“ชัชชาติ” สุ่มตรวจผับย่านรัชดาฯ พบทางเข้าออกเดียว-ไฟฉุกเฉินเสีย สั่งปิดจนกว่าจะแก้ไข

วันนี้ (8 ส.ค. 65) ตั้งแต่เวลา 17.30 น. ณ สถานประกอบการแห่งย่านรัชดาซอย 36 และย่านถนนพหลโยธิน พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายอภิวัฒน์ ด่านศรีชาญชัย ส.ก.เขตจตุจักร นายพรเลิศ เพ็ญพาส ผู้อำนวยการเขตจตุจักร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยสถานีดับเพลิงลาดพร้าวและสุทธิสาร เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการที่ให้บริการคล้ายสถานบันเทิง


พล.ต.อ.อดิศร์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบสถานประกอบการแต่ละแห่งพบว่า หลายแห่งมีใบอนุญาตประเภทธุรกิจร้านอาหาร และใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกต้องตามกฎหมายแต่เนื่องจากทางร้านมีการแสดงดนตรีสดจึงเข้าข่ายประกอบธุรกิจสถานบันเทิง และเมื่ออ้างอิงตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ที่ระบุว่า อาคารประเภทสถานบันเทิงต้องมีทางเข้าออก ทางออกฉุกเฉิน (ทางหนีไฟ) อย่างน้อย 2 ทาง ซึ่งบางร้านมีการดัดแปลงจากอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นจำนวน 3 คูหา ตั้งสถานบริการที่ชั้น 2 โครงสร้างอาคารไม่ได้มาตรฐาน มีทางเข้าออกเพียงทางเดียว และไม่มีอุปกรณ์ในการระงับเหตุอัคคีภัย หรือมีแล้วหมดอายุ เสื่อมสภาพไม่สามารถใช้งานได้ จะถือว่าฝ่าฝืนตามข้อระเบียบ


ทางสำนักงานเขตจตุจักรจึงส่งหนังสือให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ทำการปรับปรุงเพิ่มเติม เช่น กำหนดทางหนีไฟ และอุปกรณ์ในการระงับเหตุอัคคีภัย เช่น มีถังดับเพลิง 1 ถังต่อพื้นที่ 100 ตารางเมตร รวมถึงส่วนประดับตกแต่งที่เป็นวัสดุติดไฟออกจากร้าน จึงกลับมาเปิดให้บริการได้ แต่ยังคงห้ามมีการแสดงดนตรีสดอยู่ หากทางร้านไม่ได้ยื่นขออนุญาตแสดงดนตรีในสถานบริการหรือร้านอาหารกับทางสำนักงานเขต และจะเปิดเป็นสถานบันเทิงไม่ได้เพราะอยู่นอกโซนนิ่งที่กฎหมายระบุไว้ให้พื้นที่โซนนิ่ง เฉพาะบางรัก พัฒน์พงษ์ มักกะสัน เพชรบุรี RCA รัชดา ห้วยขวาง


อย่างไรก็ตาม สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบจะมีการตรวจเป็นแบบกลุ่มคณะที่แจ้งพื้นที่ล่วงหน้า และการสุ่มตรวจโดยเจ้าหน้าที่จะเป็นนักท่องเที่ยวเข้าตรวจในแต่ละสถานประกอบการ ส่วนปัญหาการเก็บส่วยในพื้นที่ พล.ต.อ.อดิศร์ กล่าวเพิ่มเติมว่าไม่ว่าจะเป็นการเก็บจากเจ้าหน้าที่ระดับไหนสามารถแจ้งได้ที่ระบบทราฟฟี่ ฟองดูวร์หรือที่สำนักงานเขต เพราะเรื่องนี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีการกำชับมาชัดเจนให้ป้องกันและปราบปราม รวมถึงการตรวจสถานประกอบการสถานบันเทิงจะต้องส่งผลรายงานเป็นประจำทุกเดือน เพื่อให้เห็นถึงความคืบหน้าการปรับปรุงแก้ไข


ด้านนายพรเลิศ ผอ.เขตจตุจักร กล่าวว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่จตุจักรมีร้านอาหารที่ประกอบธุรกิจคล้ายสถานบันเทิง 46 แห่งทำถูกต้องตามระเบียบ 11 แห่ง มีการปรับปรุงแล้ว 17 แห่งเหลืออีก 18 แห่ง ที่ต้องแก้ไขทางหนีไฟให้ถูกต้องพร้อมติดตั้งไฟฉุกเฉินและอุปกรณ์ดับเพลิง โดยในพื้นที่เขตจตุจักรภายใต้ความดูแลของสน.พหลโยธิน มีสถานประกอบการที่จดแจ้งเป็นสถานบันเทิงที่เดียวเพราะเปิดให้บริการก่อนการจัดระเบียบโซนนิ่งของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งสถานบันเทิงดังกล่าวทำถูกต้องตามระเบียบ


โดยระหว่างตรวจสอบร้านย่านถนนพหลโยธิน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบด้วย เบื้องต้นร้านดังกล่าวผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนด แต่ยังขาดป้ายแสดงทางหนีไฟ ซึ่งทางร้านจะมีการแก้ไขตามที่เจ้าหน้าที่ได้แนะนำ


ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้กล่าวชื่นชมทางสำนักงานเขตจตุจักร ที่ได้ตรวจสถานประกอบการได้หลายแห่งและมีความละเอียด อย่างไรก็ตามต้องดูความเสี่ยงของแต่ละร้านตามความเหมาะสมด้วย