แม่เด็ก 17 เหยื่อไฟไหม้ผับทำใจไม่ได้ รับศพลูกร่ำไห้เป็นการจากลาที่พูดยาก

เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 65 เวลา 15.50 น. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ น.ส.รำไพ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี อายุ 17 ปี แม่ของนายกรวิทย์ นักเรียนชั้นม.5 เปิดเผยว่า ตนยังติดใจว่าลูกชายเข้าไปได้อย่างไรเพราะอายุยังไม่ถึง 18 ปี และประเด็นหลักคือตนไม่ทราบว่าเขาไปเที่ยว เขาบอกว่าจะกลับบ้าน ขอไปเอากระเป๋าบ้านเพื่อน ตนไม่ทราบเลยว่าเขาจะไปเที่ยวสถานที่แบบนั้น มารู้ข่าวอีกครั้งในเวลา 06.00 น. มีคนมาบอกที่บ้าน ตนจึงอยากเอาผิดเจ้าของผับ โดยขอให้ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะญาติคนตายทุกคนอยากเรียกร้องในเรื่องนี้ ส่วนประเด็นเรื่องประตูเหมือนจะแคบไป รุ่นพี่ที่ตามไปทีหลังเล่าเหตุการณ์ว่าเขาตามไปแล้วก็เข้าห้องน้ำ ซึ่งในผับไม่น่าจะมีที่สูบบุหรี่ในนั้น เดินไม่ถึง 3 ก้าวก็ระเบิดเลย ก็ช่วยกันต่อยและถีบกระจกออกมา ทำให้แขนโดนรอยกระจกบาด

น.ส.รำไพ กล่าวด้วยว่า ลูกชายของตนจะกลับบ้านทุกวัน แต่คืนนั้นตนได้ถามว่าจะไปไหน เพราะเดินออกมาดูรถจักรยานยนต์ เขาบอกว่าจะไปบ้านเพื่อนเพื่อไปเอากระเป๋า ลูกบอกว่า "ผมจะกลับมานอนที่บ้าน" ตนติดต่อได้ครั้งสุดท้ายคือช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. โทรศัพท์ไปถามเพราะไม่อยากให้เขาไปดึก บางครั้งก็ไปกับเพื่อนแถว ๆ นั้น แต่ก็ไม่เคยกลับบ้านเกินเวลา 23.00 น.

ส่วนประเด็นเข้าไปในผับ นางสาวรำไพ ระบุว่า ลูกชายไม่น่าจะปลอมแปลงบัตรเข้าไป ตนมองว่าทางร้านน่าจะปล่อยปละละเลย และหละหลวมมากกว่าถึงปล่อยให้เข้าไปได้ แต่ก็จะต้องตรวจสอบบัตรอยู่แล้ว ทั้งนี้ นายกรวิทย์ เป็นลูกชายคนโต กำลังจะศึกษาต่อระดับชั้นม.6 และเป็นนักศึกษาวิชาทหาร เพราะน้องมีความฝัน ต้องการรับราชการ เป็นทหารหรือตำรวจ

"ทางร้านติดต่อมาเมื่อวานนี้ทเรื่องการจัดการงานศพว่าจัดที่ไหน เพราะจะส่งพวงหรีดมาแสดงความเสียใจ และพูดถึงเรื่องเงินเยียวยา แต่เราขอคุยรายละเอียดในเรื่องนี้ในภายหลัง เพราะเราสูญเสียลูกชายไป จึงอยากฝากถึงสถานบันเทิงต่าง ๆ ว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก มีกรณีซานติก้าผับมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก อยากให้ทำทางเข้าออกหลายประตู และมีไฟแจ้งเตือน ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ ๆ แบบนี้อีก ขอให้มีมาตรฐานความปลอดภัยกว่านี้" น.ส.รำไพ กล่าว

น.ส.รำไพ กล่าวทั้งน้ำตาว่า เป็นการจากลาที่พูดยาก แม่ยังทำใจไม่ได้ และยังยอมรับไม่ได้เพราะไม่ได้ร่ำลา "เราก็หวังกับเขาอยู่ เวลาเห็นหน้าเขา เพื่อนเขาก็เสียใจ เขามีเพื่อนรักที่โรงเรียนเยอะมาก เพื่อน ๆ ถามแม่ตลอดว่าศพไว้วัดไหน จะไปรดน้ำศพน้อง รุ่นน้อง รุ่นพี่ และเพื่อนเขามีเยอะ มีเพื่อนของลูกที่เป็นทหารเสียชีวิต 1 คน" แต่เพื่อนรุ่นเดียวกันที่ไปวันนั้นไม่มี วันนั้นเขาไปกับรุ่นพี่ 2 คน เขาชอบวงดนตรีนี้มาก เขาอยากไปดู เขาไม่เคยได้ไปดู แต่เพื่อน ๆ เขาพยายามห้ามเพราะอยากให้อยู่วันเกิดของเพื่อนอีกคนหนึ่ง แล้วเหมือนมีลางว่าน้องอยากไปมาก ๆ จนลูกชายยอมไปกับรุ่นพี่

ส่วนเรื่องลางบอกเหตุ น.ส.รำไพ กล่าวว่า ตนก็เป็นห่วงเขาปกติ และวันนั้นซื้อกางเกงจากตลาดนัดมาให้เขา 3 ตัว เขาลองใส่ดูก็ชอบที่ตนซื้อให้ เมื่อตกกลางคืนเขาก็ออกไปเอากระเป๋าที่บ้านเพื่อน กระทั่งดึกมากจึงโทรศัพท์ไปถามว่ากลับบ้านหรือไม่ ลูกชายก็ตอบว่า "ผมกลับครับแม่" และเป็นสายสุดท้ายที่ได้คุยกัน มาทราบข่าวอีกครั้งตอนเช้า ทั้งนี้ ตนได้เตรียมจัดดอกไม้และเตรียมงานที่วัดสัตหีบ (วัดหลวงพ่ออี๋) ศาลา 2 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี