สังคม

รวบแล้ว! หนุ่มนทท.ต่างชาติ จับปลานกแก้วในเกาะพีพี อ้างไม่รู้เป็นที่อุทยานฯ

โดย paranee_s

16 ส.ค. 2565

562 views

วันที่ 16 สค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนทท.ยิงปลานกแก้วที่เกาะพีพี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมตัว นาย Roslan Benedia อายุ 30 นักท่องเที่ยวชาว เนเธอร์เเลนด์ ในพื้นที่จ.ภูเก็ต หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอ ลงบนติ๊กต็อกบัญชี @roslanofficial โดยเจ้าของบัญชีติ๊กต็อก และกัปตันเรือ ได้ร่วมกันล่าสัตว์ ซึ่งเจ้าของบัญชียืนถือปลานกแก้ว 2 ตัว ปลาไม่ทราบชนิด 3 ตัว และใช้มีดแทงหัวปลาไหลมอเรย์ 1 ตัว ยืนอยู่บนเรือ


เบื้องต้น นาย Roslan ให้การรับสารภาพว่า ได้เช่าเรือยางยาวนำเที่ยว และปืนยิงปลา จากเกาะพีพีดอน ไปยังเกาะพีพีเล ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ โดยมี นายกฤษณะ เป็นกัปตันเรือ เเล้วออกไปยิงปลาที่ บริเวณ เกาะพีพีเล เวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 9 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าไม่ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่


หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจเกาะพีพี อ.เมืองกระบี่ ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ขยายผลไปถึงเจ้าของเรือผู้ให้เช่าเรือ และผู้ให้บริการเช่าปืนยิงปลา ดำเนินการตามกฎหมาย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ฉบับลงวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ด้านนายฑีฆาวุฒิ ศรีบุรินทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวว่า หลังจากใช้เวลา 5 วัน ตั้งแต่มีคลิป ทางอุทยานฯ ร่วมกับตำรวจในพื้นที่ จ.กระบี่ ตำรวจท่องเที่ยวสามารถติดตามตัวนักท่องเที่ยวชื่อ Mr.Roslan สัญชาติเนเธอร์เเลนด์ ที่หลบหนีจาก จ.กระบี่ มาที่จ.ภูเก็ต และรวบตัวได้เมื่อวานนี้ (15 ส.ค.) นักท่องเที่ยว อ้างว่าไม่รู้ว่าเขตอุทยานฯ แต่ยอมรับสารภาพทั้งหมด มีการแจ้งข้อหานักท่องเที่ยว และกัปตันเรือโดน 5 ข้อหาฐานความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ซึ่งมีโทษทั้งปรับ และจำคุก เบื้องต้นจากพาสปอร์ตจะอยู่ในไทยถึงวันที่ 21 ส.ค.นี้


การกระทำของนักท่องเที่ยวคนนี้ถือเป็นการดูถูกคนไทย การที่ตกปลาและถ่ายภาพคลิปลงโซเชียล และอ้างว่าไม่รู้ ฟังไม่ขึ้น เพราะเข้ามาในเขตอุทยานฯ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ และมีการทำป้ายเตือนระเบียบต่างๆ ทั้ง 3 ภาษา เรื่องนี้เป็นผลกระทบต่อการท่องเที่ยว


ส่วนกัปตันเรือ และเจ้าของเรือได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้ความร่วมมือกับตำรวจและทางอุทยานฯ เป็นอย่างดี แต่จะต้องถูกทำทัณฑ์บนไว้ โดยอาจจะมีการพักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการเรือท่องเที่ยวชั่วคราว เพื่อให้หลาบจำ พร้อมสั่งการเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดลาดตระเวนป้องกันการกระทำผิด ตาม พรบ. อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช


คุณอาจสนใจ

Related News