกาย ขณะพาไปด้วยที่โรงพยาบาล แพทย์เลยนำไปตรวจ ก็พบว่าตับอักเสบ แขนหัก ขาร้าว หน้าตาบวมเขียวช้ำ ก็รับเข้าทำการรักษาในทันที

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำตัวพ่อเลี้ยงของเด็ก อายุ 21 และแม่วัย 17 ปี มาทำการ แยกสอบสวนเพื่อหาความจริงที่เกิดเหตุ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยใช้เวลานานเกือบ 7 ชม. พ่อเลี้ยงเด็ก ให้การยอมรับว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุทุบตี น้องข้าวฟ่าง จริง อ้างว่าน้องข้าวฟ่าง ซุกซนไปหยิบปลั๊กไฟบ้าง สิ่งของอื่นบ้าง แต่ก็ไม่คิดว่ารุนแรง และเป็นเหตุให้เสียชีวิต ส่วนน้องบาส วัย 6 เดือนนั้น ก็ใช้เพียงท่อนแขนตีไปลำตัวเท่านั้น ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงได้นำมาตัวสอบสวนเพิ่มอีกครั้ง ก่อนจะสรุปสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งต่อไป